วันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 16:04 น.
ทส. เห็นชอบขึ้นทะเบียน "ซากดึกดำบรรพ์หอยขมเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง" เป็นแหล่งที่ 27 ของประเทศ
16 กันยายน 2568 ดร. ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ ครั้งที่ 2/2568 โดยมีนายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผ่านระบบ Video Conference เพื่อรับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์
การประชุมครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณาแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ และกรรมการในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนจัดการซากดึกดำบรรพ์ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 นอกจากนี้ยังได้เห็นชอบ (ร่าง) แผนพัฒนาเชิงบูรณาการพื้นที่แหล่งซากดึกดำบรรพ์สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเขาน้อย อำเภอละงู จังหวัดสตูล (ร่าง) แผนพัฒนาเชิงบูรณาการพื้นที่แหล่งซากดึกดำบรรพ์หอยขมเหมืองแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พร้อมทั้งให้นำข้อเสนอแนะคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิไปประกอบการพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานเพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้ขึ้นทะเบียนแหล่งซากดึกดำบรรพ์หอยขมเหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พื้นที่ 52 ไร่ เป็นแหล่งซากดึกดำบรรพ์แหล่งที่ 27 ของประเทศไทย ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการอนุรักษ์และบริหารจัดการมรดกทางธรณีวิทยาของชาติอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งให้นำข้อเสนอแนะคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิไปประกอบการพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานเพื่อให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี ระบุว่า ซากดึกดำบรรพ์ฟอสซิลหอยขม 13 ล้านปี อ.แม่เมาะ พบในพื้นที่ประทานบัตรเลขที่ 24349/15341 พบการวางตัวแทรกระหว่างถ่านหินสองชั้น หอยขมแม่เมาะ เป็นหอยน้ำจืดสกุล Bellamya sp. เป็นส่วนใหญ่ มีสีและขนาดต่าง ๆ กัน สะสมตัวต่อเนื่องโดยไม่มีชั้นดินแทรกสลับ ชั้นหอยขมแสดงลักษณะเป็นชั้นสลับกันระหว่างชั้นหอยที่แตกหักกับชั้นหอยที่มีรูปทรงสมบูรณ์ ชั้นหอยมีทิศทางการเอียงเทไปทางประมาณทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วยมุมเท 20 องศา อาศัยอยู่บนพื้นดินโคลน กินอาหารจำพวกสาหร่าย ตะไคร่ แพลงก์ตอน สัตว์น้ำขนาดเล็ก และจอกแหนในหนองบึง สืบพันธุ์ได้ทุกฤดูการ เริ่มปรากฏในสายวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคจูราสสิค 200-145 ล้านปี
หอยขมดึกดำบรรพ์มีอายุประมาณ 13 ล้านปี ช่วงเวลาดังกล่าวแอ่งแม่เมาะเป็นแอ่งทะเลสาบน้ำจืดอยู่ในภูมิอากาศแบบเขตร้อน รอบแอ่งเป็นป่าไม้เขตร้อน ชายฝั่งมีต้นกกขึ้นโดยทั่วไปในลักษณะป่าพรุ หอยขมอาศัยอยู่ตามชายฝั่ง มีลักษณะเป็นชุมชนหนาแน่น การล้มตายตามธรรมชาติรุ่นแล้วรุ่นเล่า ก่อให้เกิดการสะสมตัวของซากเปลือกหอยเป็นชั้นๆ อย่างต่อเนื่อง จนทำให้กลายเป็นชั้นเปลือกหอยหนา โดยมีความหนาของชั้นหอย ตั้งแต่ 3-12 เมตร เฉลี่ยประมาณ 8 เมตร การค้นพบที่แม่เมาะครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการพบชั้นหอยดึกดำบรรพ์ที่หนาที่สุดในประเทศไทยเท่าที่เคยพบมา คือหนาถึง 12 เมตร
จากการตรวจสอบข้อมูลทั่วโลกขณะนี้ยังไม่มีรายงานใดระบุว่ามีการพบชั้นหอยน้ำจืดหนาเกินชั้นหอยขมแม่เมาะ จึงถือได้ว่า ชั้นหอยขมที่เหมืองแม่เมาะ เป็นชั้นหอยขมน้ำจืดที่หนาที่สุดในโลก



