หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 กันยายน 2568

วันที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 05:40 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 กันยายน 2568


>> เพลิงไหม้โรงงานรีไซเคิล ย่านชุมชนมาบชลูด มาบตาพุด เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงแล้ว เบื้องต้นไร้ผู้บาดเจ็บ

07.52 น. เทศบาลนครมาบตาพุด ได้รับแจ้งจากประชาชน ว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโกดัง บริวเวณแยกส้มหล่น ชุมชนมาบชลูด - ชากกลาง ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง (ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับวัสดุรีไซเคิลทั่วไป) สำหรับสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

หน่วยงานที่เข้าให้การระงับเหตุ ประกอบกอบด้วย เทศบาลนครมาบตาพุด มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ ได้นำรถดับเพลิงอเนกประสงค์ จำนวน 4 คัน รถกู้ชีพกู้ภัย จำนวน 6 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าทำการระงับเหตุดังกล่าว แนวโน้มสถานการณ์ คาดว่า ลักษณะพื้นที่เกิดเพลิงไหม้เป็นโกดังขนาดกลาง ตั้งอยู่ในที่โล่ง ไม่มีผลกระทบข้างเคียง คาดว่าจะดำเนินการระงับเหตุให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ปภ.ระยองรายงานว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้บาดเจ็บผู้เสียชิวิตแต่อย่างใด


>> "สุชาติ​" ทิ้งทวน ตั้ง คกก.สอบ​ เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​

08.15 น. นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า​ มีการร้องเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหารผ่านโซเชียล​มีเดีย​ เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้น จึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมไปถึงสำนักงานพระพุทธศาสนา ​และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป ส่วนกรอบระยะเวลาการตรวจสอบ คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์

นายสุชาติ​ ยอมรับว่าเรื่องนี้มีมูลมานานแล้ว ตนก็เคยไปสอบถามและเตือนเจ้าอาวาสมาแล้ว ว่ามีเรื่องใดที่ผิดพระธรรมวินัย แต่เนื่องจากวันนี้มีเสียงร้องเรียนจากโซเชียล​ จึงต้องดำเนินการ

นายสุชาติ กล่าวว่า วัดโสธรฯ​เป็นวัดที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก แต่เราไม่ทราบว่าเจ้าอาวาสมีทรัพย์สินขนาดไหน​ เพราะเห็นว่ามีการโอนกันไปมา​ แต่อย่าลืมว่าพระสังฆาธิการคือเจ้าพนักงาน เรื่องนี้สำคัญที่สุด เมื่อถามว่า จำเป็นที่เจ้าอาวาสจะต้องลาสิกขาระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือไม่ นายสุชาติ​ กล่าวว่า ยัง เพราะท่านยังไม่ผิดต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าเรื่องสีกาที่เขาร้อง​ เป็นความจริงหรือไม่


>> ไฟช็อตหัวขโมย ลอบตัดสายไฟเสียชีวิต

12.35 น. สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งว่า มีคนพบร่างผู้เสียชีวิต อยู่บริเวณใต้ต้นไม้ และใต้เสาไฟ ฝั่งตรงข้ามกับบริเวณจุดพักรถ โค้งภูซาติ ถนนชัยภูมิ-แก้งคร้อ ขาเข้าเมืองชัยภูมิ เขตตำบลโพนทอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุด ไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิและหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชายหนึ่งราย อายุประมาณ 35 - 40 ปี รวมเสื้อสีเทา กางเกงขาสั้นสีดำ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด เสียชีวิตมาแล้วประมาณไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง มีร่องรอยถูกไฟไหม้ ถูกไฟช็อต บริเวณมือขวา และเท้า เป็นร่องรอยเหมือนไฟช็อตและไหม้เกรียม จากการตรวจสอบในกระเป๋ากางเกงผู้เสียชีวิต พบว่ามีอุปกรณ์ตัดสายไฟ และ ครีมตัดสายไฟ บริเวณใกล้เคียงพบอุปกรณ์ตัดสายไฟตกอยู่ ห่างออกไปราว 10 เมตร ยังพบกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ ซุกอยู่ภายในป่า จึงนำมาตรวจสอบพบอุปกรณ์ตัดสายไฟ และโทรศัพท์หนึ่งเครื่อง อยู่ภายในกระเป๋าเป้(เครื่องแบตหมด)

จากการสอบถามผู้พบเห็นหรือผู้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจุดพักรถ เล่าว่า ตนเองนั้นได้มาพักรถบริเวณดังกล่าว ก่อนที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำและจัดกำลังจะกลับขึ้นรถ ได้มองมาฝั่งตรงข้ามพบลักษณะเหมือนมีคนนอนคว่ำหน้าอยู่ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เกรงว่าบุคคลดังกล่าวจะได้รับอันตราย จนกระทั่งทราบว่าบุคคลดังกล่าวนั้นนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตแล้ว 
ด้าน พ.ต.ท.ศิริ จันทร์ดีศรี สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ ได้ส่งร่างไปทำการชันสูตรที่โรงพยาบาลชัยภูมิ และจะได้ทำการเปิดเครื่องโทรศัพท์ เพื่อติดต่อหาญาติ และจะประสานญาติให้กลับมารับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป

>> กลุ่มเด็กหญิงชวนมาเล่นน้ำ ก่อนจะจมหายไป 3 คน จนท.ลงงมค้นหา ก่อนจะพบร่างจมอยู่ใต้น้ำ

13.00 น. มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รับแจ้งมีผู้สูญหายในน้ำ ที่ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี

ที่เกิดเหตุ บริเวณใต้สะพานห้วยทราย เบื้องต้นรับแจ้งว่าเด็กได้มาเล่นน้ำ ด้วยกัน 5คน และได้จมน้ำสูญหายไป 3 คน นักประดาน้ำถึงที่เกิดเหตุได้ประชุมวางแผนค้นหาร่วมกัน ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จึงพบร่างของผู้สูญหายทั้ง 3 ราย เป็นเด็กหญิง อายุ 13 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดุง พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ และได้มอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป


>> ดินสไลด์และกำแพงทรุดตัวจากฝนตกหนัก ที่ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

13.01 น. ฝ่ายปกครองหมู่ที่ 14 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์ฝนตกหนักที่ส่งผลให้เกิดดินสไลด์และดินทรุดตัวในหลายจุด จากการสำรวจพบความเสียหาย

ทางสาธารณะคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ในชุมชนจำนวน 2 จุด มีไหล่ทางทรุดตัว และมีกำแพงบ้านทรุดทับเส้นทางสัญจรของชาวบ้าน รั้วศูนย์พัฒนาเด็กเล็กพระราชทานบ้านนอแล ได้รับความเสียหายจากดินทรุดและดินสไลด์จำนวน 1 จุด ดินสไลด์ บริเวณทางสาธารณะและบ้านเรือนประชาชนอีกจำนวน 3 จุด

ในเบื้องต้น ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงทรัพย์สินของทางราชการและสาธารณูปโภคของชุมชนที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการเพื่อเข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ต่อไป


>> ลูกสาวช็อกตามหาพ่อหายอกจากบ้านพบอีกทีกลายเป็นศพอยู่กองขยะข้างทาง

13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางพลี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ว่ามีคนไปพบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่ริมแอ่งน้ำข้างทาง ภายในซอยบางปลา 12 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านยืนมุ่งดูเหตุการณ์จำนวนมาก โดยมีทางด้านภรรยาและบุตรสาวของผู้ตายยืนร้องไห้เสียใจอยู่ข้างๆ สอบถาม ภรรยาของผู้ตาย บอกว่า สามีชื่อว่า นาย สุริยา อายุ 40 ปี มีอาชีพเก็บของเก่าขาย มาระยะหลังสามีติดสุราอย่างหนักจนกลายเป็นโรคสุราเรื้อรัง หากวันไหนไม่ได้ดื่มสุราก็จะทรมานและแขนขาไม่มีเรี่ยวมีแรง ต้องคอยออกไปเก็บขวดพาสติกเอามาขายเพื่อเอาเงินไปซื้อสุราดื่มกินทุกวัน ที่ผ่านมาตนเองและลูกสาวก็พาไปรักษาที่โรงพยาบาลและพยายามกันไม่ให้ดื่มมากเกินไปตามที่แพทย์แนะนำ พอมาวันนี้ช่วงสายๆ สามีบอกว่าจะออกไปเก็บขวดเพื่อนำไปขายหาเงินซื้อเหล้า ฝ่ายลูกสาวก็ห้ามปราบและบอกว่าจะออกมาซื้อให้เองไม่ต้องออกไป แต่สามีก็ไม่ฟัง และเดินออกจากบ้านพักมาตั้งแต่ช่วงสิบโมงวันนี้

จนกระทั่งบ่ายโมงยังไม่เห็นกลับเข้าบ้านตนเองกับลูกสาวจึงพากันขี่รถ จยย.ออกตามหาจนมาพบถุงซิบที่สามีใช้สำหรับเก็บขวดวางกองอยู่ข้างทาง จึงจอดรถลงมาดูพบว่า สามีหน้าคว่ำอยู่ในน้ำแล้ว ตอนนั้นตกใจมากจึงช่วยกันกับลูกสาวพลิกตัวและดึงสามีขึ้นมาจากน้ำและพบว่าหน้าซีดเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากอาการหน้ามืดหมดแรงหัวขม่ำลงไปในน้ำ

ขณะที่จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งยังสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์เพื่อผ่านชันสูตร หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้งก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาติรับกลับไปดำเนินการตามประเพณี


>> เพลิงไหม้รถจักรยานยนต์ ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 28

14.53 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 28 แยก 4 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะเป็นรถจักรยานยนต์ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ประชาชนใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ประสบอุบัติเหตุลื่นล้มทำให้เกิดการลุกไหม้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยเฉลิมพระเกียรติ


>> เด็กขี่ซาเล้งส่งพัสดุงานเข้า เจอ ตร.เรียกตรวจ พบบุหรี่เถื่อนเพียบ

15.27 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมนายมอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี พร้อมยึดรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง (ซาเล้ง) ที่บรรทุกบุหรี่ต่างประเทศหนีภาษีกว่า 198,380 มวน คิดเป็นจำนวนซองได้ถึง 9,397 ซอง ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. กำลังปฏิบัติหน้าที่พบเห็นรถซาเล้งคันหนึ่งมีท่าทีพิรุธ จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบ พบกล่องพัสดุจำนวนมากอยู่บนรถ เมื่อเปิดดูพบเป็นบุหรี่ต่างประเทศที่ไม่มีแหล่งที่มาที่แน่ชัด และนายมอ ก็ไม่มีเอกสารใดๆ มาแสดง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายมอ ให้การว่าตนเป็นพนักงานรายวันของบริษัทขนส่ง และกำลังขนส่งสินค้าจากจุดรับของเพื่อนำไปส่งที่คลังสินค้าของบริษัท โดยปฏิเสธว่าไม่ทราบว่าภายในกล่องพัสดุเป็นบุหรี่เถื่อน

ต่อมา น.ส.ฟอ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการคลังสินค้าและหัวหน้าของนายมอ (นามสมมุติ) ได้เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายมอ เป็นเพียงคนขับรถที่ทำหน้าที่รับ-ส่งพัสดุตามคำสั่งเท่านั้น แต่สันนิษฐานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่เถื่อนนี้น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สาขาจุดรับของและลูกค้าที่เป็นเจ้าของพัสดุ

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายมอ ในข้อหา "ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสีย ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังไม่ได้เสียภาษี" ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 และส่งตัวพร้อมของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.ยะรัง เพื่อสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> รวบสาวแสบ "แก๊งหลอกหารถ ส่งขายออกนอกประเทศ"

17.44 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ป. จับกุม นางสาวนอ (นามสมมุติ)ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด”

สืบเนื่องจากกลุ่มของผู้ต้องหาได้มีการร่วมกันวางแผนติดต่อเช่ารถจากผู้ปล่อยเช่ารายย่อย หรือ หารถซี่งติดจำนำอยู่กับผู้รับจำนำรายต่างๆ หลายพื้นที่ โดยส่วนใหญ่จะเน้นเป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ ในส่วนของผู้เสียหายที่ได้ปล่อยให้เช่ารถ หลังจากกลุ่มของผู้ต้องหาได้เช่ารถไปแล้ว ผู้เสียหายได้ทำการตรวจสอบจีพีเอส ของรถแล้วพบว่ามีการเดินทางไปยังจังหวัดปทุมธานี หลังจากนั้น ก็ไม่สามารถตรวจเช็คพิกัด จีพีเอสได้อีก จึงคาดว่าน่าจะถูกถอด จีพีเอส ออกไป เพื่อไม่ให้ติดตามรถได้

และในส่วนของผู้เสียหายที่ได้นำรถยนต์ไปจำนำไว้ เมื่อถึงเวลาไถ่ถอนรถผู้เสียหายได้ติดต่อเพื่อไถ่ถอนรถคืน แต่ปรากฏว่ารถถูกกลุ่มของผู้ต้องหา นำไปถอดจีพีเอส ออกจากรถแล้วเช่นกัน โดยพบว่ากลุ่มของผู้ต้องหา ได้มีการกระทำความผิดในหลายท้องที่ มีผู้เสียหายหลายราย จึงได้มีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มของผู้ต้องหา ต่อมาจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่ากลุ่มของผู้ต้องหาได้ร่วมกันกระทำความผิดจริง และรถยนต์ที่ถูกกลุ่มของผู้ต้องหาร่วมกันออกอุบายลักมานั้น ได้มีการส่งออกไปขายตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านหลายจังหวัดแตกต่างกัน จึงได้มีการออกหมายจับกุมของผู้ต้องหา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ และทราบว่า น.ส.นอ (นามสมมุติ) หนึ่งในกลุ่มของผู้ต้องหาได้หลบหนีหมายจับมาเช่าห้องพักอาศัยในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนจนกระทั่งพบตัว น.ส.นอ (นามสมมุติ) อยู่บริเวณคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงได้เข้าจับกุมตัว และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> รถจักรยานยนต์ชนรถพ่วงข้าง แล้วถูกรถยนต์ทับซ้ำ เสียชีวิต 1 สาหัส 1 บาดเจ็บ 2 ราย

18.49 น. เกิดอุบัติเหตุสุดสลด บนสะพานบ้านคำแวง ตำบลคำแก้ว อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ก่อนที่รถยนต์ที่ขับตามหลังมาทับซ้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 ราย

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ สีดำ ป้ายทะเบียน สกลนคร และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ฮอนด้า สีน้ำเงิน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ อาสากู้ภัยสว่างศรีวิไลจุดโซ่พิสัย เร่งรัดเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน

เบื้องต้นจากข้อมูลผู้เห็นเหตุการณ์และจากเจ้าหน้าที่ ทราบว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากรถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซึ่งมีผู้โดยสารมาด้วยกัน 3 คน เป็นหญิง 1 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนเด็กชาย 1 รายและเด็กหญิง 1 รายได้รับบาดเจ็บ ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อีกคันเป็นชาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โซ่พิสัย อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> หนุ่มแค้นตามหาเมียรัก คิดว่าทุกคนปกปิด เพราะถามไปก็มีแต่คนบอกไม่รู้ คว้ามีดแทงเพื่อนเมียตัดขั้วหัวใจดับ ก่อนหนีเข้าป่า ตำรวจเร่งล่าตัว

20.30 น. สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง หมู่ 5 ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี

ที่เกิดเหตุห้องเช่า พบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้หญิง อายุ 29 ปี เสียชีวิตลักษณะกึ่งนอนอยู่บนแคร่หน้าห้อง พบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณราวนมซ้าย 1 แผล และที่ข้อมือซ้าย 1 แผล บนโต๊ะมีขวดเบียร์กับแกล้มวางอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีเข้าไปในป่าข้างห้องเช่า ตำรวจได้เร่งไล่ล่าอยู่ แต่ยังไร้วี่แวว

พ.ต.อ.ชัยมิตร กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้มี นายเอ (นามสมมติ) ที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร เพื่อมาตามหา น.ส.หวาน (นามสมมติ) ภรรยาที่หนีมาจาก จ.สมุทรสาคร และทราบว่ามาทำงานอยู่ในพื้นที่นี้

ซึ่ง นายเอ ได้มาเฝ้าดูภรรยาหลายวันหลายคืน และพยายามสอบถามถึงที่อยู่ของภรรยา แต่ไม่มีใครทราบ และไม่มีใครตอบ ส่วนผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทก็ไม่ทราบ ทำให้ นายเอ คิดว่าทุกคนปกปิดไม่ให้พบกับภรรยาตัวเอง จึงเกิดความโกรธใช้มีดจ้วงแทง จนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไป


>> ไฟไหม้ในโรงงานรีไซเคิลน้ำมัน เมืองสมุทรสาคร จนท.ระดมฉีดน้ำควบคุมก่อนจะลุกลาม

21.25 น. ศูนย์วิทยุศรีสมุทร มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร รับแจ้งจากอาสาสมัครพบเห็นกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณเส้นทางศรีเมือง จึงจัดกำลังอาสาออกตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นโรงงานรีไซเคิลน้ำมันเก่า ในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุ พบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากลุกไหม้บริเวณหม้อต้มน้ำมัน จึงประสานรถน้ำและบรรเทาสาธารณภัยใกล้เคียงเข้าร่วมสนับสนุน โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบ

ขณะเกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บชาย 1 รายเป็นพนักงานในโรงงาน ถูกน้ำมันลวก อาสาสมัครให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร เขตสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม