วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 08:58 น.
10 กันยายน 2568 จากกรณีเมื่อวันจันทร์ ที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนรุ่น Gen Z หลายพันคนออกมารวมตัวกันใกล้อาคารรัฐสภาในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศเนปาล เพื่อคัดค้านการตัดสินใจแบนแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง Facebook, X และ YouTube รวมถึงแสดงความไม่พอใจต่อรัฐบาลในวงกว้าง เหตุการณ์ในกรุงกาฐมาณฑุรุนแรงมากขึ้น เมื่อตำรวจใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง ปืนฉีดน้ำ และกระบองเข้าใส่ผู้ประท้วงที่พยายามบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของเมืองหลวง จนมีผู้ประท้วง 17 ราย ถูกสังหารในกรุงกาฐมาณฑุ และอีก 2 ราย จากการประท้วงที่มีผู้เสียชีวิตในเมืองอิตาฮารี มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย และมีการประมาณการว่าอาจมีผู้ได้รับบาดเจ็บสูงถึง 400 ราย ซึ่งรวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด เหตุการณ์ เริ่มบานปลาย แม้ทางรัฐบาลจะได้ยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปแล้ว เพจ Army Military Force รายงานเพิ่มเติมว่า จากกรณีผู้ประท้วง Gen-Z ชาวเนปาลเผาอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นที่ตั้งทางประวัติศาสตร์ของรัฐบาลเนปาล นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้วงยังได้บุกเผาทำเนียบนายกรัฐมนตรีเนปาลอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายเค.พี. ชาร์มา โอลี (K.P. Sharma Oli) ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์การประท้วงที่รุนแรงและบานปลาย และเดินทางหนีออกนอกประเทศเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา
นายบิชณุ ปราสาท โปเดล รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของเนปาล ถูกกลุ่มผู้ประท้วง Gen-Z ไล่ล่ากระทืxร่างกาย ก่อนจับแก้ผ้าแห่กลางเมืองหลวง และถูกผลักลงไปในแม่น้ำ
ในขณะ ราชยลักษมี จิตราการ ภรรยาของอดีตนายกรัฐมนตรีเนปาลจาลานาถ ข่านาล ถูกผู้ประท้วง Gen-Z ทุxตีอย่างทารุณ ก่อนจุดไฟเผxทั้งเป็น จนเสียชีวิต และเผาบ้านของเธอในกรุงกาฐมาณฑุ
กลุ่มผู้ประท้วงชาวเนปาล Gen-Z ได้ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาลในประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ การแบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และปัญหาการทุจริตที่สะสมมาเป็นเวลานาน
1. การปิดกั้นเสรีภาพทางดิจิทัล
เมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลเนปาลได้สั่งบล็อกการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมหลายแห่ง เช่น Facebook, Instagram, YouTube และ X (Twitter) โดยให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และถูกใช้เป็นช่องทางในการเผยแพร่ข่าวปลอมและก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์
การตัดสินใจดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับคนรุ่นใหม่ในวงกว้าง เนื่องจากพวกเขาใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งการสื่อสาร, การศึกษา, การทำธุรกิจ และการเคลื่อนไหวทางสังคม การบล็อกจึงถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน
2. ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
ก่อนหน้าที่จะมีการสั่งแบนโซเชียลมีเดีย ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ที่เรียกว่า "Nepo Kid" ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ลูกหลานของนักการเมืองและชนชั้นนำในประเทศ ที่มีวิถีชีวิตหรูหราผิดปกติเมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยของคนทั่วไป
ความเหลื่อมล้ำทางสังคมนี้ได้จุดประกายความไม่พอใจในหมู่คนรุ่นใหม่ที่มองว่ารัฐบาลล้มเหลวในการจัดการปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ฝังรากลึกในประเทศ นอกจากนี้ ยังมองว่าการแบนโซเชียลมีเดียเป็นเพียงความพยายามที่จะปิดปากประชาชนและลดทอนพลังในการต่อต้านการทุจริต
การแบนโซเชียลมีเดียจึงเป็นเหมือนชนวนที่จุดประกายให้ความไม่พอใจที่สะสมมานานปะทุขึ้นมาเป็นการประท้วงในครั้งนี้ โดยสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงและการเมืองที่โปร่งใสในประเทศ
ที่มา สำนักข่าว Aljazeera และ เพจ Army Military Force
7 ธันวาคม 2568
7 ธันวาคม 2568