หน้าแรก > ต่างประเทศ

"ฮุน มาเน็ต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความชี้แจงครั้งแรก สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา

วันที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 16:10 น.


"ฮุน มาเน็ต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความชี้แจงครั้งแรก สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา

ในช่วงที่ผ่านมานี้ได้เห็นการถกเถียงกันในสื่อสังคมออนไลน์ในหัวข้อต่าง ๆ รวมถึงคำถามที่ก่อให้เกิดความสับสน จนทำให้มีบางบุคคลนำไปใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง ดังนั้น ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงโดยสังเขปดังนี้

1. ทำไมรัฐบาลถึงเงียบเชียบนัก?

พี่น้องประชาชนบางท่านอาจจะเข้าใจว่าหากไม่มีนายกรัฐมนตรีหรือบุคคลสำคัญออกมาแถลงผ่านโทรทัศน์หรือสื่อสังคมออนไลน์เป็นประจำแล้ว รัฐบาลคงไม่ได้ทำอะไรเลย ในสถานการณ์ที่ความผันผวนและความไม่แน่นอนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ การรับประกันความสอดคล้องของข้อมูลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนในอารมณ์ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงได้จัดเตรียมกลไกและมอบหมายภารกิจให้แก่คณะโฆษก ซึ่งประกอบด้วยโฆษกของรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลเป็นประจำ นอกเหนือจากกลไกนี้แล้ว กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสารนิเทศ สำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการเผยแพร่มาตรการสำคัญของตนให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

2. รัฐบาลได้สั่งให้กองทัพแนวหน้าถอนกำลังหรือไม่หลังจากการเจรจาหยุดยิง?

คำตอบสั้น ๆ คือ ไม่ รัฐบาลไม่ได้ออกคำสั่งให้ถอนกำลังใด ๆ หลังจากมีการหยุดยิง และในการเจรจาหยุดยิง ก็ไม่ได้มีเงื่อนไขให้กองกำลังของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องถอนออกจากที่ตั้งของตนเอง

3. การเจรจาต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมามีเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนดินแดนหรือไม่?

คำตอบสั้น ๆ คือ ไม่ การเจรจาหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ณ ประเทศมาเลเซีย เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการหยุดยิงเท่านั้น การเจรจาทวิภาคีที่ผ่านมา รวมถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) วิสามัญระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และการประชุมระดับภูมิภาคระหว่างหน่วยบัญชาการภูมิภาค (RBC) ก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการกำหนดเขตแดน ผลการประชุมทั้งหมด (รวมถึงการประชุมพิเศษเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม, การประชุม GBC วิสามัญ และ RBC) ล้วนเผยแพร่ต่อสาธารณะ ไม่มีอะไรต้องปกปิด และก็ไม่มีการเจรจาลับอื่นใดนอกเหนือจากการประชุมเหล่านั้น สำหรับกิจการเจรจาชายแดน กัมพูชายังคงยึดมั่นในจุดยืนการแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติวิธี ผ่านการใช้กลไกด้านชายแดนที่มีอยู่ นั่นคือคณะกรรมการชายแดนผสมกัมพูชา-ไทย (JBC) โดยอยู่บนพื้นฐานของข้อตกลงที่มีผลบังคับใช้ระหว่างกัมพูชาและไทย สนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง และกฎหมายระหว่างประเทศ

4. รัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรกองทัพแนวหน้าเลยใช่หรือไม่ เพราะเห็นแต่ผู้ใจบุญเข้ามาช่วย?

คำตอบสั้น ๆ คือ รัฐบาลไม่เคยละทิ้งความรับผิดชอบของตนต่อเหล่าทหารหาญ ตำรวจ และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ หรือการละเมิดต่าง ๆ
ขอให้พี่น้องประชาชนโปรดเข้าใจว่าการที่กระทรวงและหน่วยงานของรัฐไม่ได้ถ่ายภาพหรือออกรายงานสาธารณะเกี่ยวกับงานด้านการดูแลและจัดส่งสิ่งของต่าง ๆ ให้แก่กองทัพแนวหน้า อาจทำให้ประชาชนบางส่วนเข้าใจผิดว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับกองทัพแนวหน้า

นอกจากนี้ การคำนึงถึงของรัฐบาลไม่ได้มีแค่เฉพาะกองทัพแนวหน้าและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาชายแดนเท่านั้น แต่รัฐบาลต้องคำนึงถึงกองทัพและประชาชนทั่วประเทศและในทุกภาคส่วนตลอดเวลา

พร้อมกันนี้ ผมขอแสดงความขอบคุณต่อพี่น้องชาวกัมพูชาทุกคนที่มีจิตใจรักชาติ และให้การสนับสนุนกำลังพลแนวหน้าของเรา ด้วยการมอบเสบียงอาหาร วัสดุอุปกรณ์ และยานพาหนะต่าง ๆ ให้แก่กองทัพแนวหน้าของเรา นอกเหนือจากสิ่งที่รัฐบาลได้จัดหาให้ รัฐบาลยินดีและชื่นชมในจิตวิญญาณแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวกัมพูชา ซึ่งชาวกัมพูชาได้ช่วยเหลือกันและกันมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีการปะทะกันด้วยอาวุธเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมแล้ว ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งเราทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน ช่วยเหลือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ผมหวังว่าการชี้แจงสั้น ๆ ในบางประเด็นข้างต้นจะสามารถคลายข้อสงสัยที่ผมได้เห็นในสื่อสังคมออนไลน์ที่ผ่านมาได้

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอให้พี่น้องชาวกัมพูชาทุกคนเชื่อมั่นในรัฐบาลที่กำลังปฏิบัติภารกิจอย่างแข็งขันในการหาทางออกเพื่อยุติปัญหาให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของชาติและประชาชน แม้ว่างานหลายอย่างจะไม่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งอาจทำให้ดูเหมือนว่ามีความเงียบเชียบมากเกินไปก็ตาม

ข่าวยอดนิยม