3 กันยายน 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลาง 1.รถกระบะ 1 คัน 2.ไม้กฤษณา 3.กระสอบ 3 ใบ น้ำหนักรวม 110.3 กิโลกรัม โดยจับกุมได้ บริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 2  กม.498-499 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมือง จ.หนองคาย

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งว่า จะมีกลุ่มผู้ลักลอบขนไม้กฤษณา มาจากภาคกลางตอนบน จะมานำส่งข้ามไปยังประเทศ สปป.ลาว ชายแดนจ.หนองคาย โดยใช้รถกระบะ เป็นยานพาหนะ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2 (อุดรธานี - หนองคาย) จึงวางแผนในการสกัดกั้นและจับกุม

โดยหน่วยบริการฯ หนองคาย ได้นำรถวิทยุตรวจการณ์ออกตรวจสอบตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ พบรถต้องสงสัย จึงได้เปิดสัญญานไฟเพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุด พบนายเอ แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจสอบ เบื้องต้นพบผ้าใบ ลายขาว-ฟ้า ปกคลุมอยู่ท้ายรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงให้นายเอเปิดผ้าใบคลุมออก พบว่าเป็นกระสอบพลาสติก สีฟ้า จำนวน 3 กระสอบ ภายในกระสอบพลาสติก สีฟ้า นั้นเป็นไม้กฤษณา

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ประสานหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ นค.2 (หนองหลวง) เมื่อเปรียบเทียบค่าสีของแก่นไม้กฤษณาของกลางอยู่ในเกรด C ราคาขายตามท้องตลาดอยู่ในช่วงกิโลกรัมละ 5,000 ถึง 20,000 บาท

ซึ่งชิ้นส่วนของไม้ของกลาง เป็นชิ้นที่มีขนาดใหญ่ และมีความสวยงามมีสีดำกระจายอยู่ทั่ว คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ประมาณราคากิโลกรัมละ 10,000 บาท เป็นเกณฑ์ราคากลาง คิดเป็นค่าความเสียหายของรัฐเป็นเงิน 1,103,000 บาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบ จากนั้น จึงได้นำตัวนายเอมาทำการบันทึกจับกุมที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหนองคาย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ไม้กฤษณาดังกล่าว ทราบว่าเป็นของกลุ่มทุนนายจ้างชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างโดยผ่านการติดต่อจากกลุ่มคนไทย โดยกลุ่มชาวเวียดนามจะนำรถดังกล่าวมาจอดให้ไปรับจากสถานีบริการน้ำมันใน จ.เพชรบูรณ์ จะนำมาจอดทิ้งไว้ที่สถานีบริการน้ำมันสะพานมิตรภาพ โดยจะมีคนมารับช่วงต่อไป และรับว่าได้รับค่าจ้างในการขับรถขนย้ายครั้งนี้จากกลุ่มคนไทย ในราคา 1,500 บาท