วันที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลา 11:58 น.
วันนี้(13 ส.ค.68)นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีทหารในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชาเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งกองทัพบกออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก กองทัพบก ทันกระแส " หากจำเป็นกองทัพพร้อมใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง" ว่า ได้ทราบข่าวแล้ว 09.10 น ที่เกิดเหตุทหารเหยียบทหารเหยียบกลับระเบิดทุ่นระเบิดเมื่อวานนี้ ตนขอแสดงความเสียใจกับนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเรื่องที่ต้องเห็นใจ ในการทำหน้าที่ ซึ่งทางทหารได้เสนอว่าจะต้องปกป้องตนเอง ซึ่งตามสนธิสัญญากฎหมายระหว่างประเทศสามารถทำได้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่กระทบ และผิดอนุสัญญาต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งผิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมระบุว่าทุกอย่างมีกระบวนการต้องไปดำเนินการยื่นฟ้องร้องกับสหประชาชาติให้เห็นว่า เรื่องนี้เป็นปัญหา และสหประชาชาติจะมีขั้นตอน แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายรับทราบ และมีขบวนการที่จะดำเนินการต่อตามกฎหมาย
นายภูมิธรรม ยังเปิดเผย ได้ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมยื่นเรื่องต่อสหประชาชาติ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องใช้ความระมัดระวัง แต่เป็นเรื่องที่ทำได้และควรจะทำ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าความประสงค์ของทางกัมพูชา ไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดสันติภาพ เดี๋ยวคงจะต้องมีการพูดคุยกัน
ส่วนจะต้องมีการส่งสัญญาณ ลงไปในพื้นที่ ว่ากองทัพสามารถใช้สิทธิ์ปกป้องตนเองได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีขั้นตอนกระบวนการ กองทัพบกจะต้องดำเนินการเพราะพื้นที่หน้างานจะสะท้อนให้รับทราบ ซึ่งกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลจะต้องพูดคุยกัน
ส่วนจะให้ความมั่นใจกับประชาชนอย่างไร เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ ประชาชนไม่มั่นใจและอพยพตนเองออกจากพื้นที่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเห็นใจ เพราะประชาชนก็หวาดระแวง เป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการทุกส่วน และกองทัพ ที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้มาก ให้อยู่ในภาวะที่ไม่ตื่นตระหนกเกินไป
ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึง การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่า ขณะนี้มีสื่ออิสระจำนวนมาก ปั่นข่าวกันและทำให้เกิด ความไม่สบายใจ ต้องขอร้องให้ทุกคนช่วย ขณะที่สื่อสาธารณะส่วนใหญ่ โดยเฉพาะสื่อฯ ที่มี สำนักข่าวที่ชัดเจนช่วยกันทำความเข้าใจ ช่วยกันชี้แจง จะช่วยได้เยอะ
สำหรับกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่าน แอปพลิเคชันเอ็กซ์ อยากให้รัฐบาลยื่นศาลอาญาระหว่างประเทศนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ทำมาหลายเรื่อง และที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับเลขาธิการสหประชาชาติ และคณะกรรมการอนุสัญญาออตตาวา พร้อมย้ำว่า เมื่อเช้าได้หารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศ และจะดำเนินการอย่างเต็มที่ และขณะนี้เองกระทรวงการต่างประเทศได้ทำไปแล้วอย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การชี้แจง และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน และการที่จะสามารถทำให้นานาชาติ ได้รับรู้ เรายังทำช้าไป ยังเสียงดังไม่พอ แต่ท่านก็ยืนยันว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศ ต่างประเทศเข้าใจเรามากกว่าเข้าใจกัมพูชา เพราะคนมองเห็นก็จะได้เห็นในรายละเอียดต่างๆ แต่สิ่งสำคัญคือคนที่อยู่ในประเทศนี่แหละ ต้องทำให้ชัดเจน ถ้าทำให้คนในประเทศเข้าใจก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก"
ส่วนกรณีที่เพจกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ขอรับบริจาครั้วลวดหนามหีบเพลง นายภูมิธรรม กล่าวว่า พอดูแล้วก็อยากจะเรียนอละทำความเข้าใจไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จริงๆในขบวนการ ถ้าหากคิดว่าไม่พอสามารถแจ้ง มายังกองทัพหรือผู้บัญชาการทหารบก สิ่งเหล่านี้สามารถจะบอกได้ เพราะทนพูดตลอดเวลากับ ทั้ง 3 เหล่าทัพว่าอะไรที่ขาดและจำเป็น ให้ยื่นเรื่องขึ้นมา รัฐบาลจะให้งบกลางช่วยเต็มที่ก็ไม่เคยมีเรื่องนี้
“ที่ผ่านมา ยื่นอะไรมา เราก็อนุมัติหมด ทั้งงบประมาณหรือกำลังพล จริงๆยังไม่จำเป็นถึงขั้นขนาดไปขึ้นเพจขอให้ประชาชนมาช่วย เพราะจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจ รัฐบาลไม่มีอะไรขัดขวาง ซึ่งผมจะเรียนให้แม่ทัพภาค 2 ได้ทราบ เดี๋ยวผมจะโทรคุย ถ้าขาดจริงๆให้บอกมา เรามีงบประมาณให้อยู่แล้ว อะไรว่าสามารถเอามาจากที่ไหนได้ ก็ให้เอามาก่อน ตรงไหนขาดบอกมา จะใช้วิธีพิเศษ พิจารณาได้เลยย ขอให้ได้ของ มีเท่านั้นเอง เรื่องนี้ผมว่า เป็นเรื่องที่อาจจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน รัฐบาลยืนยัน อะไรที่เป็นเรื่องสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังพล และรักษาอธิปไตยของประเทศ รัฐบาลไม่ได้ขัดอะไรเลย วันนี้เปิดงบกลางให้ได้ใช้อยู่แล้ว”
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานในกรณีการแก้ไขปัญหาตามแนวปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขอความกรุณาพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันในการแก้ไขปัญหา เพราะตนเองก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นเดียวกัน แต่อยู่ในฐานะหน้าที่ ก็พยายามจะนิ่งให้ได้มากที่สุด การที่บอกว่าตนไปเข้าข้างเขมรและวิจารณ์เรื่องระเบิดที่ตกลงมายังโรงพยาบาล นั้นยืนยันว่าไม่จริง ขอให้ไปฟังคลิปเต็มที่ตนชี้แจง ว่าทำไมระเบิดถึงมาลงที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็บอกว่ามันไม่ใช่การเฉพาะเจาะจงที่เป้าหมายทางทหารเหมือนของไทย ที่เจาะจงเป้าหมายและไม่มีพลเรือนเสียชีวิต และการยิงของกัมพูชา เป็นการยิงด้วย BM 21 ซึ่งเป็นอาวุธที่ยิง 1 ครั้ง มีการกระจายหลายจุด ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร ตนจึงขออย่าเอาไปบิดเบือนทำลายรัฐบาล สร้างความไม่ไว้วางใจให้กับรัฐบาล ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ เกิดความแตกแยกซึ่งจะเป็นปัญหา
ขณะเดียวกัน ยังมีนักวิชาการบางคนที่บอกให้ตนลองตัดขา จะได้รับรู้หัวอกทหาร ทั้งหมดตนจะฟ้อง แม้ตนเป็นคนที่ไม่เคยคิดจะฟ้องใคร แต่คิดว่าเรื่องนี้ต้องทำให้ประจักษ์ เหมือนกรณีที่ตนเคยถูกโจมตีโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล (ในคดีหมิ่นประมาทที่ระบุว่า นายภูมิธรรมเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์) จนกระทั่งนายสนธิ แพ้ตนในชั้นศาลฎีกา ซึ่งนายสนธิก็ได้ผ่านการขอโทษตนมาแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็เหมือนกัน อย่าพูดอะไรพล่อยๆ อย่าพูดอะไรที่ทำให้เกิดความแตกแยก ทำลายคนอื่น และตนอยากให้สื่อมวลชนช่วยสื่อสารในสิ่งที่ตนพูด ไป ถ้าไม่เช่นนั้น ตนคิดว่าควรจะพูดในสิ่งที่ควรพูดเท่านั้น จะไม่พูดอะไรที่มากไปกว่านี้แล้ว พอพูดไปแล้วมีการนำไปทำร้ายกัน บิดเบือน ตัดตอนบางส่วนและไม่มีใครช่วยเหลือ ตนคิดว่าต้องทำให้มันเป็นธรรม ไม่เช่นนั้นก็ไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจ พร้อมบอกว่าจะให้ทนายของตน ดำเนินการฟ้องทั้งหมดที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง เพราะตนมีข้อมูลเสียงสัมภาษณ์ทั้งหมดเก็บไว้หมดแล้ว