กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดศูนย์ติดตามพายุโซนร้อน “วิภา” เตือนทั่วไทยรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก น้ำท่วมฉับพลัน และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 20–24 กรกฎาคม 2568

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ดร. สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์พายุโซนร้อน “วิภา” ณ ศูนย์ปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ ชั้น 11 อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา 

ดร. สุกันยาณี กล่าวว่า “พายุโซนร้อน ‘วิภา’ แม้จะไม่ขึ้นฝั่งประเทศไทยโดยตรง แต่เสริมกำลังมรสุมให้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงและสื่อสารข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนติดตามประกาศเตือนภัย และเตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรงในช่วงนี้”

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือหรืออพยพ หากสถานการณ์อยู่ในสภาวะวิกฤตและติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0-2399-4012-13 และสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข้อมูลอัปเดตล่าสุดของพายุโซนร้อนวิภา เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 พายุโซนร้อน “วิภา” ได้อ่อนกำลังลงแล้ว ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนทางใต้เล็กน้อยด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะลงสู่อ่าวตังเกี๋ยและขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ ก่อนจะอ่อนกำลังลง แม้ไม่ขึ้นฝั่งไทยโดยตรง แต่จะเสริมกำลังมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักถึงหนักมาก

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก
วันที่ 21 กรกฎาคม 2568

ภาคเหนือ: เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร 
ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 
ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด 
ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก
วันที่ 22–24 กรกฎาคม 2568

ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา อุบลราชธานี 
ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด 
ภาคใต้: เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา

สำหรับคลื่นลมทะเลในช่วงนี้รุนแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2–4 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2–3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง