หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2568

วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 05:42 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2568


>> หนุ่มคลั่งยิงคนในบ้าน เสียชีวิต 3 ราย ที่เมืองอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธารา ศรีพรหมคำ ผกก สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ไปตรวจสอบเหตุชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิง มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 1 คน ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง

ผู้ก่อเหตุ เป็นชาย อายุ 33 ปี ใช้อาวุธปืนยิงกราดไปทั่ว ขณะนี้ผู้ก่อเหตุยังหลบซ่อนอยู่ในบ้าน และผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ระดมกำลังปิดล้อมบ้าน เพื่อเจรจาเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุ

จากการสอบถามชาวบ้าน บอกว่าได้ยินเสียงปืน ประมาณ 6-7 นัด ไม่รู้คนก่อเหตุเป็นใครเพราะตอนที่เกิดเหตุเข้าใจว่าเป็นเสียงพลุ ได้ยินเสียงติด ๆ กัน บ้านที่เกิดเหตุผมไม่รู้จักเพราะผมมาจากต่างจังหวัด เบื้องต้นเห็นว่าตำรวจจะล้อมจับ เพราะคนร้ายวิ่งเข้าไปในบ้าน เราเลยออกมาอยู่ข้างนอกบ้านก่อน

จากนั้นผู้ก่อเหตุจะหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังกระจายกำลังติดตาม


>> นายกฯ สั่งเดินหน้า 5 มาตรการ กระตุ้นท่องเที่ยว ดันเป็นวาระแห่งชาติ ยึดแนวทาง “ไทยแลนด์เที่ยวได้ทั้งปี ไม่มีโลว์ซีซั่น”

10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 2/2568 โดยสั่งการเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในทุกมิติ อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่ม “ไฮเอนด์” ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศมากขึ้น

โดย เร่งผลักดัน 5 มาตรการ เพื่อป้องกันปัญหาและกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว คือ ยกระดับการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ตรวจสอบและให้ข้อมูลที่ถูกต้อง กรณที่มีการบิดเบือนข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสื่อทุกช่องทาง, ยกระดับความปลอดภัยในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ความสะอาด ความน่าสนใจของจุดท่องเที่ยว และความปลอดภัยทุกด้าน, แก้ไขปัญหาการอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ให้มีความสะดวกรวดเร็ว ป้องกันการหลอกลวง พร้อมตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจสำรวจและแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในพื้นที่โดยด่วน, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว เร่งกำหนดเพดานค่าโดยสารสำหรับสายการบินราคาประหยัด และเตรียมเชื่องโยง 3 สนามบิน (กระบี่ พังงา ภูเก็ต) และ สร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในปัจจุบันและอนาคต ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมน่าสนใจ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ รัฐบาลจะผลักดัน 5 มาตรการนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของประเทศไทยแก่นักท่องเที่ยวและประชาชน ผลักดันภาคการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยต่อไป


>> พบคนขับรถบัส นั่งเสียชีวิตในรถตั้งแต่เมื่อคืน

10.42 น. สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในรถบัสรับ-ส่งพนักงาน ซึ่งจอดอยู่ริมถนนป่าโทน ตรงข้ามกับ สภ.พระนครศรีอยุธยา ต.ประตูชัย จึงประสานแพทย์เวร รพ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การสนับสนุน

ที่เกิดเหตุพบรถบัสรับส่งพนักงานสีฟ้า จอดริมถนนบริเวณบันไดทางลงฝั่งตรงข้ามคนขับ พบศพชายไทย อายุ 54 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ นั่งเสียชีวิต ลักษณะคว่ำหน้า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม. ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย

จากการสอบถามผู้ดูแลการเดินรถที่มาพบศพคนแรก ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีกำหนดขับรถออกไปรับพนักงานตั้งแต่ตีห้า แต่กลับไม่มีรถมารับ พนักงานจึงโทรแจ้งมาให้ตรวจสอบ เมื่อมาตรวจสอบพบว่าประตูรถปิดสนิท จึงมองผ่านกระจกและพบร่างคนขับนั่งอยู่บริเวณบันไดทางขึ้นรถของรถบัส พยายามเรียกแต่ไม่มีการตอบสนอง จึงแจ้งตำรวจทันที

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมติดต่อญาติผู้เสียชีวิต พร้อมตรวจสอบว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวหรือไม่ ก่อนส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแท้จริง ก่อนจะมอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป


>> รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลงพื้นที่ อ.สันป่าตอง ติดตามสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชน

10.47 น. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ที่บ้านทุ่งแป้ง หมู่ที่ 2 ตำบลท่าวังพร้าว ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำติดกับลำน้ำแม่ขาน และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 และติดตามสถานการณ์น้ำในลำน้ำแม่ขาน บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำขาน บ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตอง เขตติดต่อกับบ้านสบอาว อำเภอดอยหล่อ จ.เชียงใหม่

โดยในพื้นที่ดังกล่าวพบว่ายังมีน้ำท่วมขังใน พื้นที่การเกษตร สวนลำไยของเกษตรกรบางราย แต่ยังไม่ปรากฏความเสียหายสิ้นเชิงในแปลงเกษตร ซึ่งได้กำชับให้ดำเนินการ กำจัดเศษสวะ สิ่งกีดขวางลำน้ำ และระบายน้ำออกจากแปลงเกษตรโดยเร็ว เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อผลผลิต จากเหตุน้ำท่วมขัง ตลอดจนให้เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมไปถึงกลุ่มเปราะบางในพิ้นที่อำเภอสันป่าตอง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้


>> กลุ่มผู้เสียหายจากงานวิ่งทิพย์ ร้องสภาทนายความเอาผิดผู้จัด

12.43 น. ที่ สภาทนายความฯ ตัวแทนผู้เสียหายจากงานวิ่ง ที่จัดขึ้นอล้วล่มไม่เป็นท่าที่ สวนหลวง ร.9 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เดินหน้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอให้สภาทนายความช่วยดำเนินคดีทางแพ่งและอาญาต่อผู้จัดงาน หลังเสียค่าสมัครไปแล้วแต่ไม่มีการจัดกิจกรรมตามที่ประกาศไว้

โดย นายสุนทร พยัคฆ์ เลขาธิการสภาทนายความฯ ระบุว่า เบื้องต้นจะรับฟังข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายเพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญาหรือไม่ ส่วนคดีแพ่งสามารถดำเนินการได้ทันที โดยอาจมีการไกล่เกลี่ยระหว่างสองฝ่าย

ตัวแทนผู้เสียหายเปิดเผยว่า ก่อนวันงานมีสัญญาณความผิดปกติ ทั้งการแจกอุปกรณ์ที่ไม่ครบ การเลื่อนงานหลายครั้ง และหน้างานไม่มีการจัดเตรียมใด ๆ ส่งผลให้นักวิ่งกว่า 1,000 คน รวมถึงชาวต่างชาติ ต้องผิดหวัง พร้อมระบุว่าแม้ตัวแทนผู้จัดเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะเยียวยา แต่กลับไม่มีความคืบหน้า

ด้าน น.ส.ศรินทร เจ้าหน้าที่สภาทนายความ เสริมว่าคดีนี้อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และอยู่ระหว่างการประสานกับพนักงานสอบสวน ขณะที่ผู้เสียหายพร้อมเจรจาหากมีการชดใช้ที่เหมาะสม

ขณะนี้ สภาทนายความเตรียมตั้งคณะทำงานเพื่อประเมินข้อกฎหมายและทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้เสียหายกับผู้จัดงานต่อไป


>> จร.สน.วิภาวดี กวดขันวินัยจราจร รถจักรยานยนต์ใช้ช่องทางหลัก "เจอจับปรับจริง"

13.21 น. พ.ต.ท.ดามพวร ทองอิ่ม รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจจราจร (กก.2 บก.จร.) พร้อมด้วย พ.ต.ต.ภุชงค์ เม้าทุ่ง สว.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร.

การที่รถจักรยานยนต์วิ่งช่องทางหลักมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง เนื่องจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์มีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาดและน้ำหนัก เป็นความผิดตามกฎหมายจราจร ตำรวจ สน.วิภาวดี มีการกวดขันและจับกุมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ช่องทางหลักบนถนนวิภาวดีรังสิต ต่อเนื่อง และจากกรณีมีผู้ร้องเรียนเรื่องรถจักรยานยนต์ใช้ช่องทางหลักจำนวนมากในชั่วโมงเร่ง ด่วนเช้า บริเวณทางลงยกระดับบางเขน เช้านี้พบผู้ฝ่าฝืนจำนวนกว่า 35 ราย ในเขตพื้นที่ สน.วิภาวดี

ประชาสัมพันธ์ถึงผู้ใช้รถให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและใช้ช่องทางที่ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และจะดำเนินการกวดขันต่อเนื่องสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนต่อไป


>> อุ่นอาหารทิ้งไว้ แล้วเกิดไฟไหม้ในห้องครัวภายในบ้าน ซอยเจริญนคร 14 จนท.พร้อมรถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

13.39 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยเจริญนคร 14 แยก 28 ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในห้องครัว บนชั้นที่ 2 เพลิงลุกไหม้เสียหายกับเครื่องดูดระบายควันลุกลามฝ้าเพดาน และอุปกรณ์เครื่องครัว พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 2 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก การอุ่นอาหารทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยปากคลองสาน


>> “อนุทิน” ปัด ภูมิใจไทย ฮั้ว ส.ว. หลังมีชื่อ พี่ชายทรงศักดิ์ โผล่ในลิสต์

13.52 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบสื่อถึงกรณีที่ กกต. เรียกผู้เกี่ยวข้องในคดีฮั้วเลือก ส.ว. เข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยมีชื่อ นายพรเพิ่ม ทองศรี ส.ว.จากบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ รมช.มหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รวมอยู่ด้วย

อนุทินกล่าวชัด พรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พร้อมเผยว่า นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ ซึ่งมีรายชื่อด้วย ได้เข้าชี้แจงต่อ กกต. เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศเป็นไปด้วยดี

สำหรับข้อกล่าวหาที่ถูกตั้งเป็นลักษณะทั่วไป อนุทินยอมรับว่า เป็นเพียงการตอบคำถามเบื้องต้น 1–2 ประเด็น และมั่นใจว่าความจริงจะทำให้ทุกอย่างกระจ่างในที่สุด โดยขอให้ผู้เกี่ยวข้องมีท่าทีให้ความร่วมมือ ไม่แข็งขืนหรือประชดประชัน เพื่อให้กระบวนการเดินหน้าได้อย่างราบรื่น


>> 'จุลพันธ์' ยืนยัน กยศ. ยังดำเนินการได้ ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการศึกษา สภาพคล่องไม่ได้เข้าขั้นวิกฤต

14.05 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ตอบข้อสงสัยในการอภิปราย ร่างพ.ร.บ. งบประมาณปี 69 ถึงสถานภาพของ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) คนที่มีสิทธิ์ในการกู้สามารถกู้ได้ตามสิทธิ์ครบถ้วน ย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีการแก้ไขในเรื่องเบี้ยปรับ กฎเกณฑ์ ต้องขอบคุณคณะกรรมการชุดนั้นที่มองเห็นประโยชน์ของผู้กู็ยืมเป็นหลัก การคำนวณยอดแต่ละรายนั้นจะใช้รูปแบบการคำนวณย้อนไปตั้งแต่วันแรก ซึ่งจะเสร็จภายในเดือน ก.ค.68 และจะได้ดำเนินการปรับโครงสร้างต่อให้ครบถ้วน กยศ. ปี 2569 มีภาระราว 4.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งขอปรับลดไปกับทางสำนักงบประมาณ ซึ่งคำนวณออกมาสามารถปรับลดได้แค่ราว 5 พันล้านบาท แต่ไม่ได้หมายความว่าจะพอหรือขาด ความสำคัญอยู่ที่ความยืดหยุ่นของกลไกงบประมาณ

ยืนยันว่าคนที่อยู่ในระบบและจะเข้าระบบจะต้องได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาทุกราย กยศ. กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างใช้วิธี "พี่ส่งต่อให้น้อง" เพื่อให้ได้รับการศึกษาจากรุ่นสู่รุ่น


>> DSI บุกทลายแก๊งสแกมเมอร์ แฝงเป็นครูสอนภาษาปลอม นานกว่า 15 ปี

15.20 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงข่าวปฏิบัติการ จับกุมขบวนการหลอกลวงข้ามชาติ หลอกให้ซื้อสินค้าหรือบริการที่ ไม่มีอยู่จริงผ่านเว็บไซต์ปลอมกว่า 2,000 เว็บไซต์ หลอกเหยื่อทั่วโลก โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 9คน หลังเข้าตรวจค้น 11 จุด มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท

ขบวนการสแกมเมอร์ดังกล่าวนี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวแคเมอรูน ไนจีเรีย และอินเดีย ที่จะแฝงตัวเป็นครูสอนภาษาในโรงเรียนรัฐและโรงเรียนเอกชนในไทยหลายแห่ง โดยทำมานานกว่า 15 ปี และใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทปลอมกว่า 100 แห่ง พร้อมเปิดบัญชีม้า สำหรับรับโอนเงินกว่า 500 บัญชี จากนั้นมีการสร้างเว็บไซต์ปลอม หลอกจำหน่ายสินค้าและบริการจำนวนกว่า 2,000 เว็บไซต์ นำไปก่อเหตุหลอกลวงให้ผู้เสียหาย ที่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ให้หลงเชื่อว่าเป็นสินค้าและบริการของคนไทย ก่อนหลอกให้โอนเงินและส่งเงินกลับประเทศต้นทางหรือนำเงินไปฟอกด้วยการซื้อเหรียญดิจิทัล

นอกจากนี้ ขบวนการดังกล่าว ยังจะให้ภรรยาชาวไทยเปิดบริษัทปลอมขึ้น แล้วหลอกลวงชักชวนประชาชนให้มาเปิดบริษัทพร้อมเปิดบัญชีธนาคารให้ โดยอ้างว่าจะแบ่งปันผลประโยชน์ให้หากมีผลประกอบการที่ดี ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทปลอม 1 บริษัท จะมีการเปิดบัญชีธนาคารควบคู่กันด้วย 5-8 บัญชี เพื่อเตรียมไว้ใช้รับโอนเงิน หลังจากนั้นสมาชิกของแก๊งที่ทำหน้าที่สร้างเว็บไซต์ปลอม เชิญชวนให้บุคคลทั่วไปเข้ามาเลือกซื้อสินค้าและบริการ เช่น เครื่องยนต์เรือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร ฯลฯ และให้โอนเงินมายังบัญชีธนาคารของบริษัทฯ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้มีการส่งมอบสินค้าและบริการแต่อย่างใด และยังมีการโจมตี ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลการทำธุรกรรมการเงินของบริษัทคู่ค้าและโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหา


>> ผบ.ตร. เผยวางแนวทางการบริหารงานให้กองบินตำรวจ ยันเดินหน้าตรวจสอบอากาศยาน 2 ลำตกอย่างโปร่งใส

16.38 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการเข้าไปหารือร่วมกับกองบินตำรวจ เพื่อวางแนวทางการบริหารงานและสร้างความมั่นใจให้กับนักบินหลังเกิดเหตุเครื่องบินและเฮบิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจตก 2 ครั้งภายใน 1 เดือน และมีผู้เสียชีวิต ว่า

เหตุที่เกิดที่กองบินตำรวจ หน้าที่ของผู้บังคับบัญชา จะต้องสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นกับสังคม และต้องการสร้างความมั่นใจให้กับนักบิน เพื่อจะทำหน้าที่ขับเครื่องบินให้ผู้ที่ร้องขอ และมีความมั่นใจสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการบิน ซึ่งหลักการคือจะต้องสร้างความโปร่งใสและการสร้างความมั่นใจให้นักบิน ดังนั้นจะต้องเดินหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น อีกทั้งตนเองได้วางแนวทางการบริหารงานให้กับกองบินตำรวจ ในเรื่องของอากาศยาน และวิธีการบริหารของนักบิน รวมถึงวิธีการซ่อมบำรุงต่างๆให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า อากาศยานที่ยังสามารถใช้งานได้ แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ จะกลับมาทำการบินได้หรือไม่หลังจากระงับการบินของกาศยานทุกชนิดไว้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์มีบางส่วนซ่อมบำรุงตามวงรอบ ยังคงต้องใช้เวลาในการซ่อมบำรุงก่อน ส่วนอากาศยานที่บินได้ การสร้างความมั่นใจจะต้องมีการตรวจสอบภาคพื้นดินให้ชัดเจน และให้เกิดความเรียบร้อย โดยให้นักบินเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มกลับมาทำการบินได้ตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. และหากมีภารกิจจำเป็นอะไร อากาศยานที่ใช้งานได้อยู่สามารถตรวจสอบได้ภายใน 2-3 วันนี้ตามลำดับ แต่การตรวจสอบแบบครบทั้งหมด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์


>> มอบตัวแล้ว หลานคลั่ง ยิงญาติดับ 3 ศพ ผู้การฯ สุพรรณบุรี รุดร่วมสอบปากคำ

17.00 น. จากกรณี เหตุกราดยิงญาติดับ 3 ศพและเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ล่าสุด นายบาส ผู้ก่อเหตุ ได้ขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ภูธร จว.สุพรรณบุรี โดยมีการประสานผ่านทาง นายประวิง ใจบุญ กำนันตำบลบ้านดอน โดยมีผู้กำกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภาค 7 ชุดสืบสวนของ กองกำกับการสืบสวนภูธร จว.สุพรรณบุรี ได้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหาในพื้นที่ เทศบาล บ้านดอน อ.อู่ทอง

จากนั้นได้นำตัวมาที่ สภ.สระยายโสม โดยมีทาง พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าร่วมทำการไปสอบสวนด้วยตัวเอง ถึงสาเหตุที่ลงมือสังหารโหดในครั้งนี้


>> หนุ่มวัย 30 ปีขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ เสียชีวิตริมถนนสายท่าลี่ - สุวรรณคูหา

17.21 น. หน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงอำเภอน้ำโสม ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นบ้าน ท่าลี่ - สุวรรณคูหา ในพื้นที่ อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีดำ - เขียว ป้ายทะเบียน 890 ลักษณะชนกับรถกระบะ โตโยต้า สีเทา ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 1 ราย อายุประมาณ 30 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำโสม

 

>> หนุ่มบุกง้อไม่สำเร็จ ชักปืนยิงเมียและพ่อตาเสียชีวิต ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ตร.ตั้งทีมเร่งไล่ล่า จ.กาฬสินธุ์

20.40 น. พ.ต.ท.อุทัย พันธ์ทอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ รับเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์

โดยที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านยกพื้นสูง ที่ใต้ถุนบ้าน พบร่างของ นายสมเด็จ อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของบ้าน และใกล้กัน พบร่างของ นางสาวมณีรัตน์ อายุ 25 ปี เป็นลูกสาวของเจ้าหน้าบ้าน สภาพทั้งคู่ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.รวมประมาณ 6-7 นัด

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายเต้ (นามสมมุติ) ชาว ต.เสาเล้า อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นขาโจ๋ในพื้นที่ และแฟนหนุ่มของนางสาวมณีรัตน์ หลังก่อเหตุได้ขี่รถจยย.หลบหนีไปพร้อมพวก

โดยก่อนเกิดหตุเวลาประมาณ 20.30 น. นายเต้ พร้อมพวกรวม 3 คน (อีก2คนยังไม่ทราบชื่อ )ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ซีบีอาร์ สีดำ 1 คัน และยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ อีก 1 คัน มายังบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อมาพานางสาวมณีรัตน์ ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายเต้ เพื่อพาไปอยู่ด้วย แต่นางสาวมณีรัตน์ ปฏิเสธ เนื่องจากนายสมเด็จ ผู้เป็นพ่อห้ามไว้ ทำให้นายนายเต้ เกิดความไม่พอใจ จึงชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายสมเด็จ และ นางสาวมณีรัตน์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนหลบหนีไป

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ศิรสัณห์ เยื้อนสงวนชัย ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้พ.ต.อ.สีหชาติ พรจรรยา ผกก.สภ.หนองกุงศรี พร้อมด้วยชุดสืบสวนสภ.หนองกุงศรี ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และตำรวจพื้นที่ใกล้เคียงลงพื้นที่ออกไล่ล่าตัวนายเต้ พร้อมพวกที่ก่อเหตุแล้ว โดยกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง เนื่องกลุ่มคนร้ายมีอาวุธปืน เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่ 
 

>> สาวถูกแทงดับคาห้องครัว ร่างหนุ่มจบชีวิตบนห้องนอน ในบ้านหลังหนึ่งย่านนิมิตใหม่ ตร.เชิญแม่บ้านไปสอบปากคำ

21.13 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตรวจสอบเหตุผู้บาดเจ็บด้วยอาวุธมีด ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยนิมิตใหม่ 12 ในพื้นที่ เขตคลองสามวา กทม.

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้าน 2 ชั้น จัดตั้งเป็นบริษัทเกี่ยวกับการค้าขายผักผลไม้ ที่ห้องครัวชั้นล่าง พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้หญิง ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุประมาณ 21 ปี อยู่ในสภาพนอนหงาน มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมตามลำตัว, หน้าอก, ลำคอ และบนชั้นที่ 2 พบร่างของชาย 1 คน อายุประมาณ 27 ปี ลักษณะใช้เชือกผูกคอ แล้วมัดเข้ากับราวผ้าม่าน เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้าภายในห้องนอน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พฐ. ร่วมตรวจสอบ และเชิญตัวแม่บ้านผู้ที่พบศพคนแรกนำไปสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุต่อไป


>> เพลิงไหม้รถยนต์ ซอยคู้บอน 27 อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบก่อนจะลุกลาม

22.19 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ซอยคู้บอน 27 แยก 10 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีเทา ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณห้องเครื่องรถยนต์ อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ห้องเครื่องยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขน


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

01.14 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 3.5 ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 377 กม. 


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่

03.57 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.6 ลึก 2 กม. ในพื้นที่ของ ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ไม่มีรายงานรับรู้แรงสั่นสะเทือน 


 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม