กรณีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งประเทศไทยถูกเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ในราคาสูงถึง 8 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 28 ล้านบาท

ล่าสุด นาย ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปประชุมที่ประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า เรื่องค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปยุติในจำนวนเงิน ที่มีข่าวออกมาว่า ไทยจะต้องซื้อลิขสิทธิ์ถึง 2 แสนเหรียญสหรัฐ การเดินทางมาเจรจาครั้งนี้ ทางโอลิมปิกไทยจะเป็นตัวกลาง ประสานกับทางเจ้าภาพกัมพูชาและทางหน่วยงานของประเทศไทยที่จะรับผิดชอบทางด้านการถ่ายทอดสด ว่าจะสามารถตกลงกันได้ที่จำนวนเงินเท่าไหร่

โดยจะมีการประชุมในวันที่ 5 เมษายนนี้ ที่คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยเป็นการประชุมแบบซูม ระหว่างสองฝ่ายโดยทาง ผู้ถือสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากมาเลเซียจะไม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในวันนั้นถึงจะถือว่าเป็นวันยุติของการเจรจา และจะทราบว่าประเทศไทยจะต้องเสียลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่

"เชื่อว่าคนไทยจะได้ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 กัมพูชานี้อย่างแน่นอน ซึ่งตนกำลังเดินทางกลับประเทศไทยและจะร่วมปรึกษาหารือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกทีก่อนที่เราจะประชุมสรุปค่าลิขสิทธิ์ในวันที่ 5 เม.ย.นี้"

พร้อมระบุอีกว่า ได้มีการพูดคุยกับทางนายวัธ จำเริญ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกกัมพูชา ซึ่งมีการเปิดเผยว่า มี 4 ประเทศได้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย เวียดนาม, สิงคโปร์,อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย โดย ซีเอสทีวี (แคมโบเดีย สปอร์ต เทเลวิชั่น) จะเป็นผู้ผลิตและเป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดสด

ทั้งนี้ยังไม่มีการแก้ไขกฎ Must Have และ Must Carry ซึ่งเป็นปัญหามาตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 2022 หากกัมพูชาไม่ยอมลดราคาเท่าที่ กกท.จ่ายไหว ก็อาจเป็นปัญหาอีก เพราะหากราคาสูงกว่านี้ก็ต้องพึ่งเอกชนเข้าร่วมสนับสนุน ซึ่ง กสทช.ย้ำว่าหากมีการถ่ายทอดสดซีเกมส์ ห้ามให้เอกชนออกอากาศเฉพาะในแพลตฟอร์มของตัวเอง แต่ต้องให้ประชาชนรับชมได้ทุกแพลตฟอร์มอย่างทั่วถึง เงื่อนไขนี้จะกลายเป็นปัญหาที่ทำให้เอกชนไม่อยากเข้ามาลงทุน เพราะไม่ทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจ