ตร.ทางหลวงอยุธยา ตรวจเข้มท้องถนน พบกระบะซิ่งต้องสงสัยเรียกตรวจ เจอคนขับมีหมายจับ ซ้ำยังพาจีนเทาหลบหนีเข้าเมือง

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.๑ บก.สส.สตม.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๑ บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ

เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 20 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) พบรถยนต์กระบะ สีดำ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาลักษณะติดฟิล์มมืดทึบขับขี่เปลี่ยนช่องทางกระทันหันมีเหตุอันควรต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนมาถึง บริเวณหลัก กม.2 ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอทำการตรวจสอบ เบื้องต้น พบมี นายชาย อายุ 37 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นตรวจสอบภายในรถยนต์พบว่ามีบุคคลที่นั่งโดยสารคล้ายชาวต่างชาติจำนวน 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง เบื้องต้นเป็นคนต่างด้าวสัญชาติจีนไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง

และจากการตรวจสอบ คนขับ พบว่ามีข้อมูลเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 210/2568 ลงวันที่ 4 เมษายน 2568 กระทำผิดฐาน ร่วมกันช่วยเหลือ ช่วยเหลือซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆซึ่งบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตให้รอดพ้นจากการจับกุม อายุความ 10 ปี นับตั้งแต่ 11 มีนาคม 2568 แต่ไม่เกิน 11 มีนาคม 2578 ยังคงมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย

จากการสอบถามคนขับ ให้การยอมรับว่า วันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 15.00 น. ได้รับการติดต่อจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับคนต่างด้าวสัญชาติจีน จำนวน 2 คนที่ ใต้สะพานข้ามแม่น้ำ อ.เมืองตาก จ.ตาก โดยได้ตกลงค่าจ้างกัน 5,000 บาท ต่อคนจีน 1 คน โดยจะได้รับเมื่อทำการส่งคนต่างด้าวถึงที่หมายปลายทาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เรียบร้อยแล้ว และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ

จากการสอบถามชาวจีนที่มาในรถ ผ่านล่าม ให้การยอมรับว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะไปทำงานต่อยังประเทศกัมพูชา โดยยังไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อ กล่าวหา คนขับ “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนชาวจีนทั้ง 2 คน ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน กก.สส.บก.ตม.3 ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป