อธิบดีกรมโรงงานฯ เผย ตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่งที่ระยองแล้ว ไม่พบฝุ่นแดงที่ปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสี คาดฝุ่นแดงปนเปื้อนซีเซียม-137 ที่เกิดจากการถลุงซีเซียม-137 น่าจะยังอยู่ที่โรงงานถลุงเหล็ก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทั้งหมด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มีนาคม 2566 นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม,สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ,อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่งที่ จ.ระยอง หลังทราบว่าโรงงานถลุงเหล็ก พื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ทำการถลุง ‘ซีเซียม-137’ และขออนุญาตส่ง ‘ฝุ่นแดง’ จำนวน 12.4 ตัน ไปที่โรงงานรีไซเคิลดังกล่าว จากการตรวจสอบ ‘ฝุ่นแดง’ ล็อตที่ขนส่งมายังโรงงานรีไซเคิลแห่งนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 พบมีการแยกฝุ่นแดง ว่ารับมาจากที่ไหนบ้าง โดยเจ้าเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโกดังที่ 4 มีฝุ่นแดงจำนวน 12.4 ตัน พบว่าค่ากัมมันตภาพรังสีปกติ

“ยืนยันไม่พบการปนเปื้อนของสารกัมมันตภาพรังสี ถือเป็นข่าวดี คาดการณ์ว่าฝุ่นแดง ที่เกิดจากการถลุง ซีเซียม-137 น่าจะยังอยู่ที่โรงงานถลุงเหล็ก อ.กบินทร์บุรี ทั้งหมด ทั้งนี้พบว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา โรงงานถลุงเหล็กดังกล่าวได้ส่งฝุ่นแดง ไปที่โรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่งที่ จ.ระยอง ที่เดียวจึงได้มาทำการตรวจสอบ”

ส่วนฝุ่นแดง ซึ่งถูกอายัดไว้ที่โรงงานถลุงเหล็กนั้น และยังมีการปนเปื้อนของสารกัมมันตภาพรังสีอยู่ เมื่อถูกถลุงกลายสภาพเป็นฝุ่นแดงก็จะต้องจัดเก็บและแยกเก็บให้เหมาะสม โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มีพื้นที่จัดเก็บ อาจรอให้สลายตัวตามธรรมชาติ ซึ่งซีเซียม-137 มีอายุอยู่ได้นาน 30 ปี ในส่วนนี้ตามกฎหมายเกี่ยวกับกากกัมมันตภาพรังสี เนื่องจากมีกฎหมายเฉพาะอยู่แล้ว มันก็พ้นความรับผิดชอบเรื่องกากโรงงานอุตสาหรกรรม ตาม พ.ร.บ.โรงงาน

เหตุที่เกิดขึ้นมันคือการรั่วไหล ตามขั้นตอนปกติไม่ควรเกิดขึ้น ทั้งนี้มีกฎหมายเฉพาะเราผลิตสารพวกนี้เองไม่ได้ ต้องรับรับการอนุญาต มีการขึ้นทะเบียนแจ้งว่าเป็นมืองเครื่องใช้อะไร ติดตั้งไว้ที่ไหน หมดอายุแล้วจะกำจัดอย่างไร กระบวนการเหล่านี้อยู่ใน พ.ร.บ.พลังปรมาณูเพื่อสันติ ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามโรงงานใดใช้สารกัมมันตภาพรังสีต้องรายงานให้กระทรวงอุตสาหกรรม ทราบ ทั้งนี้โรงโรงไฟฟ้าพลังงานไอน้ำใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่พบว่าซีเซียม-137 สูญหายไปนั้น ก่อนหน้านี้ก็รายงานให้กระทรวงอุตสาหกรรม ทราบทุกปี อยู่ครบถ้วน กระทั่งเดือนมีนาคม ปี 2566 ทางโรงโรงไฟฟ้าฯ ได้ทำการตรวจและจะรายงานให้กระทรวงอุตสาหกรรม ทราบ ก่อนจะพบว่าซีเซียม-137 สูญหายไป