หน้าแรก > สังคม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ พร้อมร่วมมือ ตร.เก็บหลักฐาน ตึกสตง. ถล่ม ชี้เหล็ก-ปูน เสื่อมสภาพไปมาก

วันที่ 18 เมษายน 2568 เวลา 14:55 น.


18 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ว่า วันนี้นายกฯเรียกมาถามว่า หน้างานขาดเหลืออะไรหรือไม่ ต้องการความช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งตนได้กล่าวกับนายกฯว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตนได้เรียน นายกฯว่า ไม่มีข้อติดขัด และเราพร้อมให้ความร่วมมือในการเก็บหลักฐานต่างๆ วันนี้รายงานความคืบหน้าให้นายกฯรับทราบ โดยนายกฯเป็นห่วงและติดตามเรื่องนี้มาตลอด

ส่วนกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้รับความร่วมมือในการด้านข้อมูลที่ใช้ในการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุ จาก กทม. นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องนี้ กทม. ให้ความร่วมมือมาโดยตลอด แต่ช่วงอาทิตย์แรกที่ กทม. ต้องทำงานแข่งกับเวลาในการช่วยเหลือผู้ติดค้าง ซึ่งอาจเกิดจากการสื่อสาร แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทุกอย่างเรียบร้อยดี โดยมีหน่วยงานหลักของตำรวจ ทั้ง พิสูจน์หลักฐาน กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งขึ้นในการดำเนินการสอบสวน รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งได้ประสานงานกันอย่างดี โดยมีเจ้าหน้าที่คอยประจำอยู่ หากต้องการหลักฐานด้านใดจาก กทม. ก็พร้อมให้ความร่วมมือในทุกอย่าง พร้อมยืนยันว่า การหาหลักฐานใช้เวลาไม่นาน เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างาน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความร่วมมือ และตอนนี้สภาพหน้างานก็เป็นตึกถล่ม ไม่ทราบว่าชิ้นไหนเป็นชิ้นไหน จึงได้แนะนำ ว่า ให้เข้าไปดูที่ไซด์งาน และดูผ่านโดรน ว่าต้องการหลักฐานชิ้นไหน ซึ่งสามารถเข้าไปหยิบให้ได้ทันที เพราะกระบวนการในการรื้อซากเพื่อหาผู้ติดค้างอยู่จะทำอย่างต่อเนื่อง

เมื่อคืนที่ผ่านมา (17 เม.ย.) นายชัชชาติ ยังเปิดเผยว่า พบผนังปล่องลิฟท์แล้ว อยู่ที่จุด St1 และ St2 เป็นจุดปล่องซ้าย และปล่องขวา ถือเป็นจุดที่หามานาน โดยเห็นจากป้ายป้ายบอกชั้นที่ 18 ที่ติดอยู่บันไดหนีไฟ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปล่องลิฟท์ รวมถึงพบ ราวบันได ขั้นบันได และยังพบร่างผู้เสียชีวิตหลายร่าง ซึ่งทำให้เห็นว่า กลุ่มใหญ่อยู่ตรง 2 จุดนี้ เข้าใจว่าเป็นทางที่ใช้หนีลง ดังนั้น ต้องโฟกัสจุดนี้ ซึ่งปล่องลิฟท์ไม่คงสภาพเดิม เป็นคอนกรีตที่พังหมดแล้ว แต่จากตำแหน่งอุปกรณ์ประกอบก็สามารถระบุได้

ส่วนสภาพหลักฐานหน้างานเสื่อมสภาพไปแล้วหรือไม่ นายชัชชาติ ยอมรับว่า ดูยาก เพราะพังไปแล้ว และไม่ทราบว่ามาจากชิ้นส่วนไหน ซึ่งอาจจะลำบากในการสอบสวน แต่สามารถเก็บข้อมูลไว้ได้ เผื่อใช้ในอนาคต สำหรับการกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่นั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ได้ทำบัญชีรายชื่อไว้แล้ว ซึ่งผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยมีหน่วยคัดกรองอยู่ด้านหน้า แต่หากไม่อนุญาตให้ใครเข้าก็สามารถแจ้งมา เจ้าหน้าที่ก็จะกันออกให้ได้ ส่วนโยธาธิการและผังเมือง เฉพาะส่วนที่เป็นคณะกรรมการสอบสวน หากไม่ให้เข้าก็ขอให้แจ้งรายชื่อ ส่วนสิ้นเดือนนี้จะสามารถกู้ซากอาคารได้ทันหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ขณะนี้มีความก้าวหน้าเป็นอย่างดี ทุกคนมีความพยายาม และท้าทายตนเองตลอดว่าจะต้องนำทุกคนกลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องหยุด เช่น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ก็ต้องหยุดการทำงานของเครื่องจักรหนักไปถึง 5 ชั่วโมง หากรื้อซากอย่างเดียว ไม่กี่วันก็เสร็จ แต่หากรื้อด้วย และค้นหาผู้ที่ติดค้างอยู่ด้วย อาจจะมีปัญหาเรื่องเวลา แต่เชื่อว่าเป้าหมายในปลายเดือนนี้ต้องเห็นความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม