หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 เมษายน 2568

วันที่ 16 เมษายน 2568 เวลา 05:34 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 15 เมษายน 2568


>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ กลางถนนสาย ลาดยาว - เขาชนกัน มีผู้เสียชีวิตเป็นพ่อเฒ่าวัย 70 กว่าปี

09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่วงก์ ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนสายลาดยาว–เขาขนกัน บริเวณหน้าวัดหนองกระทุ่ม หมู่ 10 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์

ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง - ดำ ป้ายทะเบียน นครสวรรค์ ลักษณะชนกับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ใกล้กันพบร่างของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เป็นชาย อายุประมาณ 75 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน


>> ศปถ. เผยสถิติอุบัติเหตุวันที่ 4 สงกรานต์ 68 บาดเจ็บ 249 คน เสียชีวิต 34 ราย สาเหตุที่สูงสุด ขับรถเร็ว

10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 แถลงข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568

อุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ (11 เมษายน – 14 เมษายน 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,000 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,002 คน ผู้เสียชีวิต รวม 138 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 24 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ พัทลุง (36 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ ลำปาง (40 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (13 ราย)


>> ยอดผู้เสียชีวิตอาคาร สตง. ถล่มพุ่ง 44 ราย – เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก 50 คน คาดจ่ายเยียวยาศพล็อตแรก 18 เม.ย.นี้

10.30 น. ที่ กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ภายในห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มว่า ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 44 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีก 50 ราย 
เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถเคลียร์ซากอาคารในโซน A, B, C และ D ลดระดับความสูงเหลือเพียง 19 เมตร อย่างไรก็ตาม ยังมีเส้นเหล็กบางจุดที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงพื้นที่ค้นหา จึงมีการนำเครื่องตัดเหล็กเพิ่มเติมเพื่อเร่งรื้อถอนและค้นหาผู้สูญหายให้เร็วที่สุด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย และชิ้นส่วนร่างกายอีก 24 ชิ้นในโซน C โดยได้นำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ ล่าสุดยืนยันตัวตนผู้เสียชีวิตได้แล้ว 91 ราย จากทั้งหมด 103 รายตามบัญชีรายชื่อจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทาง กทม. ได้ประสานไปยังสถานทูตเมียนมาและกระทรวงต่างประเทศ เพื่อเร่งรวบรวมข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลของแรงงานข้ามชาติที่เกี่ยวข้อง


>> ‘รอง ทวิดา’ เผย กทม.เร่ง พิสูจน์อัตลักษณ์ เยียวยาเหยื่อตึก สตง.ถล่ม รายละ 1 แสน

10.30 น. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมสถานการณ์ประจำวัน ว่า เมื่อคืนนี้ (14 เม.ย. ) ได้มีการเคลียร์ความสูงของซากอาคารดังกล่าว ในทุกโซน ทั้ง A, B, C และ D ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามเเผน เเต่ปัญหาตอนนี้คือเส้นเหล็กบางจุด ที่ขวางไม่สามารถทำให้เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยลงไปสำรวจตามโพรงต่างๆ วันนี้จึงได้มีการนำเครื่องจักรตัดเหล็กเพิ่มจำนวน 1 คัน เพื่อให้การค้นหาและรื้อถอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอนนี้เหลือยอดความสูงของซากอาคารได้ 19 เมตรแลัว

ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิต 2 รายบริเวณ โซน C ร่วมถึง ชิ้นเนื้อจำนวนอีก 24 ชิ้น โดยได้มีการนำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นเนื้อทั้งหมดไปส่งพิสูจน์อัตลักษณ์ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และเช้าวันนี้ทาง พฐ. ได้ยืนยันเพิ่ม 1 คนจากการตรวจอัตลีกษณ์บุคล ซึ่งตอนนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 44 คน บาดเจ็บ 9 คน สูญหาย 50 คน

ส่วนเรื่ององพิสูจน์อัตลักษณ์ จากรายชื่อที่ได้จากสตม. ทั้งหมด103ราย พบเเล้ว 91 ราย เเต่ยังมีรายชื่อที่ยังตกล้น โดยตอนนี้กำลังปนะสานกับ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานให้เป็นตรวจสอบให้ น่าจะสารมาติดตามได้ทั้งหมด รวมถึงจะให้สำนังงานต่างประเทศของ กทม. ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศด้วย ในการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์เพิ่มจากชายแดนของสถานทูตเมียนมา

ส่วนเรื่องหนึ่งคือกระทรวงมหาดไทยได้เพิ่มวงเงินในการจัดการศพ ศพละ 100,000 บาท โดยที่ไม่ต้องคิดในรายละเอียดว่าเป็น เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือเป็น ผู้หารายได้หลักของครอบครัวหรือไม่ แล้วก็กำหนดว่าจะจ่ายล็อตแรกที่ได้รับการรับรองแล้วในวันที่ 18 เมษายน ที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งขณะนี้ขอเวลาให้ทางกทม.เร่ง นำร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์


>> ผ่านครึ่งทางสงกรานต์ 68 เมาขับสะสมทะลุ 3,000 คดี กรมคุมประพฤติ เดินหน้าแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยง

10.51 น. พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ ติดตามมาตรการคุมเข้มในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 ประสานความร่วมมือกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ต่าง ๆ นำผู้ถูกคุมความประพฤติในฐานความผิด พ.ร.บ. จราจรทางบก (ขับรถในขณะเมาสุรา ขับเสพ ขับรถประมาท และขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด) สนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และร่วมสังเกตพฤติกรรมการขับขี่ผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) แบบเรียลไทม์ ร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ ขับเคลื่อนมาตรการเชิงป้องกัน มุ่งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ขับขี่ เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืน

จากการดำเนินมาตรการควบคุมเข้มข้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (14 เมษายน 2568) ศาลมีคำสั่งคุมความประพฤติ 1,718 คดี แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา 1,674 คดี, ขับซิ่ง 1 คดี และ ขับเสพ 43 คดี

โดยยอดคดีสะสมช่วงควบคุมเข้มข้น 11-14 เมษายน 2568 รวม 3,297 คดี ติดอุปกรณ์ EM รวม 25 ราย ซึ่งจังหวัดที่มีคดีเมาขับสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 295 คดี นนทบุรี 242 คดี และสมุทรปราการ 226 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่การคุมความประพฤติวันที่ 4 ของปี 2567 พบว่า มีคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 2,106 คดี และ ปี 2568 มีจำนวน 1,674 คดี ลดลง 432 คดี


>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงข้างทาง ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย

11.30 น. หน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บ บริเวณถนนสายดงธาตุ-ห้วยยางคำ พื้นที่ตำบลกุดจับ อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง - ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน ลักษณะพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 39 ปี มีบาดแผลถลอกตามร่างกาย ไม่รู้สึกตัว และไม่พบชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำการปั๊มหัวใจ (CPR) เพื่อช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุดจับ และแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ชันสูตรเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิตมีอาการคอหักจากแรงกระแทก คาดว่าเกิดจากการล้มอย่างรุนแรง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน


>> ไฟไหม้ภายในโรงงาน ย่านบางบอน ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนจะลุกลาม

14.02 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ บริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ถนนบางบอน 4 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร 
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียว โครงสร้างเหล็ก หลังคาเมทัลชีท ประกอบกิจการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกทุกชนิด ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในอาคาร เพลิงลุกไหม้เสียหายเครื่องจักรสำหรับตัดพลาสติก ลุกลามแผงควบคุมระบบไฟฟ้า ผนังและฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 5 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องตัดพลาสติก ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางบอน


>> รถกระบะเสียหลักหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้า ริมถนนเพชรเกษม บาดเจ็บ 2 และเสียชีวิต 1 ราย

14.42 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยวัดเก่าเจริญธรรมพังงา ตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บติดค้างภายในยานพาหนะ ริมถนนเพชรเกษม ช่วงทางโค้ง ใกล้เคียงร้าน บ้านใหม่ฟอร์นิเจอร์ ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีเทา ป้ายทะเบียน สงขลา ลักษณะเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง และตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย อายุ 19 ปีและหญิง อายุ 22 ปี ทางอาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.พังงา ส่วนที่เบาะคนขับรถ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุ 40 ปี สภาพร่างติดค้างในยานพาหนะ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ เพื่อนำร่างออกมา

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพังงา พร้อมด้วยแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบร่างให้อาสาสมัครนำส่งชันสูตร โรงพยาบาลพังงา


>> สงกรานต์ 3 วัน สีลม - ข้าวสาร ยอดผู้ร่วมงานทะลุ 6.51 แสนคน

15.12 น. นายแสนยากร อุ่นมีศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำวัน เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรุงเทพมหานคร ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 (ศูนย์ EOC สงกรานต์ 2568) ติดตามสถานการณ์ในช่วงเทศกาลในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

สำหรับยอดผู้เข้าร่วมงานสงกรานต์ 3 วัน (วันที่ 12 - 14 เม.ย. 68) บริเวณถนนสีลม เวลา 12.00-22.00 น. จำนวน 256,667 คน ส่วนบริเวณถนนข้าวสาร เวลา 12.00-24.00 น. จำนวน 394,628 คน รวม 2 จุด 651,295 คน

ด้านข้อมูลสถิติอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 11 - 14 เม.ย. 68 มีอุบัติเหตุรวม 15 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บรวม 5 ราย เสียชีวิตรวม 13 ราย เป็นชาย 11 ราย และหญิง 2 ราย


>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง คุณลุงวัย 60 กว่าปีเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.

16.00 น. ศูนย์วิทยุมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนทางหลวงหมายเลข 304 บริเวณใกล้เคียงสวนนงนุช อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ฮอนด้า เวฟ สีดำ - แดง ไม่ติดป้ายทะเบียน ลักษณะชนกับ รถกระบะ มิตซูบิชิ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บชาย 1 ราย มีอาการสาหัสไม่มีชีพจร อาสาสมัครกู้ภัยทำ CPR ให้ผู้ได้รับบาดเจ็บในจุดเกิดเหตุ รอทีมเจ้าหน้ากู้ชีพโรงพยาบาลนาดีสนับสนุนจุดเกิดเหตุ และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลนาดี ถึงจุดเกิดเหตุ ทำการประเมินผู้ได้รับบาดเจ็บ และเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากที่เกิดเหตุ นำส่ง รพ.นาดี และได้รับแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 66 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาดี


>> ไฟไหม้รถเซียนบั้งไฟกลางทุ่งนา ที่ยโสธร เสียหาย 5 คัน

16.30 น. พ.ต.ท.สุรพต โพธิ์มิผล ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์กลางทุ่งนาภายในงานประเพณีจุดบั้งไฟบ้านขุมเงิน หมู่ 1 ต.ขุมเงิน อ.เมือง จ.ยโสธร จึงประสานรถดับเพลิงเข้าตรวจสอบ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นลานจอดรถกลางทุ่งนา ห่างจากฐานจุดบั้งไฟประมาณ 800 เมตร พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังฉีดน้ำดับไฟที่ไหม้รถยนต์กระบะได้รับความเสียหายโดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถดับไฟได้ ส่วนรถยนต์อีกหลายคันชาวบ้านช่วยกันดึงและลากออกได้ทัน เบื้องต้นจากการตรวจสอบหลังเพลิงสงบ พบรถกระบะจำนวน 5 คัน ถูกไหม้จนเหลือแต่ซาก

ทางด้าน นายอาทร รากจันทร์ อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านขุมเงิน หมู่ 7 เปิดเผยว่า วันนี้เป็นงานประเพณีจุดบั้งไฟของบ้านขุมเงิน ช่วงเกิดเหตุประมาณ 16.00 น. เห็นควันไฟขึ้นบริเวณลานจอดรถกลางทุ่งนา ซึ่งมีรถยนต์จอดเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนมาถึงไฟได้ลุกลามไปถึงคันที่ 4 แล้ว ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันยกรถที่อยู่ใกล้ออก บางคนก็หาไม้มาตีดับไฟ ส่วนสาเหตุตนก็ยังไม่ทราบ แต่อาจจะเกิดจากการลืมไฟแช็กหรือพาวเวอร์แบงค์ไว้ในรถ หรือไม่เพราะจอดกลางแดด และยืนยันว่าไม่ใช่บั้งไฟตกใส่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังตำรวจพิสูจน์หลักฐานให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบและหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป


>> ไฟไหม้บ้านเรือน ย่านซอยคู้บอน 27 เสียหายวอดหมดทั้งห้อง

17.06 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นบนภายในห้องพระ เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 4 ตารางเมตร อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายความร้อน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากในที่เกิดเหตุไม่มีผู้พักอาศัย ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขน


>> ตำรวจจราจรพัทยา จับรถน้ำ อลหม่านสาวจีนร่างใหญ่ลงไม่ไหว ช่วยกันวุ่น

19.36 น. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศ เล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่เมืองพัทยา พบว่า มีการใช้รถน้ำวิ่งเล่น และจอดขายกีดขวางการจราจร ส่งผลให้รถติด รวมไปถึงเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ทั้งเจ้าตัวและบุคคลรอบข้างด้วย

พ.ต.ท.ภาณุพงศ์ นิ่มสุวรรณ์ สว.จร.สภ.เมืองพัทยา เล็งเห็นถึงความไม่ปลอดภัย รวมไปถึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร จึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตรวจสอบในทันที กระทั่งพบรถหกล้อบรรทุกน้ำ ขับผ่านบริเวณหน้าโรงพักพัทยา โดยมีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน สามคนนั่งฉีดน้ำเล่นอยู่บนหลังรถอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงเชิญเข้ามาที่โรงพักเพื่อทำการตรวจสอบ ทั้งใบอนุญาตในการใช้รถ และต่อเติมติดตั้งแทงค์น้ำ

ซึ่งก็เกิดเหตุการณ์วุ่นๆ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวจีนหนึ่งราย ซึ่งมีรูปร่างใหญ่ไม่สามารถลงจากหลังรถน้ำหกล้อได้ ทั้งเจ้าหน้าที่และคนขับรถ ต้องช่วยกันพยุงอยู่พักใหญ่ ใช้เวลากว่า 15 นาที จึงสามารถนำตัวลงมาได้อย่างปลอดภัย จึงแจ้งให้เห็น ถึงอันตราย หากไม่มีเจ้าหน้าที่คอยช่วย บวกกับความลื่นอาจจะทำให้พลัดตกตกลงมาได้รับบาดเจ็บได้


>> รถกระบะพลิกคว่ำลงคลองน้ำข้างทาง มีผู้เสียชีวิต

23.30 น. รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำแล้วตกลงในคลองน้ำข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ริมถนนเส้นทางวัดใหม่กบเจา-วัดบางปลาหมอ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา ป้ายทะเบียน ขอนแก่น ลักษณะพลิกคว่ำ แล้วตกลงไปในคลองน้ำ ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 5 ราย โดยมีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครกู้ชีพ - กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือ และนำส่งโรงพยาบาลบางบาล และต่อมารับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบาล


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา    

00.24 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า เกิดเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.1 ความลึก 15 กม. บริเวณพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 160 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย


>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเชียงใหม่    

02:51 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.5 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.แสนไห อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม