รวบ 2 คนไทยขับเรือหางยาว ลักลอบนำต่างด้าวจากเมียนมาเข้าไทย

กองบังคับการตำรวจน้ำ โดย พล.ต.ต.เศรษฐสิริ นิพภยะ ผบก.รน. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.รน.1 กก.8 บก.รน. ร่วมกันจับกุม

1.นายอำ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี สัญชาติ ไทย

2.นายรำ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี สัญชาติ ไทย

ผู้ต้องหาที่ 1-2 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มาตรา 63 ผู้ใดนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วย ประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือฯ”, “มาตรา 23 เจ้าของพาหนะหรือผู้คุมพาหนะ จะต้องพาหนะเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรฯ”, “มาตรา 11 บุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาฯ”, “พรบ.เดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 282 ผู้ใดทำการในเรือในตำแหน่งที่กฎข้อบังคับสำหรับการตรวจเรือกำหนดให้ต้องมีใบประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถฯ”, “มาตรา 18 พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรฯ”, “มาตรา 60 ให้ยกเลิกความใน มาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2481”

3.นายโช (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี สัญชาติ ไม่มีสัญชาติ 
4.นายโร (นามสมมุติ) ไม่มีสัญชาติ  
ผู้ต้องหาที่ 3-4 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต”  
สถานที่จับกุม บริเวณคลองชุมชนท่าเขาตาใหญ่ ม.5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง 

พร้อมด้วยของกลาง 1.เรือหางยาววัสดุทำจากไม้ จำนวน 2 ลำ 2.เครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน 2 เครื่อง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข่าวพบว่า มีกลุ่มคนไทยลักลอบนำต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง บริเวณคลองชุมชนท่าเขาตาใหญ่ ม.5 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำเรือตรวจการณ์ ปนม.18 พร้อมชุดทางบก ออกไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง พบเรือกลุ่มเป้าหมายจำนวน 2 ลำ ซึ่งวิ่งมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังประเทศไทย โดยมีผู้โดยสารรวมคนขับเรือประมาณลำละ 2 คน และได้วิ่งเทียบท่าบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าปิดล้อมตรวจสอบ  พบนายอำ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี และนายรำ (นามสมมุติ) เป็นผู้ขับเรือทั้ง 2 ลำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งกล่าวหา 
ต่อมา ได้ทำการตรวจสอบเอกสารผู้โดยสารบนเรือพบว่า ไม่มีเอกสารทางราชการไทยออกให้จำนวน 2 คน จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จากนั้นได้นำตัวมาทำบันทึกจับกุมที่ตำรวจน้ำระนองเพื่อส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป  

สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ให้การว่า เป็นผู้รับจ้างขนส่งผู้โดยสารมาจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเข้ามาฝั่งไทย โดยได้ค่าจ้างหัวละ 300 บาท