24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 28 มีนาคม 2568

>> ไฟไหม้บนอาคารพาณิชย์หน้าตลาด เมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงระดมฉีดน้ำป้องกันไม่ให้ลุกลามคูหาข้างเคียง

08.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุว่ามีเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 3 คูหา บริเวณหน้าตลาดชัยพร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกู้ภัยและรถดับเพลิงจาก งานป้องกันบรรเทาและสาธารณะภัย เทศบาลเมืองหนองคาย พร้อมอุปกรณ์ไปตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ตึกอาคารพาณิชย์ โดยต้นเพลิอยู่บริเวณชั้น 2 ของอาคารห้องที่ 1 เป็นร้านอาหาร จากนั้นเจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่กำลังไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมและเพลิงได้สงบลงในเวลาต่อมา 
ตรวจสอบ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายเป็นหญิงสูงอายุ 1 ราย และเด็กร้าน 1 ราย ลักษณะถูกไฟลวก ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลหนองคายวัฒนา เพื่อทำการรักษา

ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้เบื้องต้นนั้น ทราบว่าเพลิงลุกไหม้มาจากหิ้งพระ ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นห้องที่สร้างด้วยไม้อัดและมีของเก่าที่สามารถเป็นเชื้อไฟอย่างดี

>> รถอเนกประสงค์เสียหลักชนต้นไม้ บาดเจ็บหลายราย

09.11 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยลำปาง มีอุบัติเหตุ รถอเนกประสงค์ เสียหลักชนต้นไม้ร่องกลาง ถนนสายลำปาง - ตาก ฝั่งขาเข้าเมืองลำปาง ใกล้เคียงด่านชั่งน้ำหนักเกาะคา ในพื้นที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง

ที่เกิดหเหตุ พบรถอเนกประสงค์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน เชียงใหม่ ลักษณะเสียหลักลงร่องกลางถนน และชนเข้ากับต้นไม้ ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 15 ราย โดยมีติดภายใน 1 รายคือคนขับ ทางเจ้าหน้าที่ สมาคมกู้ภัยลำปาง สมาคมกู้ภัยเกาะคา สมาคมกู้ภัยศาลา ร่วมให้การช่วยเหลือและนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่ง รพ.ใกล้เคียง พื้นที่ สภ.เกาะคา

>> บช.ก. ส่งมอบเงิน 33 ล้านบาทให้ ปปง. คืนผู้เสียหายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมแถลงข่าวการส่งมอบเงินจำนวน 33 ล้านบาท ให้สำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิ์และชดเชยให้กับผู้เสียหายที่ถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเงินจำนวนดังกล่าวเป็นผลมาจากการสืบสวนและจับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งพบเส้นทางการฟอกเงินเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า โดยขบวนการนี้ได้จัดตั้งบริษัทบังหน้าจำนวน 22 บริษัท และใช้บัญชีม้ามากกว่า 27 บัญชีเพื่อรับและโอนเงินไปยังเว็บพนันออนไลน์อีกกว่า 10 เว็บไซต์ การกระทำดังกล่าวถือเป็นการฟอกเงินให้กับธุรกิจผิดกฎหมาย รวมถึงเครือข่ายค้ายาเสพติด

ภายใต้ปฏิบัติการ "ขยี้ดวงใจทศกัณฐ์" เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมเครือข่ายดังกล่าวและยึดเงินสดได้กว่า 33 ล้านบาท โดยภายหลังการจับกุม ทาง บช.ก. ได้ประสานไปยังสำนักงาน ปปง. เพื่อร่วมกันตรวจสอบเส้นทางการเงิน และดำเนินการส่งมอบเงินจำนวนนี้คืนให้แก่ผู้เสียหาย

นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ปปง. ได้เปิดให้ผู้เสียหายจากคดีดังกล่าวสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินคืนได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 รวมระยะเวลา 90 วัน นับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผู้เสียหายสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและยื่นคำร้องผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ปปง.

>> กองกำกับการ ดส. ทลายแหล่งพักยาเสพติดย่านลำลูกกา รวบผู้ค้ายา พร้อมของกลางยาไอซ์ 171 กก. และยาบ้า 2.8 ล้านเม็ด

10.30 น. กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและชุมชน (กก.ดส.) นำโดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ เครือข่าย "อาร์ต ต่ำเอี่ยว" พร้อมของกลางจำนวนมาก โดยจับกุม ชายไทย อายุ 21 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 171 กิโลกรัม , ยาบ้า 2,832,000 เม็ด

ด้าน พล.ต.ท.สยาม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของ ดส. ได้สืบสวนและจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญมาก่อนหน้านี้ และขยายผลจนพบว่า ชายคนดังกล่าว เป็นผู้ขับรถไปรับยาเสพติดจากผู้ค้ารายใหญ่และนำมาพักเก็บไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนกระจายให้ลูกค้าผ่านคำสั่งทางไลน์ จากการเฝ้าสังเกตการณ์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ นิสสัน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาภายในบ้านพัก และพบผู้ต้องหากำลังยกถุงกระสอบเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวตรวจค้นและพบของกลางจำนวนมาก โดยชายคนดังกล่าว รับสารภาพว่า

ได้รับว่าจ้างให้ขับรถไปรับยาเสพติดจากจุดต่างๆ โดยผู้ว่าจ้างเป็นผู้เตรียมรถยนต์และบ้านพักให้ ไม่เคยพบหน้าผู้ว่าจ้าง แต่ได้รับคำสั่งผ่านทางแอพพลิเคชัน LINE ค่าจ้างส่งยาแต่ละครั้งคิดเป็นน้ำหนัก ได้แก่ ยาไอซ์ กิโลกรัมละ 400 บาท ยาบ้า ห่อละ 60 บาท จากข้อมูลการสืบสวน พบว่ายาบ้าล็อตนี้เป็นของเครือข่าย "อาร์ต ต่ำเอี่ยว" ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์, ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้กระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ขณะนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม โดยยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมได้

>> นายกฯ ลงพื้นที่ ภูเก็ต ดัน Soft Power สร้างอนาคตแห่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

11.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา ในการสัมมนา “Thailand Sustainable Tourism Conference 2025” เวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ระบุว่า ภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณให้จังหวัดที่มีศักยภาพ พร้อมหาแนวทางเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาไปด้วยกัน รวมทั้งการพัฒนาเรื่อง Soft Power ของทุกจังหวัดด้วย

นายกฯ ระบุว่า งานในวันนี้จัดขึ้นในรูปแบบของความยั่งยืน สอดคล้องกับทั่วโลกที่เน้นเรื่อง Green อาทิ Green Energy ซึ่งจังหวัดภูเก็ตมีปัญหาเรื่องขยะและน้ำเสีย เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเข้ามาดูแลและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการท่องเที่ยวกับสิ่งแวดล้อม ให้สังคมและประชาชนรับรู้ว่าการที่จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ต้องทำอย่างไร

นอกจากนี้ นายกฯ กล่าวแสดงความยินดีที่ภูเก็ตได้เป็นเจ้าภาพการประชุมการท่องเที่ยวยั่งยืนโลก ปี 2026 สะท้อนให้เห็นศักยภาพและความเชื่อมั่นของไทย รวมถึง BOI ประกาศว่าไทยมีการลงทุนจากต่างชาติสูงสุดในรอบ 10 ปี และ Spending per Head ของนักท่องเที่ยวที่มาภูเก็ตมีแนวโน้มสูงขึ้น รัฐบาลจึงต้องเร่งรองรับการเติบโตนี้ ผ่านการจัดตั้ง “อนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์” เพื่อร่วมมือกับภาคเอกชนพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศในทุกมิติ ทำให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบจบแก่นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ทุกจังหวัด โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ “เที่ยวได้ตลอดทั้งปี” ไม่ใช่แค่ช่วง High Season

>> "ปลื้มจิตร์" อดีตนักวอลเลย์บอลทีมชาติไทย เข้าแจ้งความ ถูกแอบอ้างชื่อ-รูป หลอกลงทุนออนไลน์

11.00 น. น.ส.ปลื้มจิตร์ ถินขาว หรือ “หน่อง ปลื้มจิตร์” และ น.ส.วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ หรือ “กิ๊ฟ” สองอดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 หลังถูกบุคคลนำชื่อและรูปภาพไปแอบอ้างชักชวนประชาชนให้ลงทุนในรูปแบบต่างๆ จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก

น.ส.ปลื้มจิตร์ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากหลายคนว่ามีการนำรูปภาพและคลิปวิดีโอของตนไปใช้ พร้อมข้อความอ้างว่า “ถูกเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เรียกสอบ เนื่องจากมีรายได้ต่อเดือนมากผิดปกติ และได้เข้าแสดงความบริสุทธิ์แล้ว โดยมีการลงทุนออนไลน์จริง” จากนั้นในส่วนของคอมเมนต์ยังมีการแปะลิงก์ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งหลอกลงทุนและเว็บพนันออนไลน์ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการใช้รูปและโปรไฟล์ของตนบนสื่อโซเชียลหลายช่องทาง โดยเฉพาะแอพพลิเคชัน TikTok เพื่อชักชวนให้ประชาชนลงทุนออนไลน์และแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ทำให้ตนรู้สึกตกใจและกังวล เพราะส่งผลต่อชื่อเสียงทั้งต่อตัวเองและวงการกีฬาวอลเลย์บอล ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ระบุว่า ทางตำรวจไซเบอร์ได้จัดพนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์แล้ว โดยพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นกลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างข่าวปลอมเพื่อให้ประชาชนสนใจ และใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงในการสร้างความน่าเชื่อถือ เมื่อประชาชนให้ความสนใจ ก็จะหลอกว่าบุคคลนั้นๆ มีรายได้จากการลงทุน ทำให้หลายคนหลงเชื่อและถูกหลอก ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดกรณีของ "คริส หอวัง" ที่ถูกแอบอ้างในลักษณะเดียวกัน

>> ศาลสั่งประหาร มือยิง "ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด" พร้อมชดใช้ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตกว่า 6 ล้านบาท

12.44 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ศาลอาญากรุงเทพฯใต้ ได้นัดฟังคำพิพากษา 24 จำเลยแก๊งอดีตเด็กช่าง คดี ยิงนางสาวศิรดา อายุ 45 ปี หรือ ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ และ นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี หรือ น้องหยอด นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิต บริเวณหน้าธนาคาร สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย

ล่าสุด ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำสั่งพิพากษา ประหารชีวิต มือยิงพร้อมสั่งชดใช้ ครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท

เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจาก กรณีเด็กช่างกลสถาบันคู่อริไล่ยิง นศ.มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. เมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ย. 2566 ทำให้นายธนสรณ์ หรือ น้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 เสียชีวิตและยังทำให้ น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่เดินผ่านมาถูกลูกหลงกระสุนเจาะหน้าผากเสียชีวิตไปอีกคน กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญจนสังคมรับไม่ได้

>> แผ่นดินไหว ขนาด 8.2 ในพื้นที่ประเทศเมียนมา

13.20 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ รายงานว่า แผ่นดินไหวบนบก ขนาด 8.2 ความลึก 10 กม. บริเวณประเทศเมียนมา ศูนย์กลางอยู่ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 326 กม.

เบื้องต้นได้รับความรู้สึกสั่นไหวบริเวณ กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้

>> คนร้ายขับกระบะ ตามประกบยิงทหารพราน ขณะขับรถส่วนตัวกลับฐาน โชคดีไร้บาดเจ็บ

13.30 น. เกิดเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซอง ยิงใส่รถยนต์กระบะของ อส.ทพ.วิษณุสรรค์ อายุ 25 ปี สังกัด ร้อย ทพ.4213 ขณะขับรถอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 42 เพื่อกลับไปปฏิบัติงานที่กองร้อยในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี รถได้รับความเสียหายกระจกด้านหน้าฝั่งซ้ายแตก ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

เหตุเกิดบริเวณ สะพานท่าหยี บ.ห้วยปลิง ม.6 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา โดยคนร้ายที่ก่อเหตุใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สี่ประตู สีดำ ไม่ทราบป้ายทะเบียน

จากการสอบถามเจ้าตัว ทราบว่าเจ้าตัวขับรถพยายามจะขับรถแซงรถคันก่อเหตุ แต่รถคันดังกล่าวขับปิดทางไม่ให้แซง มีการเบรกเหมือนกลั่นแกล้ง จำนวนหลายครั้ง หลังจากนั้นหนึ่งในคนร้ายที่นั่งอยู่ในรถ ได้ใช้ปืนลูกซองยิงใส่รถ จนได้รับความเสียหายดังกล่าวและขับหลบหนีไป สาเหตุอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

>> รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถอเนกประสงค์ มีผู้บาดเจ็บนับสิบราย

15.00 น. รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถอเนกประสงค์ และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (ทล.9) ช่วงหลัก กม.ที่ 58+800 ในพื้นที่เขตประเวศ กทม.

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน ตราด ลักษณะชนกับรถอเนกประสงค์ โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 11 ราย โดยเป็นผู้ชาย 2 รายและหญิง 9 ราย อาสาสมัครช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ใกล้เคียง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สทล.8

>> นายกฯ ลงพื้นที่ เหตุก่อสร้างอาคาร สตง. ถล่ม กำชับเจ้าหน้าที่ระมัดระวังความปลอดภัย

18.40 น. ภายหลังแถลงหลังการประชุมติดตามสถานการณ์เหตุแผ่นดินไหว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะลงตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ เขตจตุจักรถล่ม โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด โดยได้กำชับผู้ปฏิบัติงานทุกคนให้ระมัดระวังความปลอดภัยของตัวเอง ในการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ เพราะเป็นห่วง เกรงว่าซากตึกที่หล่นลงมาแล้วบางส่วนอาจจะถล่มลงมาได้อีก พร้อมกำชับเรื่องของความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหารและจิตอาสา มูลนิธิต่างๆ ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ในส่วนของผู้ที่ติดอยู่ใต้ตึกถล่มขอให้พยายามนำออกมาให้ได้ โดยนำอุปกรณ์สำรวจค้นหาเข้ามาช่วยในการปฏิบัติภารกิจ 


>> รถจักรยานยนต์ 2 คันชนกันมีผู้เสียชีวิต 2 ราย

22.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ 2 คันชนกัน มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนเส้นทาง วัดคูมะนาว มุ่งหน้าสี่แยกวัดโพธิ์ทองนอก ในพื้นที่ ม.9 ต.คำหยาบ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ป้ายทะเบียน อ่างทอง ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ ป้ายทะเบียน พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย อาสาสมัครนำส่ง รพ.โพธิ์ทอง และ รพ.วิเศษชัยชาญ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน  

>> แผ่นดินไหว ขนาด 4.1 ที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

23.21 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 4.1 ความลึก 5 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน มีรายงานว่าสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน  

>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดพิจิตร

00.18 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.4 ความลึก 1 กม. ในพื้นที่ของ ต.หนองพระ อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร 

 
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดลำปาง

00.27 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 1.4 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง 


>> รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำบนถนนวิภาวดี ผู้บาดเจ็บอาการสาหัส กู้ชีพ - กู้ภัยช่วยเหลือทำ CPR แต่ไม่เป็นผล

02.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบชนิด และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนวิภาวดี - รังสิต ขาเข้า ใกล้เคียงซอยวิภาวดี 16 ในช่องทางหลัก

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ไม่พบป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบร่างผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยให้การช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 23 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร