วันนี้ ( 25 มีนาคม 2568) เวลา 09.00 น. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม  การฝึกซ้อมการกู้ภัยและการให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงบนทางพิเศษ ประจำปี 2568 โดยมี พลโท พิเชษฐ  คงศรี กรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการฝึกซ้อมฯ ณ ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษฉิมพลี ทางพิเศษประจิมรัถยา

พลโท พิเชษฐ  คงศรี กรรมการฯ กล่าวว่า กทพ. ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับความเสี่ยง การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในทางพิเศษ ที่มีผลกระทบต่อการใช้ทางพิเศษของผู้ใช้บริการ จึงได้จัดให้มีการฝึกซ้อมการกู้ภัย และให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงในทางพิเศษ ปีละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการกู้ภัย และการให้ความช่วยเหลืออุบัติเหตุร้ายแรงในทางพิเศษ ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและถูกวิธี ซึ่งหากจะดำเนินการ  ให้เกิดประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัยสูงสุดสำหรับประชาชน จำเป็นที่จะต้องอาศัยการบูรณาการจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

นางชินนาฎ  คุณเจริญ รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ) กล่าวว่า การฝึกซ้อมฯ ในวันนี้ เป็นการจำลองสถานการณ์ เหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (EV) เฉี่ยวชนกับรถบัสโดยสาร แล้วเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (EV) และรถบัสโดยสาร มีผู้บาดเจ็บหลายรายบริเวณหน้าด่านฯ ฉิมพลี ทางพิเศษประจิมรัถยา โดยพนักงานสื่อสารได้รับแจ้งจากพนักงานด่านฯ  จึงได้ดำเนินการแจ้งพนักงานจัดการจราจร พนักงานกู้ภัย พนักงานปฏิบัติการพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งขอการสนับสนุน รถดับเพลิง และรถพยาบาล เพื่อดำเนินการช่วยเหลืออุบัติเหตุจนแล้วเสร็จ ในการนี้ กทพ. ได้รับความร่วมมือจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) การท่าเรือแห่งประเทศไทย ศูนย์ควบคุมจราจรทางด่วน บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มูลนิธิร่มไทร บริษัท ซีเออีซียานยนต์ จำกัด และบริษัท พีพีซีแอล จำกัด ซึ่ง กทพ. ต้องขอขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

“ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการฝึกซ้อมฯ ในวันนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกู้ภัย การจัดการจราจร การสื่อสาร และการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความพร้อมในการประสานงานการบูรณาการ เครื่องมือ กำลังพลและอุปกรณ์ในการให้ความช่วยเหลือและระงับเหตุ ร่วมกันระหว่างการทางพิเศษฯ กับหน่วยงานภายนอกเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ทางพิเศษในด้านการให้บริการและความปลอดภัย” นางชินนาฎฯ กล่าวในท้ายที่สุด