หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2568

วันที่ 19 มีนาคม. 2568 เวลา 05:46 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2568


>> รุ่นใหญ่หึงโหด ลุงวัย 65 บุกยิงสาวใหญ่ 56 หลังตีตัวออกหาก เจ็บสาหัส ก่อนดับชีพตัวเองหนีผิด

07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร รับแจ้งเหตุมีคนยิงกันและมีผู้เสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.คอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ

ที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้เสียหายคือ นางกอ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่หน้าบ้านตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลคอนสาร และห่างออกไป พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย วัย 65 ปีทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุที่ยิงนางกอ

จากการสอบสวน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการหึงหวงนางกอ หลังจากที่คบหากันนานหลายปีกลับตีตัวออกหาก จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนางกอ เพื่อใช้อาวุธปืนพกสั้นมายิงนางเอ จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านตัวเอง แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันจ่อยิงที่ขมับศีรษะเสียชีวิตที่ถนนหน้าบ้าน

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร จะต้องรอนางกอ หายจากอาการบาดเจ็บก่อน จึงจะเชิญตัวมาสอบสวน ส่วนร่างของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ส่งไปตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนมอบให้ญาติรับไปทำพิธีตามศาสนาต่อไป


>> เกิดเหตุระเบิดที่ร้านของเก่า ในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว มีทั้งคนเจ็บ-เสียชีวิต

08.45 น. เกิดเหตุระเบิดภายในบ้านไม่มีเลขที่ บ้านโนนศรีทอง หมู่ที่ 14 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดอุดมทรัพย์ ได้ปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บก่อนนำส่งโรงพยาบาลวังน้ำเขียวและโรงพยาบาลปักธงชัย

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า บ้านดังกล่าวรับซื้อของเก่าจากชาวบ้าน ซึ่งบางส่วนถูกเก็บมาจากภูลำใย สนามฝึกยุทธวิธีของกองทัพภาคที่ 2 ขณะคัดแยกของเก่าเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย เป็นหญิง และบาดเจ็บอีก 4 ราย 
เจ้าหน้าที่ ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบลูกระเบิดไม่ทราบชนิดอีก 1 ลูก จึงกันพื้นที่พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของวัตถุระเบิดดังกล่าว


>> รถกระบะเฉี่ยวชนกับรถเก๋ง ก่อนเสียหลักพุ่งเข้าร้านชำ ทับร่างคุณยาย 87 ปีเสียชีวิต

09.30 น. รับแจ้งจากกู้ภัยพัทลุง มีอุบัติเหตุรถชนกันและเสียหลักชนร้านขายของชำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ริมถนนสายพัทลุง-ตรัง ฝั่งเข้าเมืองพัทลุง พื้นที่หมู่ 8 ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ สภาพหน้ารถพังเสียหายชนเข้ากับเสาปูนร้านของชำ ใกล้กันพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน ลักษณะเสียหลักพุ่งเข้าร้านขายของชำ แล้วชนเข้ากับม้านั่งหน้าร้าน พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายอยู่ใต้ท้องรถ เป็นหญิงไทย อายุ 87 ปี ที่นั่งอยู่หน้าร้าน และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลพัทลุง เพื่อทำการรักษาต่อไป

สอบถามแม่ค้าขายเหนียวไก่ อยู่ใกล้ร้านของชำ เล่าว่า ขณะที่เธอกำลังเก็บของอยู่นั้น เห็นรถกระบะชนกับรถเก๋งที่จอดริมถนนหน้าร้าน ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนเข้ามาในร้าน และชนเข้ากับคุณยาย วัย 87 ปีจนทำให้มีผู้เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทลุง ได้คุมตัวคนขับรถกระบะไปสอบสวน เพื่อหาสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงและจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


>> "จตุพร" นำ คปท. แถลงคัดค้านนโยบายกาสิโนและการพนันออนไลน์

10.00 น. ที่ บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ได้อ่านแถลงการณ์ โดยมีเนื้อหาสรุปว่า นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเกี่ยวกับกาสิโนและการพนันออนไลน์ ส่งผลให้เกิดกระแสคัดค้านจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากนโยบายดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่กลับเป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนธุรกิจการพนัน ขณะเดียวกัน ธุรกิจกาสิโนที่อิงอยู่กับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร อาจมีผลประโยชน์แอบแฝงที่ส่งผลเสียต่อสังคม

ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงขอแสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายกาสิโนและการพนันออนไลน์อย่างเด็ดขาด พร้อมประกาศว่าหากรัฐบาลยังคงเดินหน้านโยบายดังกล่าว ประชาชนก็ไม่อาจยอมรับให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปได้ ทั้งนี้ ในระหว่างการชุมนุม ผู้ร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันตะโกนข้อความ เช่น "หยุดกาสิโน หยุดพนันออนไลน์ หยุดรัฐบาลนอมินี"

จากนั้น ตัวแทนกลุ่มฯ ได้แก่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายแซมดิน เลิศบุศย์ นายอำนาจ พละมี และหมอเขียว ใจเพชร ได้เข้ายื่นหนังสือแสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายดังกล่าวถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทาง นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงเสียงของประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลทบทวนนโยบาย และให้ความสำคัญกับประโยชน์ของประชาชนเป็นอันดับแรก


>> นายกฯ ร่วมแถลง ปฎิบัติการณ์ทลายเครือข่ายบุหรี่ไฟฟ้า รายใหญ่สุดในประเทศ

11.37 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลง ชุดสืบนครบาล IDMB บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดนนทบุรี เปิดปฏิบัติการ “Operation Smoke Out” ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายใน พื้นที่จังหวัดนนทบุรีกว่า 9 จุด ทลายรังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศ นำเข้าพร้อมส่งออกจำหน่ายในเครือข่าย กว่า 100 เครือข่ายทั่วประเทศ

สืบเนื่องจากตำรวจสืบนครบาล IDMB ได้ทำการสืบสวนลาดตระเวนทางออนไลน์พบว่ามีผู้จำหน่ายบุหรี่รายใหญ่ มีการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางเว็บไซต์ ได้มีการร่วมกันลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ทางออนไลน์ให้แก่บุคคลทั่วไปผ่านทางเว็ปไซต์ ก่อนจะส่งกระจายเป็นยังตัวแทนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้ง 4 ภาค มากกว่า 100 กว่าร้านค้า 
จากการสืบสวนพบว่าผู้จำหน่ายคนดังกล่าว นามว่า “เอ (นามสมมุตติ)” ได้ ลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาทางภาคใต้ก่อนที่ จะมาพักของไว้บริเวณโกดังย่านจังหวัด นนทบุรี ทั้งหมด 5 จุด

ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึด ของกลาง เป็นบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมกันกว่า 260,000 รายการ มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้ขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 ราย ที่เป็นทั้งผู้ดูแลโกดัง ผู้รับหน้าที่ในการขนส่งสินค้า และฝ่ายจัดจำหน่าย โดยกลุ่มขบวนการนี้ จะนำบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ซุกซ่อนไว้ที่โกดังในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อหลบเลี่ยงการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ก่อนจะ ดำเนินการกระจายบุหรี่ไฟฟ้าไปยังโกดังตามจังหวัดต่างๆ กว่า 100 จุด รวมถึงจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ด้วย


>> อุบัติเหตุแล้วเกิดเพลิงไหม้รถแท็กซี่ กลางถนนรามอินทรา เสียหายวอดทั้งคัน

11.49 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ เชิงสะพานข้ามแยกคู้บอน ถนนรามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์รับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่ ) สีชมพู - ขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเสียหายหมดทั้งคัน ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เพศชาย เป็นผู้ขับขี่ อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลพญาไท ก่อนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม


>> ป.ป.ส.แถลงจับเครือข่ายจัดหายาเสพติดข้ามชาติ รวบอดีตนักร้องวงดัง เป็นลูกค้าหลังทักไลน์สั่งยา

13.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศปก.) สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.

แถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดระหว่างประเทศคดีสำคัญ โดยความร่วมมือจาก คณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ สาธารณรัฐประชาชนจีน (NNCC), กรมตำรวจต่อสู้ยาเสพติด กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (CND) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

สืบเนื่องมาจากการจับกุมชาวไทย 2 คน พร้อมไอซ์ น้ำหนัก 53 กรัม ที่ท่าอากาศยานหนานจิง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 ทางการจีนได้ออกหมายจับหญิงไทย อายุ 43 ปี ในข้อหาจัดหาผู้ลำเลียงยาเสพติดจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานข้อมูลจาก NNCC ผ่านทาง อทป.ปักกิ่ง และได้สืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่คอนโดมิเนียมย่านรัชดาฯ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2568 พร้อมของกลางไอซ์ (สีทองและสีพิ้งค์โกลด์) และเอ็กซ์ตาซี ซุกซ่อนภายในกล่องเครื่องสำอาง ขณะเตรียมจัดส่งผ่านเดลิเวรี่ให้กับลูกค้า

และจากการขยายผล เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาหญิงไทย อายุ 42 ปี อีกหนึ่งราย พร้อมของกลางยาบ้า, ไอซ์ (สีทองและสีพิ้งค์โกลด์), เอ็กซ์ตาซี, คีตามีน, MDMA, อุปกรณ์การบรรจุ, เครื่องชั่งดิจิตอล ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ และสมุดบัญชีธนาคาร 15 เล่ม ที่น่าตกใจ ระหว่างจับกุมผู้ต้องหาอยู่นั้น มีชายไทย อายุ 47 ปี อดีตนักร้องชื่อดัง ซึ่งเป็นลูกค้า ได้ไลน์มาสั่งยาไอซ์กับผู้ต้องหาพอดี ตำรวจจึงตามไปรวบได้ พร้อมของกลางไอซ์ ขณะมารับยาเสพติดจากผู้ต้องหา


>> ไฟไหม้ไซโลเก็บขี้เลื่อย เจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงระดมใช้น้ำ จนควบคุมและเพลิงสงบ ไม่ลุกลาม

14.55 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยลำปาง มีเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงงานแห่งหนึ่ง ถนนสายลำปาง - เชียงใหม่ ในพื้นที่ ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง สมาคมกู้ภัยลำปางส่งทีมดับเพลิงและกู้ภัยสมาคมกู้ภัยลำปาง พร้อมอุปกรณ์ รถดับเพลิง รถน.เขต อุปกรณ์ส่องแสงสว่างและกำลังอาสาสมัครสนับสนุน

โดยที่เกิดเหตุ พบเป็นเพลิงลุกไหม้ไซโลเก็บขี้เลื่อยภายในโรงงาน สมาคมกู้ภัยลำปางร่วมกับ สนง.ปภ.จังหวัดลำปาง, ศูนย์ปภ.เขต10ลำปาง และเทศบาลตำบลใกล้เคียง พร้อมด้วยรถดับเพลิงร่วมดำเนินการระดมหัวฉีดน้ำเข้าระงับเหตุ จนสามารถควบคุมและเพลิงสงบในเวลาต่อมา ขณะที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร


>> เปิดสถิติ แจ้งความออนไลน์ลดลง หลังเร่งปราบปรามอาชญากรไซเบอร์ พร้อมสรุปผล 8 ปฏิบัติการสำคัญ

15.00 น. กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายมิจฉาชีพออนไลน์และเว็บพนัน โดยปฏิบัติการครั้งนี้มีการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ 8 จุด

"บิ๊กอรรถ" พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า การปราบปรามอย่างเข้มข้นส่งผลให้สถิติการแจ้งความออนไลน์ลดลง จากเดิมเฉลี่ย 1,200 คดีต่อวัน เหลือ 800-900 คดี อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์อยู่ ตำรวจไซเบอร์จึงเดินหน้าสืบสวน ขยายผล และดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงไปถึงผู้บงการอยู่เบื้องหลัง

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ตำรวจไซเบอร์จะเร่งปราบปรามอาชญากรออนไลน์ทุกรูปแบบ "ไม่จบ ไม่เลิก" พร้อมขยายผลสืบสวนถึงตัวผู้บงการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด


>> ชายวัย 38 ปีขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักหลุดโค้งพลิกคว่ำ เสียชีวิตอยู่ข้างทาง

16.35 น. มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี​ พ้งไล้เกาะ 36 ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำและมีผู้เสียชีวิต บริเวณโค้งมิ้น ในพื้นที่ ม.9 ต.แพงพวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน ราชบุรี ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง ห่างออกไปพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 38 ปี ชาวอำเภอสวนผึ้ง ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก


>> สามีขับกระบะบรรทุกกระหล่ำ มุ่งหน้าไปส่งที่ราชบุรี เกิดอาการวูบระหว่างทาง รถเสียหลักชนต้นไม้ ภรรยานั่งเบาะข้างเสียชีวิต

17.11 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี เขตทองผาภูมิ มีอุบัติเหตุรถกระบะชนต้นไม้ข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บติดค้างภายใน ริมนถนนหมายเลข 323 เส้นทางทองผาภูมิ - ไทรโยค ในพื้นที่ บ้านจันเดย์ ม.3 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว้ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับต้นไม้ข้างทาง สภาพด้านหน้าฝากระโปรงอัดติดกับบริเวณต้นไม้ ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ชายไทย อายุ 55 ปีเป็นคนขับ ทางอาสากู้ภัยให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาล และตรวจสอบที่เบาะโดยสารข้างคนขับ พบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพร่างยังติดค้างในยานพาหนะ ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ และนำร่างออกมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 60 ปี

จากการสอบถาม ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนขับรถ และเป็นสามีของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองและภรรยาได้เดินทางลงมาจากพื้นที่ตำบลชะแล เพื่อนำผักกระหล่ำที่บรรทุกมา จะนำไปส่งในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้เกิดอาการหลับใน จึงทำให้ควบคุมรถไม่อยู่และลงข้างทาง ก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ พร้อมด้วยแพทย์เวร ร่วมตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนจะมอบหมายให้อาสาสมัครดำเนินการนำร่างผู้เสียชีวิตไปส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่ โรงพยาบาลทองผาภูมิ เพื่อหาสาเหตุต่อไป


>> รถกระบะเสียหลักพลิกตะแคงฟาดเข้ากับต้นไม้ข้างทาง มีผู้บาดเจ็บ 2 รายและเสียชีวิต 1 ราย จ.ชุมพร

18.05 น. อาสาสมัครสายชลเขตปะทิว รับแจ้งจากลูกข่าย มีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับต้นไม้ข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ริมถนนหมู่บ้าน ในพื้นที่ ม.4 ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีดำ ลักษณะพลิกตะแคงชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง ตรวจสอบพบว่ามีผมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เป็นผู้ชาย อายุ 40 ปี และผู้หญิง อายุ 40 - 50 ปี ทางอาสาสมัครกู้ชีพ - กู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำสง รพ.ปะทิว ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายมีอาการสาหัสและร่างถูกอัดติดกับตัวรถและต้นไม้ ตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะทิว


>> พายุฤดูร้อน พัดถล่มหลายอำเภอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย สั่งการเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชน

19.30 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานว่า เกิดพายุฝน และลมกระโชกแรงจากพายุฤดูร้อนในจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนครั้งนี้ เบื้องต้น รวม 2 อำเภอ 5 ตำบล ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตกมี 7 อำเภอ

ด้าน นายรุ่งโรจน์ ตันวุฒิ นายอำเภอแม่ลาว เปิดเผยว่า พายุฤดูร้อนนี้ เกิดนานประมาณ 30 นาที อำเภอแม่ลาว มีความเสียหาย 15 หมู่บ้านใน 4 ตำบลคือ ตำบลจอมหมอกแก้ว,ตำบลป่าก่อดำ, ตำบลบัวสลี และตำบลดงมะดะ ส่วนตำบลที่ได้รับความเสียหายหนักสุด คือตำบลจอมหมอกแก้วและตำบลป่าก่อดำ สถานที่ราชการได้รับความเสียหาย 3 แห่งคือ โรงเรียนอนุบาลจอมหมอกแก้ว โรงเรียนป่าก่อดำ โรงพยาบาลแม่ลาว วัดได้รับความเสียหาย 1 แห่ง คือวัดห้วยส้านดอนจั่น มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย แขนหัก 1 ราย หน้าต่างพัดใส่จนสลบ 1 ราย ส่งไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์แล้ว อีกทั้ง ตึกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลแม่ลาว หลังคาได้รับความเสียหาย ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ ต้องใช้เวลาปรับปรุงฟื้นฟู 3-5 วัน ส่วนผู้ป่วยได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และโรงพยาบาลสมเด็จพระญาณสังวร ที่อำเภอเวียงชัย

ล่าสุด นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ประสานกับฝ่ายปกครองอำเภอต่างๆ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่มีฝนตกและพายุลมกระโชกแรง ให้ทำการสำรวจความเสียหาย และเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด


>> เพลิงไหม้ห้องยา ภายในอาคารโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมเพลิงไว้ได้ไม่ลุกลาม ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

20.00 น. หลังจากศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารผู้ป่วยนอก-อำนวยการ โรงพยาบาลอุดรธานี จึงแจ้งรถกู้ภัยพร้อมกำลังอาสาสมัคร และรถอุปกรณ์คันที่ 1 ออกตรวจสอบทันที

ถึงบริเวณอาคารผู้ป่วยนอก-อำนวยการ ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่ามีเพลิงลุกลามบริเวณชั้น 2 (ห้องยา) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เร่งระงับเหตุบริเวณชั้น 2 ของอาคาร

ในเวลาเดียวกันเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุดรธานี พร้อมด้วยกำลังอาสาสมัครมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยภายในอาคารบริเวณชั้น 1 ออกจากนอกอาคารเนื่องจากมีกลุ่มควันจำนวนมาก

ใช้เวลาไม่นานก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่ ประเมินความเสียหาย และตรวจสอบอย่างรัดกุมอีกครั้ง ในบริเวณจุดเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน เจ้าหน้าที่เร่งระบายกลุ่มควันออกจากตัวอาคาร


>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

03.25 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เบื้องต้น มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณเชิงสะพานภูมิพล ถนนพระราม 3 รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ พื้นที่

เพิ่มเติม ที่เกิดเหตุ ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขึ้นมาจากถนนพระราม 3 มุ่งหน้าสะพานภูมิพล พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า MSX สีแดง ป้ายทะเบียน กทม. ล้มคว่ำสภาพหน้ารถพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้หญิง อายุประมาณ 20 - 30 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางโพงพาง 
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม