หน้าแรก > สังคม > สุขภาพ

กทม. เดินหน้าลดผลกระทบสุขภาพประชาชนจาก PM2.5

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17:15 น.


กทม. เดินหน้าลดผลกระทบสุขภาพประชาชนจาก PM2.5 หลัง คกก.โรคจากการประกอบอาชีพฯ ออกมาตรการเขตพื้นที่เฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่น

(25 ก.พ. 68) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2568 ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร และผ่านระบบออนไลน์

สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 เห็นชอบในการกำหนดเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 และมอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมพิจารณาปรับปรุงหรือกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อใช้ดำเนินการในเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ได้ตามความเหมาะสมและสมควรแก่กรณี และเพื่อให้การเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จึงแจ้งกรุงเทพมหานครให้ทราบถึงการกำหนดเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนและการนำมาตรการต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ดำเนินการในเขตพื้นที่ ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์

โดยเขตพื้นที่ที่กำหนด แบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ เขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังและการป้องกันโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่นละอองไม่เกิน 2.5 ไมครอน คือ มีค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยใน 24 ชั่วโมง เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. แต่ไม่เกิน 75 มคก./ลบ.ม. โดยมีมาตรการ 1. สนับสนุนหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง 2. จัดเตรียมพื้นที่หรือห้องปลอดฝุ่นในอาคารสถานที่ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ ทวิดา ได้สั่งการให้พิจารณาเตรียมพื้นที่ห้องปลอดฝุ่นเพิ่มเติมในศูนย์บริการสาธารณสุขพลัสทั้ง 12 แห่ง

ในส่วนเขตพื้นที่ที่ต้องมีการควบคุมโรค คือ มีค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยใน 24 ชั่วโมง เกิน 75 มคก./ลบ.ม. โดยมีมาตรการ 1.สนับสนุนหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง และจัดเตรียมพื้นที่หรือห้องปลอดฝุ่นในอาคารสถานที่ในเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังและการป้องกันอย่างต่อเนื่อง 2. หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ พิจารณาปรับรูปแบบการทำงานแบบ Work from home เป็นลำดับแรก ส่วนภาคเอกชนพิจารณาตามเห็นสมควร 3.หน่วยงานของรัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด 4.ใช้กลไกและมาตรการทางกฎหมายตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2562 โดยให้คกก.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพฯ กทม. ให้คำแนะนำแก่อธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อประกาศเขตพื้นที่ที่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง ฯ ซึ่งเป็นกรณีที่หากปล่อยไว้อาจเกิดหรือก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของประชาชนในเขตพื้นที่ เพื่อให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การป้องกัน หรือการควบคุมโรคจากฝุ่น PM2.5 หรือกำหนดมาตรการอื่นใดที่เหมาะสมแก่สภาพของพื้นที่นั้นเป็นการเฉพาะ

นอกจากนี้มติคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม เห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมสำหรับปรับใช้ดำเนินการในเขตพื้นที่ที่ต้องการควบคุมโรคฯ ประกอบด้วย 5 มาตรการ ได้แก่ 1.การลดการสัมผัสฝุ่น PM2.5 2.การสื่อสารความเสี่ยง 3.การเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรุก 4.การเฝ้าระวังสุขภาพเชิงรับ (เวชกรรมสิ่งแวดล้อม) 5.การแจ้ง การรายงาน และการสอบสวนโรค

“จากนี้อีก 1-2 เดือน จะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากคาดว่าจะมีเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามา เพราะในเดือน เม.ย. ปีที่ผ่านมา เป็นเดือนที่มีปัญหาในเรื่องการควบคุมโรคหลาย ๆ โรค รวมถึงโรคอันเกิดจากอุณหภูมิและเพลิงไหม้ สารเคมี” รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าวในช่วงท้าย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ