วันที่  16 กุมภาพันธ์ 2568  ผู้สื่อข่าว รายงาน นพ.ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา (สคร.9) อัพเดทสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ปี 2568 ล่าสุดว่า 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ได้แก่ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และจ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ดูแลของเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2568 มีผู้ป่วยสะสมพุ่งสูงเป็น 6,938 ราย และปีนี้มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 3 ราย ซึ่งเมื่อแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วย มากสุด 3,719 ราย และมีผู้เสียชีวิต 3 ราย รองลงมา คือ จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 1,753 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 800 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 666 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดในกลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปี รองลงมาคือ เด็กอายุ 4 ปี และอายุ 3 ปี ตามลำดับ ซึ่งช่วงนี้สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก อายุ 3-9 ปี นอกจากนี้ ใน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 

1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 
2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ทุกคน 
3.ผู้มีโรคเรื้อรัง อาทิ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 
4.ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
5.ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 
6.ผู้ที่เป็นโรคอ้วน (น้ำหนัก> 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
7.ผู้พิการทางสมอง ที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จะมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย จึงขอให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และไปรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ปีละ 1-2 ครั้งที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน และเมื่ออยู่ในที่ที่มีคนรวมกลุ่มกันจำนวนมาก ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เพราะโรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อกันได้ทุกเพศทุกวัย และมักพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน เช่น โรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร หรือสถานที่ทำงาน

โดยอาการป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จะมีไข้สูง มีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว หากมีอาการป่วยดังกล่าวหรือข้อสงสัย ให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยเร็ว และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422