24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

>> บุกโรงงานหลอมโลหะของนายทุนจีน นำขยะอิเล็กทรอนิกส์มากำจัดโดยผิดกฎหมาย

07.30 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม ร่วมกันจับกุม ชาย สัญชาติจีน อายุ 39 ปี และหญิง สัญชาติเมียนมา อายุ 35 ปี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส ร่วมกับคณะที่ปรึกษา รมต.อุตสาหกรรม และ จนท.อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบเพื่อตรวจค้นโรงงานที่น่าเชื่อว่ามีการหลอมพลาสติกจากสายไฟที่เป็นต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ช่วงที่ผ่านมา และโรงงานที่ลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ มาหลอมโดยผิดกฎหมาย จำนวน 3 จุด ใน จ.สมุทรสาคร

จากการตรวจค้นปรากฏพบว่า บริษัทที่ 1 มีใบอนุญาตตั้งโรงงานถูกต้อง แต่ขณะเข้าตรวจสอบมีการประกอบกิจการหลอมพลาสติก ซึ่งดำเนินการโดยไม่แจ้งเจ้าหนักงานให้ทราบ ดำเนินคดีกับ ชาย สัญชาติจีน นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปทส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บริษัทที่ 2 พบว่ามีการครอบครองแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ อันเป็นวัตถุอันตราย อันเป็นความผิด ตาม พรบ.วัตถุอันตราย และตาม พรบ.โรงงาน ข้อหา ขยายกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, ตั้งและประกอบกิจการโรงงานคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เป็นวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

และบริษัทที่ 3 ขณะตรวจมีการหลอมโลหะ ส่งกลิ่นเหม็น มีผู้ต้องหาหญิงแสดงตนเป็นผู้จัดการ ตรวจพบการกระทำผิด ตาม พรบ.โรงงาน ข้อหา ร่วมกันไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> ศาลอาญายกฟ้อง "อัจฉริยะ" คดีหมิ่นประมาท สว.อุปกิต เอี่ยวยาเสพติด - บ่อนพนันออนไลน์

09.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ ที่ นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีต สมาชิกวุฒิสภา เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท

ศาลฯวิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าถ้อยคำที่จำเลย กล่าวในไลฟ์สด มีพยานหลักฐานเพียงพอ ซึ่งทางปปง. ได้มีการอายัดทรัพย์และอัยการได้ยื่นฟ้องโจทก์ หลังจากนั้น อย่างไรก็ตามโจทก์เคยเบิกความในคดีอื่นว่าเคยเป็นเจ้าของโรงแรมบ่อนการพนันเครือ "อัลลัวร์กรุ๊ป" (Allure Group) ก่อนจะขายหุ้นให้บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับทุนมินหลัด ดังนั้นที่จำเลยกล่าวถึงโจทก์จึงเป็นเรื่องที่มีมูลเกิดขึ้นจริง เป็นการตั้งข้อสังเกตถึงคนที่ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นตำแหน่งทรงเกียรติเป็นบุคคลสำคัญ บุคคลสาธารณะประชาชนทั่วไปสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ จำเลยซึ่งเป็นประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ทำหน้าที่ตรวจสอบบุคคลสาธารณะ เห็นว่าการกระทำของจำเลย ติชมโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดตามฟ้อง เมื่อการกระทำไม่เป็นความผิดจึงไม่จำเป็นต้องชดใช้ค่าสินไหมตามที่โจทย์เรียก พิพากษายกฟ้อง และยกคำขอให้ชดใช้ค่าสินไหม

ด้าน นายอัจฉริยะ กล่าวภายหลัง ศาลฯยกฟ้องว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณศาลฯ ที่ยกฟ้อง ในส่วนคดีที่ สว.อุปกิต ฟ้องตนเอง มานั้น มี 2 สำนวน และยกฟ้องไปแล้ว 2 สำนวน ซึ่งตนเองยืนยันว่าสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์ เป็นการตรวจสอบและติชมโดยสุจริต

>> ตำรวจเตรียมฝากขัง ผู้ต้องหาแก๊งสาดน้ำซุปรุ่นน้อง

10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัว นาย พอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น” และ นายออ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น มาพร้อมผู้กระทำความผิดอื่นๆ เพื่อขึ้นรถห้องขังส่งศาลจังหวัดธัญบุรี ทางพนักงานสอบสวนได้คุมตัว นายพอ และ นายออ ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี รวมกับผู้ต้องหาในคดีอื่น แต่สุดท้ายก็ต้องนำตัวทั้ง 2 รายกลับมา เพราะว่าจะควบคุมตัวรวมกับพวกทั้งหมดรวม 8 คน ไปฝากขังครั้งเดียวกันในเวลา 13.00 น.

พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า เกิดความสับสนเล็กน้อยของตำรวจที่มีหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง เพราะไม่ทราบว่าจะได้มีการแยกผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวออกมาเพื่อฝากขังพร้อมกันในเวลา 13.00 น. โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวเรื่องทีมขายพอร์ตเค ซีเต้และปาเต้ที่เพื่อนร่วมหุ้นด้วยกัน ยอมรับว่า ร่วมกันลงทุนขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ไม่ได้ขายพอร์ตเค และไม่ได้จ่ายส่วยให้ตำรวจในการขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด ส่วนกรณีคลิปเสียงบังคับให้ผู้เสียหายวัดดวงดื่มเครื่องดื่มผสมไซยาไนด์นั้น ทางด้านนายพอ แค่ขู่เท่านั้นไม่ได้มียาไซยาไนด์จริง ซึ่งอยากฝากน้องๆ ทุกคนที่เป็นเยาวชนอย่าไปทำพฤติกรรมลอกเรียนแบบ เพราะโทษที่จะได้รับนั้นคือการติดคุกและเสียอนาคตด้วย

>> ไฟไหม้ร้านสะดวกซื้อ เสียหายวอดทั้งร้าน โชคดีไร้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

11.06 น. ศูนย์วิทยุหน่วยบรรเทาสาธารณภัยทางบก รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ ม.3 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบเปลวเพลิง กำลังโหมลุกไหม้ตัวอาคารของร้านสะดวกซื้ออย่างรุนแรง มีกลุ่มควันพวยพุ่ง ออกมาเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพ ทั้งพนักงานและลูกค้า ออกห่างจากจุดเกิดเหตุอย่างโกลาหล โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระดมรถน้ำฉีดเข้าสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลงเหลือเพียงกลุ่มควัน

ตรวจสอบพบทั้งตัวอาคาร และสินค้าภายในร้านสะดวกซื้อถูกเพลิงลุกไหม้ จนได้รับความเสียหายทั้งหมด เหลือเพียงซากโครงสร้าง ชั้นวางสินค้าถูกความร้อนจนบิดตัวและดำเป็นตอตะโก ส่วนสินค้านั้นถูกไฟไหม้จนได้รับความเสียหายทั้งหมด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.บ่อวิน ลงพื้นที่สอบที่เกิดเหตุ โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ไว้ได้ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่า เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้น คาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าห้าล้านบาท โชคดีที่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม จะได้ประสานพนักงานสอบสวน มาตรวจสอบที่เกิดเหตุในภายหลัง รวมถึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเขตสองจังหวัดชลบุรี ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงในครั้งต่อไป

>> วิสามัญ ดับ 1 โจรขโมยรถ จยย. ยิงสู้ตำรวจเปิดทางหนี ไล่ล่าอีก 1 ที่ยังหลบหนี

12.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ รับแจ้งเบาะแส ว่าพบคนร้าย 2 คน ที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ เมื่อ 2 วันก่อน เหตุเกิดในพื้นที่ เขตบางเขน กทม.

โดยคนร้ายมีปืนไม่ทราบชนิด 1 กระบอก ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สน.คันนายาว เข้าจับกุมคนร้าย มีการใช้อาวุธปืนขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจยิงสวนกลับไป คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย โดยคนขับสามารถหลบหนีไปได้ เหตุเกิดภายในซอยวัดศิริพงษ์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ของกลางที่ถูกขโมยมา จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งตามตัวคนร้ายที่หลบหนี และอยู่ระหว่างรอผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบข้อมูล และ ส่งมอบร่างชันสูตรพลิกศพ

>> นายกฯ มอบนโยบาย ผู้ช่วยรัฐมนตรีทุกกระทรวง เน้นทำงานเชิงรุก พร้อมช่วยรัฐมนตรีขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาประเทศ

13.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายและภารกิจ ให้แก่คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่าตำแหน่งนี้มีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและสนับสนุนการทำงานของรัฐมนตรีในการดำเนินนโยบายของรัฐบาล จึงขอให้ร่วมมือกันทำงานตามภารกิจของแต่ละกระทรวง สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจน เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นแก่ประชาชน

นายกฯ ได้กำชับให้ติดตามข้อสั่งการ นโยบาย ข้อหารือ และกระทู้ถามจากรัฐสภาที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงของตนเอง เพื่อให้รัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้อย่างครบถ้วน พร้อมขอให้แต่ละกระทรวงเร่งผลักดันมาตรการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาระของประชาชน รวมถึงติดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด เพื่อทำให้ปีนี้ เป็น “ปีแห่งโอกาสและการกระตุ้นเศรษฐกิจ”

>> กลุ่มบุคคลต่างด้าว 59 ชีวิต ลักลอบข้ามแดนหวังหลบหนีเข้าเมือง จ.กาญจนบุรี

15.00 น. ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองรวมกลุ่มเป็นจำนวนมาก บริเวณสวนยางไม่มีเลขที่ บ้านอู่ล่อง หมู่ที่ 4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับทหาร

จากการตรวจสอบเมื่อพบกลุ่มคนจำนวนมาก นั่งหลบอยู่จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวไว้ โดยตรวจสอบพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 59 คน เป็นชาย 31 คน หญิง 27 คน และเด็กผู้ติดตาม จำนวน 1 คน จึงดำเนินคดีตามกฎหมาย.

>> เมียนมา ออกกฎให้รถจากเมียวดี ข้ามเข้ามาในเขต อ.แม่สอด ได้วันละ 1 รอบ

15.27 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเมียนมาจำนวนมาก นำรถยนต์ข้ามพรมแดนไทย ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา เพื่อเข้าไปเติมน้ำมันเชื้อเพลิงในปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หลังไทยออกมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมียนมา ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันในเมืองเมียวดี

ขณะที่ปริมาณรถที่มากทำให้ชายแดนฝั่งเมียนมาเกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยล่าสุดมีรายงานว่า ในช่วงขาดแคลนน้ำมันชาวเมียนมาจำนวนมากที่มีรถยนต์ นำรถเข้ามาใน อ.แม่สอด จ.ตาก หลายรอบ เพื่อมาเติมน้ำมันเชื้อเพลิงและนำกลับไปขายต่อเพื่อเก็งกำไร 
ทั้งนี้ ทางการเมียนมา ร่วมกับ ทหารกะเหรี่ยง (BGF) หรือ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน ได้ออกระเบียบใหม่ ห้ามไม่ให้ชาวเมียนมา นำรถยนต์ข้ามมายังเขตแดนไทย ที่ อ.แม่สอด เกินวันละ 1 รอบ เพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

>> "นายกฯ" สั่งทบทวน กฎหมายห้ามขายเหล้า เร่งศึกษาผลกระทบท่องเที่ยว

16.01 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ครม.ว่า รัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนจากภาคธุรกิจและหลากหลายกลุ่ม ถึงข้อจำกัดทางกฎหมายในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และไม่สอดคล้องกับนโยบายที่สิ้นปีนี้รัฐบาลจะส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ในธีมของ“อเมซซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ทัวร์ริซึม แอนด์ สปอร์ตเยียร์”

จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาเพิ่มเติม เรื่องห้ามขาย ตั้งแต่เวลา 14.00-17.00 น. หรือวันทางพุทธศาสนาต่างๆ ว่า เรื่องนี้กระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง รวมถึงการห้ามขายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และการติดขัดการควบคุมเป็นโซนนิ่ง ซึ่งกฎบางกฎออกมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเรื่องนี้ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงแอลกอฮอล์ได้อย่างง่ายดายด้วย เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ห้ามไว้คือเรื่องของเวลาช่วง 14.00-17.00 น. ส่วนวันสำคัญทางพุทธศาสนา จะให้ทีมลงไปศึกษาดูก่อน เพราะวันพระใหญ่หรือวันที่ยังห้ามอยู่นั้น ชาวต่างชาติที่เข้ามาเขาไม่ทราบก่อน ก็จะมีผลเรื่องการท่องเที่ยว เพราะธีมปีนี้ เน้นเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องนี้ต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง

>> หนุ่มรัสเซีย เล่นสไลด์เดอร์ท้ายเรือ คาดแผ่นหลังกระแทกน้ำทะเลอย่างแรง ก่อนช็อกหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

17.00 น. ทีมกู้ภัย ฝ่ายภัยพิบัติทางทะเล เมืองพัทยา และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา ได้ทำการนำเรือเร็วออกไปเคลื่อนย้าย ร่างนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ประสบอุบัติเหตุ พลัดตกจากเครื่องเล่นสไลด์เดอร์ ด้านท้ายเรือนำเที่ยว ตกลงไปในทะเล ก่อนจะหมดสติไป เหตุเกิด บริเวณเกาะสาก ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เมื่อทีมกู้ภัยไปถึง พบนักท่องเที่ยมชาวต่างชาติ ทราบชื่อว่า นายแอนดูร์ อายุ 33 ปี ชาวรัสเซีย รูปร่างอ้วน น้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 100 กก. นอนหมดสติ ไม่มีชีพจร อยู่บนเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่ ซึ่งจอดลอยลำอยู่หน้าเกาะสาก ทีมกู้ภัยจึงตัดสินเริ่มปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต และพยายามช่วยกันนำร่างคนเจ็บขึ้นเรือเร็ว เพื่อกลับเข้าฝั่งเมืองพัทยา เมื่อมาถึงฝั่งทีมกู้ภัยยังคงพยายามที่จะช่วยปั๊มหัวใจนานกว่าครึ่งชั่วโมง พร้อมกับประสานโรงพยาบาลเมืองพัทยา ขอสนับสนุนทีมแพทย์และพยาบาล มาทำการช่วยเหลือ ก่อนเคลื่อนย้ายนำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา สุดท้ายก็ไร้ปาฏิหาริย์ นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียรายนี้ ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

นายนิ ลูกเรือนำเที่ยวลำดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า นักท่องเที่ยวรายนี้ได้ร่วมเดินทางไปกับเรือ เพื่อไปเล่นน้ำที่ทะเลเกาะสาก พอไปถึงเกาะ ผู้ตายได้ไปเล่นเครื่องเล่นสไลด์เดอร์ ด้านท้ายเรือ ไหลลงไปในทะเล ก่อนที่จะปีนขึ้นมาบนเรือ แล้วบ่นปวดแผ่นหลังอย่างรุนแรง ก่อนจะเกิดอาการช็อกล้มลงไปนอนกองกับพื้นเรือ แล้วหมดสติไป ทางกัปตันเรือจึงประสานกู้ภัยมาทำการช่วยเหลือดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ต้องให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ทำเรื่องส่งร่างผู้ตายไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน ที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อสรุปสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป

>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยคู้บอน 27

18.15 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ เคหะเอื้ออาทรคู้บอน 27 ตึก 61 ซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 5 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 5 เพลิงลุกไหม้เสียหายตู้หนังสือ ชั้นวางหนังสือ เสื้อผ้า และกล่องอเนกประสงค์ พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 4 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขน

>> จับแล้วคนร้าย มือเผาพ่อค้าแตงโมเสียชีวิต ก่อนจะหนีออกนอกประเทศ อ้างปมหึงหวง

20.52 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2568 ตำรวจ สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุ พบรถยนต์กระบะสีขาว บรรทุกแตงโมถูกไฟไหม้ ภายในวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ทราบชื่อ นายราเชน อายุ 53 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกไฟไหม้ตามร่างกายเกือบ 80 เปอร์เซนต์ และเสียชีวิตระหว่างได้รับการช่วยเหลือ

ความคืบหน้าคดีวันนี้ (11 ก.พ.) ชุดสืบสวนกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมชุดสืบสวน สน.บางโพงพาง และ ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกันจับกุมนาย ออ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นอดีตสามีของภรรยาพ่อค้าขายแตงโมที่เสียชีวิต ตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ในความผิดฐาน ”วางเพลิงเผาทรัพย์ และพยายามฆ่า“

เจ้าหน้าที่จับกุมได้บริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร ขณะกำลังพยายามจะหลบหนีออกไปยังชายแดนไทย - ลาว ในเบื้องต้นนายออ อ้างว่า การก่อเหตุครั้งนี้เกิดจากความหึงหวง

รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถพ่วง ริมถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันตก ชายวัย 44 ปีเสียชีวิต จ.พระนครศรีอยุธยา

เวลา 22.08 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุกู้ชีพอยุธยา มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนท้ายรถบรรทุก 18 ล้อ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันตก มุ่งหน้าบางปะอิน ใกล้เคียงปั๊ม ปตท. ในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนท้ายรถพ่วง 18 ล้อ ฮีโน่ สีขาว - น้ำเงิน ป้ายทะเบียน นครราชสีมา ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาชาวบางปะอิน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. บางปะอิน พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนมอบให้อาสาสมัครเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลบางปะอิน เพื่อหาสาเหตุต่อไป

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศอินโดนีเชีย

23.06 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.4 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ทาง ตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 437 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย  

>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิต

01.19 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ บนถนนศรีบูรพา ช่วงซอยศรีบูรพา 8 ในพื้นที่ เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานนยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ - แดง ป้ายทะเบียน พะเยา ลักษณะเสียหลักชนท้ายรถกระบะ ฟอร์ด แรนเจอร์ สีส้ม ป้ายทะเบียน กทม. และมีผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 32 ปี พื้นที่ สน.บึงกุ่ม

>> รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต

01.56 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เบื้องต้น มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ถนนพระยาสุเรนทร์ บริเวณซอยพระสุเรนทร์ 25 รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ 
คืบหน้า ที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ แลมเบรตต้า สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนเสาไฟฟ้า ผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 51 ปี พื้นที่ สน.คันนายาว

>> ชายวัย 46 ปีขี่รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ แล้วถูกรถบรรทุกตามหลังทับซ้ำ เสียชีวิตบนถนนเทพรัตน

02.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ ถนนเทพรัตน (บางนาตราด) ขาออก ในช่องทางคู่ขนาน ช่วงฝั่งตรงข้ามทางเข้าวัดบางบ่อ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน พลิกคว่ำแล้วถูกรถบรรทุก 10 ล้อทับซ้ำ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 46 ปี สภาพถูกทับล้อรถทับที่ศีรษะ หมวกนิรภัยพังเสียหาย ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ

>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้เสียชีวิตกลางถนนหนามแดง

02.22 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุ ถนนหนามแดง ใกล้เคียงหมู่บ้านฉัตรเพชร ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะเสียหลักพลิกว่ำ และมีผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย เป็นชายไทย อายุประมาณ 29 ปี ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว

>> ชายวัย 36 ปีขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟ ริมถนนวิทยุ บาดเจ็บสาหัส กู้ชีพ - กู้ภัยเร่งทำ CPR แต่ไม่เป็นผล

03.10 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุถนนวิทยุ ใกล้เคียงทางเข้า สน.ลุมพินี มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ทางอาสาสมัครกำลังช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ คาวาซากิ สีเขียว ไม่พบป้ายทะเบียน ลักษณะชนเสาไฟส่องสว่างแล้วพลิกคว่ำ สภาพรถพังเสียหาย และใกล้กันพบร่างของมีผู้บาดเจ็บชาย 1 รายมีอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ และทางทีมกู้ชีพยืนยัน ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุประมาณ 36 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี