วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 รอยเตอร์ รายงาน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) แถลง อัตราการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ในสหรัฐฯ สูงถึงหรือใกล้ระดับสูงสุดในรอบอย่างน้อย 15 ปี และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดย ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) พบว่ามีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่แล้วอย่างน้อย 24 ล้านราย ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล 310,000 ราย และผู้เสียชีวิต 13,000 รายในฤดูกาลนี้ ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวระบุในรายงานการเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ประจำสัปดาห์ว่า "ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลยังคงเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ"

ทั้งนี้ พบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลนอกสถานที่ร้อยละ 7.8 เป็นผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา จากร้อยละ 7 ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มกราคม และร้อยละ 5.8 ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

จำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อยู่ที่ 8% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยห้องฉุกเฉินที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด 19 ซึ่งอยู่ที่ 1% และผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดไวรัสซิงซิเชียลทางเดินหายใจซึ่งอยู่ที่ 0.5%

ตามข้อมูลของ CDC จำนวนการระบาดของไวรัสโนโรไวรัสในสหรัฐฯ สูงผิดปกติในช่วงฤดูหนาวนี้ โดยรัฐหลายแห่งมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ภาวะรุนแรงที่สุดทางตอนใต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ และทางตะวันตก ทำให้โรงเรียนบางแห่งต้องปิดทำการ เช่น เขตโรงเรียนอิสระในรัฐเท็กซัส ซึ่งมีนักเรียน 3,200 คน ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 3 วัน เนื่องจากนักเรียน 650 คน และคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ 60 คนลาป่วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกาติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A H1N1 และ H3N2 ตามสถิติของฤดูไข้หวัดใหญ่ในช่วงนี้ โดยทั่วไป ฤดูไข้หวัดใหญ่จะถึงจุดสูงสุดประมาณเดือนกุมภาพันธ์

แพทย์แนะนำว่า ประชาชนควรล้างมือบ่อย ๆ ทำความสะอาดพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก และปากด้วยมือ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่

ที่มา https://www.reuters.com/.../us-flu-rate-or-near-highest.../