หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05:45 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568


>> ไล่ล่ารถขนส่งตู้ทึบ ลอบขนแรงงานเถื่อน กว่า 30 ชีวิต สารภาพ จ่ายคนละ 80,000 บาท

07.20 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลาร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา ติดตามไล่ล่ารถบรรทุกสี่ล้อเล็กตู้ทึบ อีซูซุสีขาว หลังจากสืบทราบว่าเป็นรถที่ใช้ขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองจากพื้นที่ จ.สมุทรสาครมาส่งในพื้นที่ จ.สงขลา

มีรายงานว่า เมื่อรถวิ่งมาบนถนนสายเอเชีย ขาล่องใต้พื้นที่ ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ซึ่งมีการวางแท่งแบริเออบนถนนที่กำลังก่อสร้างทำให้รถต้องลดความเร็ว จึงเข้าสกัดจับปิดหัวปิดท้ายและบล๊อครถคันนี้เอาไว้ได้

เจ้านหน้าที่เข้าควบคุมตัวคนขับรถชื่อ นายสอ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร และตรวจค้นภายในตู้ทึบปรากฏว่าพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนหลบหนีเข้าเมืองไม่มีหนังสือเดินทาง นั่งอัดกันมาในตู้ทึบถึง 33 คน เป็นชาย 21 คน หญิง 12 คน แยกออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มที่ผูกเชือกสีแดงที่ข้อมือ 15คน กลุ่มที่ไม่มีเชือกผูก 18 คน จึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.รัตภูมิ

จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้ บอกว่า ลอบเดินทางข้ามแดนเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อ 3 วันก่อน และถูกพามาพักค้างคืนที่บ้านเช่าที่ จ.สมุทรสาคร 1 คืน ต่อมาช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ก็มีรถตู้คันนี้มารับ โดยจ่ายค่าเดินทางคนละ 5 ล้านจ๊าด หรือประมาณ 80,000 บาท จ่ายแล้วครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจ่ายเมื่อถึงปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย


>> 5​ ตัวประกันแรงงานไทย เดินทางถึงสนามบิน​สุวรรณภูมิ​ ครอบครัวต้อนรับอบอุ่น

07.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เครื่องบินของสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK374 นำคนไทย 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัว หลังถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกันระหว่างการสู้รบกับอิสราเอลเป็นเวลานานกว่า 1 ปี เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.), นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย, นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และญาติที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด รอรับบริเวณประตู 10 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ทันทีที่คนไทยทั้ง 5 คนเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ทุกคนต่างโผเข้ากอดญาติและครอบครัวที่มาจากต่างจังหวัดทั้งน้ำตา ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความตื้นตันและเอ่อล้นด้วยความปีติของครอบครัวและญาติที่ได้กลับมาพร้อมหน้ากันอีกครั้ง


>> หนุ่มโรงงานขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนขอบทาง ศีรษะฟาดเสาไฟเสียชีวิต ริมถนนเทพรัตน

08.30 น. สภ.บางเสาธง รับแจ้งอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้าและมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ในช่องทางคู่ขนาน ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วง กม. 22 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดยโสธร สภาพศพมีบาดแผลแตกที่ศีรษะด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ ใบหูด้านซ้ายฉีกขาด นอนหงายจมกองเลือดอยู่ริมถนน ห่างกันเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีเทา ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพรถด้านหน้าพังเสียหาย พลิกคว่ำอยู่กลางถนน

จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิตที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองและผู้ตายทำงานเป็นพนักงานโรงงาน ตั้งอยู่ด้านหลังโรงพยาบาลบางนา 2 ก่อนเกิดเหตุหลังจากเลิกงาน ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้ากลับที่พักที่คอนโด แถวถนนเทพารักษ์ ก.ม.ที่ 22 โดยมีตนขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามมา เพื่อไปเอาของที่ห้องพักของผู้ตาย ระหว่างทางผู้ตายขับขี่รถด้วยความเร็ว พอมาถึงที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์เกิดเสียหลักพุ่งชนฟุตบาทพลิกคว่ำ ผู้ตายตกจากรถ ศีรษะฟาดที่เสาไฟฟ้าข้างทางอย่างจัง นอนหมดสติอยู่ริมถนน จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งกู้ชีพมาทำการช่วยเหลือ โดยทำการปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ยืนยันเสียชีวิตแล้ว

ทางด้านพนักงานสอบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุ และมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญนำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาล รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ เพื่อทำการสอบสวนต่อไป


>> รถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตร่างติดค้างภายในยาพาหนะ

08.47 น. รับแจ้งจากศูนย์สั่งการจังหวัดร้อยเอ็ด มีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนท้ายรถกระบะส่งน้ำแข็ง มีผู้บาดเจ็บติดค้างภายในยานพาหนะ ถนนเส้นทางเกษตรวิสัย - สุวรรณภูมิ ใกล้เคียงทางเข้าโรงไม้ ในพื้นที่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด หน่วยกู้ภัยอโสกเกษตรวิสัย

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน ขอนแก่น และ รถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แจ็ส สีดำ ป้ายทะเบียน กทม. สภาพหน้ารถพังเสียหายยับ และทั้ง 2 คันพลิกตะแคงอยู่บนถนน

ตรวจสอบ พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพร่างยังติดค้างอยู่ภายในรถนั่งส่วนบุคคล ทางกู้ภัยอโสกเกษตรวิสัย ได้ประสานขอความช่วยเหลือชุดตัดถ่างกู้ภัยอโสกจตุรมาตัดถ่างและนำร่างผู้เสียชีวิตออกมานอกรถ ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 20 - 30 ปี ส่วนคนขับกระบะบาดเจ็บไม่สาหัส ปฐมพยาบาลที่เกิดเหตุ ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกษตรวิสัย


>> พบท่อนแขนขวามนุษย์ ติดมากับเสื้อกันหนาว ริมบ่อน้ำรกร้าง ย่านลาดกระบัง

10.00 น. สน.จรเข้น้อย รับแจ้งเหตุพบชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ เหตุเกิดริมบ่อน้ำธรรมชาติรกร้าง ซอยมารีย์ 1 แยกซอยร่วมพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม

ที่เกิดเหตุพบพบโครงกระดูกมนุษย์ ท่อนแขนขวาติดมากับเสื้อกันหนาวสีดำ ในกระเป๋าเสื้อพบเป็นพาสปอร์ตแต่ตัวเลือนลาง ทราบแค่ว่าเป็นชาวไนจีเรีย จากการสอบสวนคนมาทอดแหหาปลาทราบว่า ขณะดึงแหขึ้นจากน้ำตกใจเมื่อเห็นกระดูกท่อนแขนมนุษย์และเสื้อผ้าติดขึ้นมามาด้วยรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน พ.ต.ต.ถิรายุ กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือน เม.ย.67 มีคนหาปลาเจอชิ้นส่วนกระดูกท่อนขามนุษย์ริมบ่อน้ำนี้ห่างกันประมาณ 100 เมตร คาดน่าจะเป็นศพเดียวกัน อาจจะเสียชีวิตและถูกสัตว์กัดกินชิ้นส่วนกระจายลงในน้ำ จะให้มูลนิธิช่วยค้นหาส่วนที่เหลือต่อไป เพื่อนำส่งชันสูตรต่อไป


>> เศษชิ้นส่วนปั้นจั่น หล่นทับคนงานเสียชีวิต

12.00 น. สน.ธรรมศาลา รับแจ้งว่า มีหตุเสาหล่นทับคนงาน และมีผู้เสียชีวิต บริเวณตึกแถวไม่ทราบเลขที่ ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 16 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบร่างของ นายสิทธกร เสียชีวิตในสภาพนอนหงายและมีเสาเปื้อนเลือดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ จากการสอบถามผู้อยู่ในสถานที่เกิดเหตุแจ้งว่า ขณะกำลังทำงานกันอยู่นั้น ปั้นจั่นที่กำลังทำงานอยู่เกิดมีปัญหา ทำให้เศษได้หล่นลงมาทับผู้เสียชีวิตซึ่งทำงานในบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นจึงได้ประสานแพทย์นิติเวชเพื่อดำเนินการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป


>> เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 4 ฝ่าย ออกตรวจตามแนวชายแดน ริมแม่น้ำเมย ตรวจยึด “โซลาร์เชลล์” เตรียมลักลอบข้ามแดน จำนวน 5 กล่อง

12.30 น. โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เเม่สอด, ฝ่ายปกครอง, ตชด.346 ลาดตระเวน และเฝ้าตรวจบริเวณพื้นที่รับผิดชอบ ทุ่งข่าม ริมเเม่น้ำเมย บ้านดอนไชย หมู่ 6 ต.เเม่ตาว อ. เเม่สอด จ.ตาก ระหว่างออกตรวจพบบุคคลต้องสงสัยจำนวน 2 คน เดินเเบกถุงดำวัตถุต้องสงสัย ท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ แต่บุคคลดังกล่าว ได้โยนวัตถุต้องสงสัยลงบริเวณชายป่า และรีบว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเมยไปยังฝั่งเมียนมา จึงได้เข้าพิสูจน์ทราบ

ตรวจสอบ พบว่าเป็นอุปกรณ์ผลิตกระเเสไฟฟ้า (โซลาร์เซลล์) จำนวน 5 กล่อง ซึ่งคาดว่า ทางเมนมาได้แล้วก็ข้ามมารับจากคนไทย ระหว่างเดินทางกลับพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทิ้งของกลางและวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ชุดตรวจร่วม จึงได้ตรวจยึดของกลางดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบหาเจ้าของ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> เจ้าของร้านเอะใจ หนุ่มเอาทองขาดมาขาย 2 วันติด เรียกตำรวจมาตรวจสอบ

13.45 น. ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เข้าควบคุมตัว นายพอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี มาสอบสวนหลังนำสร้อยคอทองรูปพรรณที่ขาดไปขายให้กับร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแฟรี่พลาซ่าขอนแก่น แต่พนักงานร้านเกิดความสงสัย เพราะเป็นสร้อยคอที่ขาดและนำมาขาย 2 วันติด

โดย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา มีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ เป็นสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท มูลค่า 40,000 บาท คนร้ายขี่รถ จยย. เข้ามากระชากสร้อยพร้อมพระเครื่องหลวงปู่ทวดเลี่ยมทอง 1 องค์ ที่ผู้เสียหายสวมใส่ที่คอ เหตุเกิดบริเวณสวนสาธารณะบ้านคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จากนั้น หญิงไทย อายุ 57 ปี ผู้เสียหาย ได้เข้ามาแจ้งความที่ สภ.บ้านเป็ด 
ต่อมา คนร้ายได้นำทองซึ่งขาดเป็น 2 ท่อน โดยนำส่วนที่ขาดส่วนแรกมาขายที่ห้างทอง สาขาแฟรี่ ก่อน ได้เงินไป 37,000 บาท หลังจากนั้นวันนี้คนร้ายก็ได้นำทองส่วนที่เหลือเข้ามาขายอีกครั้งที่ร้านเดิม เจ้าของร้านเกิดความสงสัย จึงแจ้งสายตรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เข้ามาตรวจสอบ

จากการสอบสวน นายพอ รับสารภาพว่า ไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์มา หลังจากขายทองวันแรกได้ ก็นำไปใช้หนี้ ซึ่งตนทำงานเป็นพนักงานส่งพัสดุ และมีปัญหาส่วนตัวเรื่องเงินที่ไม่พอใช้ ต้องไปยืมหัวหน้างานและเงินกู้นอกระบบมาใช้ แต่ไม่เกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> ออกหมายจับแล้ว มือเผา "พ่อค้าแตงโม" ในวัดดัง ย่านพระราม 3

14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี คนร้ายบุกราดน้ำมัน จุดไฟเผาพ่อค้าแตงโม ภายในวัด ย่านพระราม 3 เป็นเหตุให้นายราเชน อายุ 53 ปี คนขายแตงโม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล เจริญกรุงประชารักษ์ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีรายงานว่า นายราเชน เสียชีวิตแล้ว

ล่าสุด มีรายงานว่าศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายจับ ผู้ก่อเหตุแล้ว คือ นายเอ (นามสมมุติ) ใน 2 ข้อหา คือ พยายามฆ่า และวางเพลิงเผาทรัพย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งติดตามตามดําเนินคดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง


>> หนุ่ม 34 ปี ขับรถกระบะชนท้ายรถ 18 ล้อ เสียชีวิตร่างติดค้างภายในยานพาหนะ

15.10 น สภ. เมืองพัทลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุ รถกระบะชนกับรถพ่วง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนสายเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ ในพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลท่าแค อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน พัทลุง ลักษณะชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน สมุทรปราการ ภายในตัวรถยนต์กระบะเจ้าหน้าที่พบร่างของผู้เสียชีวิต ชายไทย อายุ 34 ปี ร่างอัดติดอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง ตัดชิ้นส่วนรถ ใช้เวลาอยู่ร่วม 10 นาที จึงสามารถ นำร่างออกมาจากซากรถได้ ก่อนนำร่างส่ง รพ พัทลุง พร้อมประสานญาติเพื่อรับศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป


>> รวบอีก 1 สาวบัญชีม้า แก๊งหลอกขายของในเฟซบุ๊ก

15.46 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาหญิง 1 ราย กระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่ บริเวณตลาด ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน ม.ค. 2565 มีผู้เสียหายพบว่ามีการโพสต์ขายรถจักรยานยนต์ ใน Facebook ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อขอซื้อและตกลงราคาซื้อขายกันจำนวน 12,000 บาท และมีการแจ้งให้โอนเงินทางบัญชีธนาคารซึ่งเป็นชื่อของผู้ต้องหา เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ก็ไม่สามารถติดต่อกับ Facebook ดังกล่าวได้อีก ไม่ได้รับสินค้าตามกำหนดเวลา ผู้เสียหายจึงได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปทส. ชุดจับกุม ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับในพื้นที่จังหวัดพัทลุง จนทราบแหล่งกบดานของผู้ต้องหาจึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม เพื่อนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> พบร่างหนุ่มจมน้ำ ลอยเกยตื้นที่ชายหาดจอมเทียน

16.16 น. ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา รับแจ้งเหตุ พบร่างมนุษย์จมลอยน้ำทะเล ที่ชายหาดจอมเทียนพัทยา ช่วงตรงข้ามซอยจอมเทียน 16 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ พบร่าง ชายไทย อายุ 43 ปี ช่างโรยตัวเช็ดกระจก ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ลอยเกยชายหาดในสภาพคว่ำหน้าเสียชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ขณะที่กลุ่มเพื่อนร่วมงานรีบติดตามมาดูศพ โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทุกคนรวมผู้ตายมาเที่ยววันหยุดที่พัทยา โดยพักที่หาดจอมเทียน ก่อนหน้านี้ได้ออกติดตามหาผู้ตายมาสองชั่วโมงกว่าแล้ว เนื่องจากเจ้าตัวน่าจะเมามากแล้วเพราะดื่มเหล้าขาวไปเยอะ ไม่คิดว่าจะหนีมาเล่นน้ำทะเลแล้วจมเสียชีวิต

สอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะที่ตนเองนั่งชมวิวทะเลอยู่นั้น สังเกตเห็นร่างคนถูกคลื่นพลัดเข้ามาริมชายฝั่ง ตอนแรกคิดว่า คนเล่นน้ำปกติ แต่เห็นว่าอยู่ในสภาพคว่ำหน้า จึงเรียกคนเดินมาตรวจสอบใกล้ๆ ก็รู้ว่ากลายเป็นศพไปเสียแล้ว

เบื้องต้น ร.ต.อ.สนั่น โคตานนท์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา เจ้าของคดี ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เคลื่อนย้ายเก็บรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณรอให้ญาตินำเอกสารมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป


>> รวบ 'รุ่นพี่' แก๊ง LGBTQ สาดน้ำซุปใส่รุ่นน้อง ตำรวจคุมตัวสอบ

16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังมีคลิปเหตุการณ์ สาดน้ำซุปร้อนๆ ใส่รุ่นน้องมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต จนเกิดแผลพุพอง และเกิดเหตุบุกล้อมคอนโดมิเนี่ยมที่พัก เพื่อถามความรับผิดชอบต่อสังคม ล่าสุดที่ สภ.คลองหลวง ผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง

โดย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับ นายพอ (นามสมมุติ) และ นายออ (นามสมมุติ) 2 ผู้ต้องหา พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และกรรโชกทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ โดยทางพนักงานสอบสวนจะมีการคัดค้านการประกันตัว

หลังจากที่ตำรวจควบคุมตัว "นายพอ" มาที่ สภ.คลองหลวง แม่ของผู้เสียหาย ได้ตะโกนถามว่า "สำนึกผิดบ้างหรือไม่ ทำไมทำกับลูกแม่แบบนี้" แต่นายพอ ไม่มีการตอบ อย่างไรก็ตาม ตำรวจเตรียมนำตัวนายพอ ฝากขังที่ศาลธัญบุรี ในวันพรุ่งนี้


>> จนท.ตรวจยึดน้ำมัน 9 ถังซุกซ่อนริมแม่น้ำเมย เตรียมลักลอบส่งข้ามแดน

16.30 น. หน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) โดย หมวดเคลื่อนที่เร็วกองกำลังนเรศวร (มว.คทร.กกล.นเรศวร) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เเม่สอด, ฝ่ายปกครอง, ตชด.346 ลาดตระเวน และเฝ้าตรวจบริเวณพื้นที่รับผิดชอบ พื้นที่ไร่ข้าวโพด ริมเเม่น้ำเมย บ้านดอนไชย หมู่ 6 ต.เเม่ตาว อ. เเม่สอด จ.ตาก

โดยได้ตรวจพบถังน้ำมันขนาดบรรจุ 20 ลิตร จำนวน 9 ถัง (จำนวนทั้งสิ้น 160 ลิตร) วางกระจายอยู่ในพื้นที่ ไม่พบผู้ต้องสงสัย ที่เข้ามาทำการซ่อนพรางน้ำมัน ซึ่งคาดว่าช่วงเวลากลางคืนจะมีกลุ่มที่นัดหมายมารับน้ำมัน ส่งไปขายในประเทศเมียนมา จึงได้ร่วมทำการตรวจยึดถังน้ำมันดีเซล จำนวน 9 ถัง (160 ลิตร) เพื่อตรวจสอบ เเละดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> รถเก๋งชนกับรถกระบะ บรรทุกคนงานเก็บลำไย บาดเจ็บรวม 10 กว่าราย

20.35 น. พนักงานสอบสวน สภ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถกระบะ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดถนนเลี่ยงเมืองสันป่าตอง-หางดง ช่วงก่อนถึงสะพานบ้านเรือน ในพื้นที่ บ้านท่าวังพร้าว ต.ท่าวังพร้าว อ.สันป่าตอง

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า สีขาว ลักษณะชนกับรถกระบะ สีเทา ที่บรรทุกคนงานเก็บลำไย ตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งชาย-หญิง รวมจำนวน 16 คน ในนี้มี 2 รายอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสืบสวนถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อีกครั้ง  


>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้เสียชีวิต

21.42 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.ท.มนูญ วิชาโคตร สว.(สอบสวน) สภ.แก่งโสภา รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำตกลงข้างทางและมีผู้เสียชีวิต จุดเกิดเหตุ ม.9 บ.ชุมแสง ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยบูรพา เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 57 ปี ลักษณะการแต่งกายสวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สภาพนอน ใกล้เคียงพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า มีโอ สีชมพู - ดำ แผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ลักษณะล้มคว่ำอยู่ริมทาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาดำเนินการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตนำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช ในส่วนของสาเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังทอง จะสอบสวนต่อไป


>> ลูกขับรถพาครอบครัวกลับจากทำบุญ เกิดหลับในพุ่งชนเสาไฟข้างทาง มารดานั่งเบาะหลังเสียชีวิต คาดไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย

23.00 น. สภ.บางพลี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ว่ามีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลเสียหลักชนเสาไฟส่องสว่างข้างทางและมีผู้บาดเจ็บหลายราย ริมถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ในพื้นที่ ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. จอดอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ส่วนห้องโดยสารพบว่าถุงลมนิรภัยแตกทุกลูก และพบร่าง หญิงไทย อายุ 78 ปี เสียชีวิตในสภาพศีรษะและลำคอขัดอยู่ที่ซอกเบาะนั่งฝั่งซ้าย ในระหว่างเบาะกับเสาประตูเก๋ง เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพและทำแผนที่ตำแหน่งผู้ตายเอาไว้เป็นหลักฐานก่อนจะเคลื่อนย้ายร่างออกมาชันสูจน์พลิกศพเบื้องต้น

นอกจากนั้นยังพบผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย เป็นชาย 2 ราย และหญิง 1 ราย ทั้งหมดเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน คือลูกสามคนและผู้เสียชีวิตเป็นมารดาของคนเจ็บทั้งสามคน ซึ่งได้รับบาดเจ็บปากแตกเจ็บหน้าอก เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือพาตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการตรวจรักษา

ขณะที่ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า ตัวเองนั่งมาที่เบาะคู่หน้ากับน้องชายซึ่งพอไปไหว้พระและทานข้าวเย็นกันก็กำลังจะกลับบ้าน ในระหว่างทางทุกคนในรถพากันหลับหมด เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุ เนื่องจากน้องชายไม่ใช่คนขับรถเร็วและขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวบ่อยๆ เหตุการณ์ครั้งนี้มันสุดวิสัยจริงๆ ส่วนมารดาที่นั่งมาเบาะหลังก็ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยหากคาดไว้คงไม่ถึงกับเสียชีวิต เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้มอบร่างผู้เสียชีวิตส่งไปที่นิติเวชรามาจักกรีนฤบดินทร์ และจะเชิญผู้บาดเจ็บทั้งสามรายเข้าสอบปากคำอีกครั้ง 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม