นายยศวัฒน์ เธียรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บริเวณทุ่งบังเอิญ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 24-25 มกราคม 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ท่ามกลางความท้าทายจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้ง

ล่าสุด วันที่ 26 มกราคม 2568 ตั้งแต่เวลา 07.00-14.30 น. เจ้าหน้าที่เร่งเก็บกวาดเชื้อเพลิงที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าซ้ำ ทั้งขอนไม้แห้ง ตอไม้ และไม้ยืนต้นตายที่ติดไฟในแนวดำ เพื่อป้องกันการลุกลามไปยังบริเวณอื่น จนสถานการณ์คลี่คลายและสามารถปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์​ โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี ณ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ ขญ.10 (ตะคร้อ)

ปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สถานีควบคุมไฟป่าเขาใหญ่ สถานีควบคุมไฟป่านครนายก สถานีควบคุมไฟป่าปราจีนบุรี และชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าฉะเชิงเทรา รวมกำลังพลกว่า 40 นาย พร้อมสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน (สป.ทส.) ในการบินสำรวจ ขนส่งกำลังพล และลำเลียงเสบียง​ นอกจากนี้ ยังได้รับกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 20 นาย จากหน่วยดับไฟป่าสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี และฐานปฏิบัติการป้องกันรักษาป่าวังมืด เพื่อเฝ้าระวังบริเวณปากทางเข้าป่าและเตรียมพร้อมสนับสนุนกำลังเพิ่มเติม

นายยศวัฒน์​ กล่าวเพิ่มเติม​ว่า​ ทั้งนี้ ทาง สบอ.1 ยังคงจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและเฝ้าระวังไฟป่าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูแล้ง อากาศร้อนจัด เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าได้ง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่เขาใหญ่ซึ่งเป็นผืนป่ามรดกโลกที่มีความสำคัญทั้งในแง่ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

สำหรับการปฏิบัติการดับไฟป่าครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและควบคุมไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์อย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมทั้งตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่ต้นเหตุ ซึ่งไฟป่าถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดมลพิษทางอากาศในช่วงหน้าแล้ง