หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 24 มกราคม 2568

วันที่ 25 มกราคม 2568 เวลา 05:35 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 24 มกราคม 2568


>> เพลิงไหม้รถยนต์แล้วลุกลามคันข้างเคียง เสียหาย 2 คัน ซอยวิภาวดีรังสิต 5

06.31 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ภายในซอยวิภาวดีรังสิต 5 แยก 1-2-1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์ นั่งส่วนชนิดเก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน และลุกลามรถยนต์ นั่งส่วนชนิดเก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายเฉพาะห้องเครื่องยนต์และคอนโซลด้านหน้า รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากความร้อนสะสมในเบรก ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพหลโยธิน


>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุก มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงไทย 1 ราย

07.47 น. รับเเจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.สระบุรี มีอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนเส้นทาง หน้าพระลาน - บ้านครัว ใกล้เคียงเเยกเขาวง ในพื้นที่ หมู่ 2 ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 10 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ป้ายทะเบียน สระบุรี ใกล้กันพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 รายอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสาสมัครเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิต ในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นางจำเนียร อายุประมาณ 46 ปี สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท


>> รวบ 2 หนุ่มปีนเสา ลักตัดสายเคเบิ้ล ปีนกำแพงบ้านหนี สุดท้ายโดนจับทั้งคู่

08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม ชุดปฏิบัติการที่ 4 และ สน.บางรัก ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาย 2 ราย แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ และทำให้เสียทรัพย์” พร้อมของกลาง กรรไกรตัดเหล็กเส้นขนาด 24 นิ้ว 1 ชิ้น คีมตัดลวด 1 ชิ้น คีมตัดท่อ PVC 1 ชิ้น ไฟฉายคาดหัว 1 อัน บันไดไม้ไผ่ ยาวประมาณ 7 เมตร 1 อัน สายเคเบิลทองแดง ความยาวรวมประมาณ 30 เมตร สายเคเบิล 100 คู่สาย ยาวประมาณ 10 เมตร สายเคเบิล 200 คู่สาย ยาวประมาณ 10 เมตร สายเคเบิล 300 คู่สาย ยาวประมาณ 10 เมตร รถยนต์ ISUZU สีเทา ทะเบียนขอนแก่น จับกุมได้ในซอยปราโมทย์ 2 ถนนมเหสักข์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 เวลาประมาณ 21.15 น.ที่ผ่านมา

หลังจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ออกตรวจตราพื้นที่ พบรถอีซูซุ สีเทา ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณปากซอยมเหสักข์ 2จึงเข้าทำการตรวจสอบพบสายเคเบิลจำนวนหนึ่งอยู่ในท้ายกระบะรถคันดังกล่าว เมื่อตรวจสอบโดยรอบพบชาย 1 คน แต่งตัวพรางเป็นพนักงานสายสื่อสาร กำลังปีนบันได เพื่อตัดสายเคเบิล และชายอีกคนยืนอยู่ด้านล่าง ในลักษณะมีพิรุธ ผิดวิสัยพนักงานที่มาปฏิบัติงานตามปกติ จึงแสดงตัวตรวจสอบ แต่ชายทั้งสองวิ่งหลบหนี หลังเจ้าหน้าที่จับกุมได้ มีการตรวจสอบว่าเป็นของบริษัทสื่อสาร หรือไม่ และควบคุมตัวมายัง สน.บางรัก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> หามลูกเสือเนตรนารี โรงเรียนดังเกาะสมุย เข้าโรงพยาบาลด่วน คาดอาหารเป็นพิษ

09.00 น. ศูนย์นเรนทรอ่าวไทย โรงพยาบาลเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ว่ามีนักเรียนที่กำลังทำกิจกรรมเข้าค่ายพักแรมลูกเสือเนตรนารี ระดับชั้น ม.2 ได้มีเกิดอาการปวดอย่างรุนแรง จากอาหารเป็นพิษหลายคน ขอสนับสนุนรถพยาบาล

โดยที่บริเวณสนามฟุตบอลของโรงเรียน คณะครูได้นำตัวนักเรียนลูกเสือ เนตรนารี ที่มีอาการท้องเสีย อาเจียน และอ่อนเพลียจากอาหารเป็นพิษ จำนวน 62 ราย มาให้ทีมแพทย์และพยาบาลทำการซักประวัติและอาการ เพื่อคัดแยกผู้ป่วยตามอาการความรุนแรง โดยได้ส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาที่โรงพยาบาลเกาะสมุย 50 ราย โรงพยาบาลวัฒนแพทย์สมุย 7 ราย และโรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์เนชั่นแนล 5 ราย

ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการรุนแรง 1 ราย ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และผู้ป่วยอาการปานกลาง ต้องให้สารน้ำและสังเกตุอาการ 18 ราย และผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงสามารถทานยารักษาที่บ้านได้ 43 ราย

ด้าน ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ระบุว่า นักเรียนบางส่วนที่เข้าค่ายลูกเสือได้มีอาการตั้งแต่เมื่อคืนจากอาหารเป็นพิษ คุณครูฝ่ายพยาบาลเข้ามาดูอาการและคัดกรองเบื้องต้นนักเรียนอยู่ในระดับที่ยังไม่ต้องไปพบแพทย์ ยังช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ได้เพลียมากจนเกินไป จนกระทั่งเช้าวันนี้ได้มีจำนวนนักเรียนปวดท้องเพิ่มมากขึ้น คาดการณ์ได้ว่ามาจากอาหารที่ทำไปเมื่อวานนี้ตอนมื้อกลางวัน อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจจากแพทย์อีกครั้งหนึ่ง


>> พฐ. เข้าตรวจสอบเหตุไฟไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านแม่ทะ เสียหายวอด 4 ห้องเรียน

09.00 น. สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 5 ลำปาง ฝ่ายปกครองอ.แม่ทะ นำโดยนายเกษม ใจจันทร์ นายอำเภอแม่ทะ เจ้าหน้าที่ สนง.ปภ.ลำปาง จนท.โยธาธิการและผังเมือง และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันเข้าตรวจสอบ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านแม่ทะ หมู่ 9 ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง เมื่อกลางดึกวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายจักรพงษ์ คงนุ่น ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายพงศกร วันดู ครูโรงเรียนบ้านแม่ทะ ร่วมให้ข้อมูล

นายพงศกร วันดู ครูผู้พบเหตุเป็นคนแรก เล่าว่า ได้พักอยู่บ้านพักครู ตั้งอยู่ข้างๆอาคารเรียนฝั่งขวา ช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. ได้ยินเสียงเหมือนประทัดดังหลายครั้ง ตอนแรกคิดว่าไฟไหม้หญ้า แต่ไฟที่บ้านเกิดไฟตกติดๆดับๆจึงเดินออกมาดู ก็พบว่ามีไฟลุกไหม้ช่วงกลางห้องของอาคารเรียนฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นห้องที่ใช้เก็บของ และได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงรีบแจ้ง ผอ.โรงเรียนทราบ และโทรแจ้ง 191

ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีห้องเรียนได้รับความเสียหายจำนวน 4 ห้อง ซึ่งห้องที่เป็นต้นเพลิงเป็นห้องเรียนเก่าที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว จึงใช้เก็บของประเภท โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องดนตรี อุปกรณ์การเรียน สมุดหนังสือบางส่วน และมีอุปกรณ์ตกแต่ง ดอกไม้แห้ง พลาสติกฯลฯ ส่วนที่เหลือเป็นห้องเรียน 2 ห้อง และห้องสมุด 1 ห้อง ซึ่งประมาณการมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 2 ล้านบาท คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


>> นายกฯ ทุ่มงบ 140 ล้านบาท เปิดให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า-รถเมล์ ขสมก. ฟรี 7 วัน แก้ฝุ่น PM 2.5

10.40 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม แถลงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการให้กระทรวงคมนาคม และส่วนงานราชการอื่นๆ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 ใน กทม. ระบุว่า

ตั้งแต่วันที่ 25-31 ม.ค. 68 กระทรวงคมนาคมจะให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถ ขสมก. ฟรี ซึ่งตนได้ประสานผู้ประกอบการกลุ่ม บีทีเอส (BTS) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการนี้ โดยส่วนที่ต้องชดเชยช่วง 7 วันนี้ จะเอารายได้ 7 วันที่ผ่านมาว่าได้รายได้เท่าไหร่ก็จะชดเชยตามนั้น แม้ว่าช่วงเปิดให้ใช้ฟรีน่าจะมีคนมาใช้จำนวนมากแต่จะชดเชยเท่ากับ 7 วันที่ผ่านมา โดยใช้งบกลางในการชดเชยประมาณ 140 ล้านบาท ทั้งนี้ จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติงบชดเชย ซึ่งคิดว่ารัฐมนตรีทุกท่านจะเห็นด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้ตั้งจุดตรวจ 8 จุดเพื่อลดควันดำ คือ หน้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต, ท่าเรือคลองเตย, หน้าสวนจตุจักร, บางนา กม.1, ถ.สุวินทวงศ์ หน้าการประปามีนบุรี, ถ.พระราม 2 หน้าแขวงการทางพิเศษบางขุนเทียน, ถ.รังสิต-นครนายก และ ถ.บรมราชชนนี ขาเข้า-ออก ทั้งนี้ เชื่อว่าจะมีประชาชนมาใช้บริการเกิน 20-30% แต่หากครบ 7 วันแล้วถ้าค่าฝุ่นยังไม่ลดจะมีการประเมินอีกครั้งว่าจะขยายระยะเวลาออกไปอีกหรือไม่


>> ไฟไหม้ห้องแถว เด็กชายวัย 7 ขวบนอนเล่นอยู่คนเดียว วิ่งหนีตายออกมาขอความช่วยเหลือ เพื่อนบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาดับเพลิงทันก่อนจะลุกลาม จ.ชลบุรี

11.30 น. ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลบางพระ จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้ง เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บริเวณ ซอยบางพระ 7/1 หมู่ 10 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลบางพระนำรถดับเพลิงจำนวน 2 คัน เข้าทำการช่วยเหลือ

ในที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นห้องแถวชั้นเดียว ที่เป็นส่วนต่อเติมออกมาเป็นห้องนอน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้น้ำฉีดสกัดควบคุมเพลิงไว้ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จ จากการตรวจสอบพบว่าขณะเกิดเหตุมีเด็กชายอายุ 7 ขวบอาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง 1 คน ซึ่งขณะที่เกิดเหตุได้วิ่งหนีออกมาจากบ้าน และร้องขอให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือ ก่อนจะพยายามวิ่งกลับเข้าไปอีก แต่เพื่อนบ้านได้คว้าแขนเอาไว้ไม่ให้เข้าไปในบ้าน จึงไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ได้แต่ร้องไห้และเล่าเหตุการณ์ให้ญาติฟัง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ด้าน นายมนตรี เพื่อนบ้านเปิดเผยว่า ตนเองนั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ แล้วได้ยินเสียงระเบิดดังตู้ม ก่อนที่จะมีควันไฟ และไฟลุกออกมาจากบ้าน ไฟได้ไหม้ที่นอน ก่อนลุกลาม หลังจากนั้นเห็นเด็กวัย 7 ขวบวิ่งออกมาจากบ้าน ตนจึงเข้าไปดูก่อนที่เด็กจะพยายามวิ่งกลับเข้าไปในบ้านอีก ตนเองจึงดึงมือเด็กไว้ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมกับใช้น้ำและสายยางช่วยฉีดสกัด แต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้ถึงรอให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยเหลือดีกว่า

หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา ได้ทำการตรวจสอบจุดต่างๆของบ้านแล้วรวมทั้งสอบสวนผู้ที่เห็นในการและผู้ที่อยู่ในบ้านคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งต่อไปส่วนด้านความช่วยเหลืออื่นๆทางเทศบาลตำบลบางพระได้ลงพื้นที่ตรวจสอบขอรายละเอียดและจะทำการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นต่อไป


>> นักล่าเหรียญ Jagat เตรียมโดนคุก หากทำความเดือดร้อน จ่อชง DE ปิดแอปฯ เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การพนัน

12.13 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยเตือนกลุ่มนักล่าเหรียญ Jagat ระวังเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่น เนื่องจากรูปแบบของแอปที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เล่นเกมล่าสมบัติในโลกเสมือนจริง ค้นหาเหรียญตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งได้สร้างความวุ่นวายและเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่

เกมดังกล่าวเป็นการออกตามหาเหรียญ เพื่อแลกเงินหรือรางวัล ทำให้กลุ่มนักล่าเหรียญบางคนทำการรื้อค้นกองวัสดุก่อสร้าง กองหินในสวนสาธารณะ กองขยะจนกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ เกิดความสกปรก ซึ่งสิ่งนี้ถือเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก ต้องระวังโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตำรวจไซเบอร์ เตรียมเสนอกระกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ปิดแอปพลิเคชัน Jagat หากไม่มีการขออนุญาต เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามเจ้าของเข้าให้ปากคำ อีกทั้งฟีเจอร์ ของแอปจะต้องมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และยังสามารถเข้าถึงพิกัดของผู้เล่นได้ ทำให้อาจส่งผลเกิดความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ และความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งอาจมาในรูปแบบกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามาตามในพื้นที่

หากประชาชนในพื้นที่บริเวณใด ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มผู้เล่นแอปพลิเคชันดังกล่าวหรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้ง สายด่วน 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบได้ทันที


>> รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 1 รายและเจ็บสาหัสเป็นเด็กหญิงวัย 4 ขวบ

13.46 น. ศูนย์วิทยุมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนบายพาส ช่วงทางกลับรถใกล้เคียงร้านยาง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า แจ็ส สีขาว ป้ายทะเบียน กาญจนบุรี ลักษณะชนกับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ป้ายทะเบียน กทม. ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 71 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 4 ปี มีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครเร่งช่วยเหลือและนำส่ง รพ. พหลพลหยุหา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี


>> กทม. เตรียมดำเนินการทางกฎหมายรถ 6 ล้อ นอก Green List กว่า 3 พันคัน เข้าเขตมลพิษต่ำ

15.49 น. ผู้สื่อข่าวรานงาน นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากที่กรุงเทพมหานครได้นำมาตรการเขตมลพิษต่ำ มาใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อร่วมกันลดมลพิษทางอากาศ ลดผลกระทบต่อสุขภาพ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษ

รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่เขตเมือง และได้ออกประกาศพื้นที่เขตมลพิษต่ำห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ยกเว้น EV, NGV, EURO 5-6 และรถที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2568 มีผลบังคับใช้ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 23 ม.ค. 68 เวลา 00.01 น. จนถึงวันศุกร์ที่ 24 ม.ค. 68 เวลา 23.59 น. เนื่องจากมีฝุ่นสูงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

ปรากฏว่า ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 23 ม.ค. 68 จนถึงขณะนี้ (24 ม.ค. 68) มีรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ขับเข้ามาในพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษก จำนวน 3,726 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถที่ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) จำนวน 353 คัน คิดเป็นร้อยละ 17 ของรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปที่เข้าพื้นที่วงแหวนทั้งหมด สำหรับรถที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีสีเขียวกรุงเทพมหานครซึ่งฝ่าฝืนเข้ามาในพื้นที่ กทม. จะส่งดำเนินการทางกฎหมายต่อไป


>> ปภ.แจ้งภาคเหนือ, อีสาน, กลาง เตรียมรับลมหนาว อุณหภูมิลดอีก 4 องศา เตือนภาคใต้ 3 จังหวัดเจอมรสุม

19.30 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 26-28 ม.ค.บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้อุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3 – 5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส

ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 26-28 ม.ค.ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง และ พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ สงขลา, จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส


>> รถกระบะชนคนข้ามถนน มีผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชาย 1 ราย

20.30 น. มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ จ.กาญจนบุรี ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถกระบะชนคนข้ามถนน และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนแสงชูโต ใกล้เคียงสวนสาธารณภัยสวนหลวงท่าเรือ ในพื้นที่ เขตเทศบาลท่าเรือ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ฟอร์ด แรนเจอร์ สีขาว จอดอยู่ในสภาพฝากระโปรงและกันชนหน้าที่มีร่องรอยการชนได้รับความเสียหาย และห่างออกไปพบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 รายอยู่บนถนนเลนขวา ทางอาสาสมัครตรวจสอบพบว่าได้เสียชีวิตแล้ว ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อ นายฉัตรชัย อายุ 49 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ามะกา


>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำหน้าทางเข้าวัด มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

01.17 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พิษณุโลก มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณถนนหน้าทางเข้าวัดทุ่งชา ม.8 ต.ปลักแรด อ.บางระกำ พิษณุโลก

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า SR 400 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ลักษณะล้มคว่ำ ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร ทราบชื่อต่อมา คือ นายประวิทย์ อายุ 41 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางระกำ 
 

>> 2 คนร้ายใช้อาวุธปืน จี้ชิงสร้อยทอง 2 บาทของผู้เสียหาย ก่อนบิดรถ จยย.หลบหนี

02.05 น. ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า ตำรวจ191 แจ้งเหตุเบื้องต้น คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่และซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไม่ทราบสีและทะเบียน คนขับขี่ สวมหมวกนิรภัยเต็มใบ และคนซ้อนท้ายไม่สวมหมวกนิรภัย สวมเสื้อแขนยาวสีแดง ใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ผู้เสียหาย บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ภายในชุมชนเทพประทาน หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถหลบหนีมุ่งหน้าไปทางปากซอย

ผู้เสียหายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน คนร้ายชาย 2 คน อายุประมาณ 20 ปี ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ขับวนอยู่หลายรอบ ก่อนจะจอดรถจักรยานยนต์อยู่ห่างๆ แล้วลงจากรถและเดินมาหาผู้เสียหายที่หน้าบ้าน

ทำทีเป็นถามชื่อ ก่อนจะเข้ามารุมทำร้าย และชักอาวุธปืนขึ้นมา จี้ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท หลังก่อเหตุได้วิ่งไปขึ้นรถแล้วขับหลบหนี ล่าสุดผู้เสียหายอยู่ระหว่างให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม