วันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลา 01:13
กองร้อยทหารพราน 1201 สนธิหน่วยงานความมั่นคง จับสาวนักร้องร้านอาหาร ซุกยาเคตามีนเข้าประเทศ อ้างซื้อมาเสพเองกับเพื่อน จ.สระแก้ว
วันที่ 14 ธ.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของ กกล.บรูพา, ฉก.อรัญประเทศ, ชค.ทพ.12 โดย ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย.ทพ.1201 จัดกำลังพลปฏิบัติหน้าที่ ด่านตรวจร่วมยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ณ จต.อ.20 ( ทก.ร้อย.ทพ.1201) บ.คลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบหญิงต้องสงสัย จำนวน 1 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นส. กอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ท่าทางมีพิรุธจึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น โดยอาสาทหารพรานหญิง เป็นผู้ตรวจ และตรวจพบยาเสพติด บรรจุอยู่ในซองถุงพลาสติกสีขาวชนิดรูดปิดกดเปิด จำนวน 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีดำ จึงได้นำตัวบุคคลดังกล่าว มาตรวจสอบเพิ่มเติม ที่ ทก.ร้อย.ทพ.1201 และได้ประสาน จนท.ตม.จว.สระแก้ว, จนท.ศุลกากรอรัญประเทศ, จนท.ตร.ท่องเที่ยวสระแก้ว และ จนท.ตร.สภ.คลองลึก ร่วมตรวจสอบ พบว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เคตามีน จำนวน 1 ถุง น้ำหนักชั่งรวมถุงประมาณ 1.130 กรัม
จากการสอบถาม น.ส.กอ ให้การว่าตนได้เดินทางข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 67 เพื่อเดินทางไปทำงานร้องเพลงที่สถานบันเทิงในกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา โดยยาเสพติดที่อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีดำนั้น เป็นของเพื่อนคนไทยเพศชายชื่อแบงค์ ที่ได้นำยาเสพติดมาฝากไว้ในกระเป๋าของตน เพื่อเอาไว้เสพด้วยกัน โดยนายแบงค์ได้ซื้อยาเสพติดมาจากสถานบันเทิงในราคา 1,500 บาท
ต่อมาวันที่ 14 ธ.ค.67 น.ส.กอ ได้เดินทางจากประเทศกัมพูชากลับเข้ามาในประเทศไทยเพื่อประทับตราหนังสือเดินทางและจะกลับไปยังประเทศกัมพูชาอีกครั้ง โดยหลงลืมไปว่ามียาเสพติดอยู่ในกระเป๋าของตน จากการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นของ น.ส.กอ ด้วยชุดทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะ พบสารเสพติดในร่างกายชนิดเคตามีน น.ส.กอ สารภาพว่าตนได้เสพสารเสพติดประเภทเคตามีนจริงจากฝั่งประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.67 จากนั้นได้ส่งตัวพร้อมของกลางดังกล่าว ส่งให้กับ จนท.ตร.สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เครดิต เพลิน พิมพ์อรัญ สวท.สระแก้ว
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ