วันที่ 14 ธันวาคม 2567 เวลา 08:28 น.
วานนี้ (13 ธ.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Kittituch Maitreejit” ได้โพสต์เรื่องราวระหว่างเดินทางจากภูเก็ตไปสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน PG278 ขณะรอผู้โดยสารท่านอื่นเข้ามาในเครื่อง มีผู้โดยสารท่านหนึ่ง หมดสติล้มลงกับพื้นบริเวณทางเข้าเครื่องบิน เราและน้องสาวซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นเห็นแอร์สาวเดินออกไปดูด้วยท่าทีผิดปกติ จึงออกไปดูพบชาวต่างชาติหมดสติอยู่บนพื้น จึงทำการปลุกเรียก ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว แต่ยังคลำชีพจรได้และยังหายใจ ถามประวัติจากเพื่อนที่มาด้วยทราบว่ามีอาการท้องเสีย อาเจียน เพลีย ไม่มีเเรง
เราจึงได้ขออุปกรณ์กระเป๋าฉุกเฉินบนเครื่องบินมาประเมินวัดสัญญาณชีพ และได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทุกอย่างปกติ สักพักผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัว ถามตอบพอรู้เรื่อง ลุกขึ้นยืนและเดินได้ จึงย้ายผู้ป่วยมายังที่นั่งโดยสาร เราได้พูดคุยกับพนักงานบนเครื่องบิน ทุกอย่างเป็นปกติสามารถดำเนินการต่อไปได้ แอร์จึงสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน นักบินนำเครื่องขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ระหว่างที่เครื่องได้ออกจากสนามบินภูเก็ต พนักงานกำลังแจกอาหารบนเครื่อง มีผู้ป่วยหมดสติอีกรายบนเครื่องบิน ผู้โดยสารข้างๆเห็นว่าท่าทางจะไม่ดี เลยกดปุ่มเรียกพนักงานบนเครื่องมาช่วยดู แต่ดูเหมือนคนไข้จะอาการแย่ลงเรื่อยๆ จนในที่สุดมีแอร์สาวคนนึงตัดสินใจ ไปพูดออกลำโพงเพื่อประกาศขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน จากทุกคนบนเครื่องบิน ตามหาคนที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์มาช่วยเหลือ
.พอประกาศจบ ระหว่างที่คนในเครื่องกำลังแตกตื่น เราและน้องสาวจึงลุกขึ้นมาจากบริเวณที่นั่งด้านหน้า เดินเข้ามาแสดงตนอีกครั้งกับพนักงาน แล้วรีบตรงมาที่คนไข้ซึ่งนั่งอยู่แถวด้านหลัง และประเมินอาการอย่างละเอียดตามสิ่งที่เราได้เรียนมา น้องสาววิ่งไปขอกระเป๋าฉุกเฉินอีกครั้ง ผู้ป่วยรู้สึกตัวขึ้น เรียกลืมตา คลำชีพจรได้เบา ใบหน้าซีด ท่าทางอิดโรย สอบถามอาการพบว่า ทานอาหารครั้งสุดท้ายเมื่อวาน มีอาการปวดท้อง อาเจียนเป็นน้ำสีเขียวมากกว่า 10 ครั้ง ถ่ายเหลวมากกว่า 5 ครั้ง ได้ทำการประเมินวัดสัญญาณชีพ และได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เปิดเส้นให้สารน้ำ และได้ให้ยาฉีดแก้คลื่นไส้อาเจียน จากนั้นเราและน้องสาวจึงย้ายที่นั่งไปนั่งใกล้ๆผู้ป่วยเพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และเขียนบันทึกกระบวนการพยาบาล เอกสารต่างๆให้กับสายการบิน
กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่นานนัก และผู้ป่วยทั้งสองรายก็มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับ เรา น้องสาวและทีมแอร์สาวบนเครื่องบิน ต่างประสานงานและเร่งให้การช่วยเหลือผู้ป่วย และเตรียมส่งตัวผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากถึงกรุงเทพแล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ที่คับขัน เครื่องบินอยู่ในสภาพอากาศแปรปรวน จากการที่ได้พูดคุยกับแอร์สาวบนเครื่องทั้งสี่ท่าน เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยมีผู้ป่วยฉุกเฉินพร้อมกันถึงสองรายในเที่ยวบิน
คนเราเกิดขึ้นมาเพื่ออยู่ร่วมกันจริงๆนะ เราต่างเป็นคนสำคัญของกันและกันในบางเวลาจริงๆ หลายๆคนอาจจะบอกว่า เราต้องเกิดมาเพื่อที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข แต่จริงๆแล้วนอกจากจะดูแลตัวเอง เราอาจจะเกิดมาเพื่อดูแลผู้อื่นด้วยก็ได้นะ
ขอบคุณสิ่งที่ครูบาอาจารย์ได้สอนเรามา ประสบการณ์จากการทำงาน สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ทุกเมื่อ ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์
พว.กิตติธัช ไมตรีจิตต์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
พว.วรรณพร ไมตรีจิตต์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ
โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
ขอบคุณข้อมูล : Phuket Times ภูเก็ตไทม์ , Kittituch Maitreejit
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ