หน้าแรก > เศรษฐกิจ

'เอกนัฏ' ส่ง ทีมสุดซอย จับสินค้าไร้ มอก. ซุกโกดังอื้อ เผยลอบนำเข้ามาขายถูกผ่านออนไลน์ เร่งสาวถึงต้นตอ เชื่อเป็นขบวนการโดย ทุนสีเทา

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 04:24 น.


“เอกนัฏ” เผย “ทีมสุดซอย” ลงพื้นที่จับสินค้าไร้มาตรฐาน มอก. มูลค่ากว่า 4.3 ล้านบ. มีทั้งยางรถจักรยานยนต์-เครื่องใช้ไฟฟ้า ขายทางออนไลน์ฉ่ำ ห่วง ปชช.หลงซื้อทำเกิดอันตรายร้ายแรง “ฐิติภัสร์” เร่งสาวถึงต้นตอ เชื่อเป็นขบวนการ โดย “ทุนสีเทา” ลอบนำเข้ามาขายถูกทุ่มตลาด ชี้แพลตฟอร์มออนไลน์-เจ้าของโกดังสินค้าโดนด้วย ฐานมีส่วนร่วมโฆษณา-จำหน่ายสินค้าเถื่อน

 (25 พ.ย.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ยังคงดำเนินมาตรการป้องกัน และปราบปรามสินค้าไม่ได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ส่งชุดตรวจการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.), นางวิรงรอง พรพิมลเทพ ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สมอ. และเจ้าหน้าที่ สมอ. เข้าตรวจสอบคลังสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งใน อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังจากที่ สมอ.ตรวจพบการโฆษณาจำหน่ายสินค้าไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ผ่านช่องทางออนไลน์ และขยายผลจากแพลตฟอร์มออนไลน์จนถึงคลังสินค้า จากการตรวจค้นพบ บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ สามารถตรวจยึดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก.และเตรียมจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์หลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 4.3 ล้านบาท โดยจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาดต่อไป

“สินค้าที่ตรวจยึดได้มีอาทิ ยางล้อรถจักรยานยนต์ ยางในรถจักรยานยนต์ เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ หลอดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งสินค้าทั้งหมดถือเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. แต่มีการลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ และนำมาจำหน่ายในราคาถูก” นายเอกนัฏ ระบุ

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นได้ทำการยึดอายัดสินค้าที่ไม่มี มอก. ทั้งหมด และดำเนินคดีกับบริษัทที่ลักลอบนำเข้า โดยจะขยายผลไปยังคลังสินค้า และโกดังสินค้าอื่นๆ อีก เพราะเชื่อว่าทำกันเป็นเครือข่ายขบวนการ โดยมีกลุ่มทุนสีเทาเป็นผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าควบคุมที่ไม่มี มอก. มาหลอกขายประชาชนในราคาถูก สุ่มเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงในการใช้งาน นอกจากนี้ยังเป็นพฤติกรรมทุ่มตลาด ที่นำเข้าสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาลักลอบจำหน่ายในราคาถูก ซึ่งย่อมเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการไทยที่ผลิตสินค้าและจำหน่ายสินค้าที่ได้คุณภาพ และปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างถูกต้อง

น.ส.ฐิติภัสร์ เปิดเผยด้วยว่า จากการสอบถามพนักงานบริษัท เบื้องต้นทราบว่า บริษัทฯ จดทะเบียนการค้า เมื่อเดือน ม.ค.2565 ระบุ ทำการค้าปลีกทางอินเทอร์เน็ต โดยมี นายเจี๋ย สัญชาติจีน เป็นกรรมการบริษัท ทั้งนี้ บริษัทฯ ทำหน้าที่เป็นคลังสินค้าออนไลน์ เก็บแพคและกระจายสินค้าให้กับผู้ประกอบการหลายสิบบริษัทในต่างประเทศนำเข้ามาขายภายในประเทศไทย โดยสินค้าจะเป็นลักษณะที่ค้างสต๊อก แล้วส่งมาระบายสินค้าในประเทศไทย พบสินค้าควบคุมที่ไม่ได้มาตรฐานการใช้งาน รวมไปถึงไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบสารปนเปื้อนต่างๆ หลังจากนี้จะทำการขยายผลไปถึงต้นตอว่า สินค้าที่ตรวจยึดเป็นของผู้นำเข้ารายใด โดยขอความร่วมมือไปยังกรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากปรากฎข้อเท็จจริงว่า ผู้นำเข้ารายใดนำสินค้าไม่มีมาตรฐาน มอก. กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สมอ. จะดำเนินคดีกับผู้นำเข้ารายนั้นอย่างถึงที่สุด ซึ่งบทลงโทษสำหรับนำเข้าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ และเจ้าของโกดังที่ให้เช่า ก็ถือว่ามีความผิดในฐานะผู้โฆษณา และร่วมจำหน่ายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน มีโทษปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงอยากให้แพลตฟอร์มออนไลน์ รวมไปถึงโมเดิร์นเทรด และคลังสินค้า ตรวจตราสินค้าที่เข้าสู่ระบบของตัวเองอย่างเข้มงวด มิเช่นนั้นกระทรวงอุตสาหกรรม ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย” น.ส.ฐิติภัสร์ ระบุ

 


 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม