วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05:41 น.
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567
>> คนร้ายลอบยิง M79 ใส่แคมป์ที่พักคนงาน ก่อสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ริมชายหาดสะกอม สงขลา บาดเจ็บ 3 คน
06.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิด และใช้เครื่องยิง M79 ยิงลูกระเบิด M79 จำนวน 2 ลูก ใส่แคมป์ที่พักคนงาน ก่อสร้างองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ริมชายหาดสะกอม ที่ตำบลสะกอม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งหลังเกิดเหตุทำให้มีเพลิงไหม้ขึ้นภายในแคมป์คนงาน และพบว่า มีคนงานได้รับบาดเจ็บ 3 คน
ขณะเดียวกันบริเวณใกล้เคียงก็ยังพบสะเก็ดตกอยู่ และยังพบใบปลิว ที่มีข้อความภาษาไทย และภาษาเมียนมา โดยภาษาไทยระบุว่า ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้ที่นี่และใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราขอเตือน จงหยุดไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน
ส่วนสาเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ฟันธงว่ามาจากสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่ โดยอาจจะมีความขัดแย้งในด้านอื่น ๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ในส่วนของกลุ่มคนร้ายนั้นจะได้เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงหาข่าวกลุ่มบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่อย่างเร่งด่วน
>> สาววัย 30 ปีขี่รถจักรยานยนต์ชนขอบสะพาน รถล้มคว่ำถูกรถพ่วงตามทับร่างเสียชีวิต
06.55 น. มูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถพ่วงชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนทางหลวงหมายเลข 304 บริเวณสะพานหนองคล้า ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีขาว - แดง ป้ายทะเบียน สระแก้ว ล้มคว่ำอยู่กลางสะพาน ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นหญิงไทย อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาชาวเมืองสระแก้ว สภาพถูกล้อรถทับร่างแหลก ห่างออกไป พบรถพ่วง อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน สระแก้ว จอดอยู่ข้างทาง
โดยคนขับรถพ่วง เล่าว่า ขณะที่ตนขับรถมาจาก จ.สระแก้ว เพื่อที่จะไปลงไม้ที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นคอสะพาน พบรถจักรยานยนต์วิ่งอยู่ตรงหน้า ได้เกิดชนขอบสะพาน เสียหลักกระเด็นมาทางรถของตนที่ขับตามหลังมา ทำให้เบรกไม่ทัน จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สระบัว ได้เชิญคนขับไปสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> สาวเจ้าของปอร์เช่ เข้าร้องกองปราบ ขายดาวน์รถให้เต็นท์ แต่ถูกเบี้ยวเงิน
11.00 น. น.ส.แอ้ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี สาวนักธุรกิจค้าเสื้อผ้าออนไลน์ เดินทางมา ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังขายดาวน์รถปอร์เช่ ราคาเต็ม 24 ล้านบาท ให้เต็นท์รถย่านพัฒนาการ เนื่องจากตนผ่อนชำระต่อไม่ไหว
โดยตนได้เงินดาวน์งวดแรก 5 ล้านบาท ยังขาดดาวน์งวดสอง อีก 3.7 ล้านบาท แต่เต็นท์รถไม่ยอมจ่าย แถมผ่อนงวดชำระไฟแนนซ์ก็ไม่ตรงเวลา ทำให้ตนเองเสียเครดิตถูกธนาคารทวงหนี้ กู้เงินก็ไม่ได้ วันนี้จึงต้องมาปรึกษาพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอคำแนะนำว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
ทั้งนี้ ตนยังไม่ได้แจ้งความตำรวจท้องที่ เพราะเลือกที่จะมากองปราบฯ และต้องการให้สื่อช่วยเผยแพร่เรื่องราวนี้ออกไป น่าจะเป็นผลดีกับคดีของตน
>> ผบ.ตร. สั่งสอบ ปมฉาวอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ มอมเหล้า-ล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์ หากพบผิดจริงสั่งดำเนินการเด็ดขาด
12.00 น. พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีสื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่ข้อมูล อาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสารวัตร (สอบสวน) สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล มอมเหล้า และล่วงละเมิดทางเพศ นักเรียนนายร้อยตำรวจภายในโรงเรียน ซึ่งหากพบมีข้าราชการตำรวจกระทำผิด ให้ดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด รวมทั้ง ตรวจสอบว่า เข้าข่ายผิดจริยธรรมด้วยหรือไม่ ขณะเดียวกัน ได้ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความในเรื่องการกระทำอนาจารแล้ว
สำหรับบุคคลที่ถูกพาดพิงว่า มีรายงานว่า เป็นตำรวจยศ พันตำรวจตรี ซึ่งเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และอดีตเคยอยู่สำนักงานของพลตำรวจตรีเสนิต สำราญสำรวจกิจ ในขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 แต่ปัจจุบัน พลตำรวจตรีเสนิต มาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จึงเชิญพันตำรวจตรีนายดังกล่าว มาสอนวิชาภาษาอังกฤษและกฎหมาย ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจด้วย
>> ศาลอาญาพิพากษา ประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" อดีตสามี จำคุก 2 ปี ทนายพัช จำคุก 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา
13.24 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา แอม ไซยาไนด์, อดีตสามีนายตำรวจ และทนายพัช คดีวางยาฆ่าผู้อื่นที่ใส่สารไซยาไนด์ ฆ่าเพื่อนชิงทรัพย์ โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง พร้อมเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท
โดยมี นางสรารัตน์ หรือ แอม ไซยาไนด์ อายุ 36 ปี จำเลยที่ 1 ความผิดฐานฆ่าอื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการหรือเพื่อสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย
ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ อายุ 40 ปี อดีตสามี และอดีตรอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา หรือทนายพัช อายุ 36 ปี จำเลยที่ 3 ในความผิดฐาน ช่วยเหลือจำเลยที่ 1 มิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน
ล่าสุด ศาลมีคำพิพากษา ประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ อายุ 40 ปี อดีตสามี แอม ไซยาไนด์ โดนจำคุก 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา ขณะที่ ทนายพัช โดนจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม 2 ล้านบาท
>> นายกฯ เชิดชูผู้รับรางวัล “ค่าของแผ่นดิน” ปี 66 ยืนยันพร้อมสนับสนุนการทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศ
13.30 น. นส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเป็น “ค่าของแผ่นดิน” ประจำปี พ.ศ. 2566 ให้แก่ บุคคล หน่วยงาน และโครงการที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์มีคุณค่าแก่การยกย่อง จำนวน 27 ราย เพื่อเชิดชูเกียรติและเป็นขวัญกำลังใจในการทำคุณประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติ รวมทั้งเป็นต้นแบบแห่งการสร้างสรรค์ความดี อันพึงเป็นคุณลักษณะที่ดีแก่สังคมไทยด้วย
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมผู้ที่ได้รับรางวัล พร้อมขอบคุณที่ช่วยในการผลักดันด้านต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกัน โดยยึดผลประโยชน์และความสุขของประชาชนเป็นหลักต่อไป
>> เหตุระเบิด ที่พักคนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิม อ.เทพา จ.สงขลา ล่าสุดมีระเบิดเพิ่มอีก 2 ลูก รวมเป็น 4 ลูก
14.00 น. คืบหน้าเหตุระเบิด ที่พักคนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิม อ.เทพา จ.สงขลา ล่าสุดมีระเบิดเพิ่มอีก 2 ลูก รวมเป็น 4 ลูก เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดสงขลา ได้ผนึกกำลังตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เร่งคลี่คลายสถานการณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างทำพื้นที่ปลอดภัยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าจุดเกิดเหตุได้
พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเทพา กล่าวว่า ตามที่รับเเจ้งว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ตอนนี้เจ้าหน้ายังไม่สามารถเข้าที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากต้องทำพื้นที่ปลอดภัย เเต่สามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้ 3 คน และได้อพยพคนงานกว่า 30 คน และครูนักเรียนที่กำลังเข้าค่ายลูกเสืออยู่ภายในรีสอร์ท จำนวน 150 คน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 กิโลเมตร ออกจากพื้นที่เเล้วอย่างปลอดภัยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งบูรณาการกำลังที่เกี่ยวข้องทั้ง EOD และพิสูจน์หลักฐานร่วมหารือ แนวทางการเข้าระงับเหตุและคลี่คลายสถานการณ์
เบื้องต้นสาเหตุยังไม่สามารถชี้ได้แน่ชัดว่าเป็นระเบิดชนิดใด แต่คาดว่าน่าจะเป็นระเบิดแบบวาง แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าพิสูจน์หลักฐานและวัตถุพยานโดยละเอียดก่อน
อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ปฎิบัติงานทันทีเพื่อที่จะทำเส้นทางปลอดภัย โดยใช้ชุดของ ฉก.สงขลา เข้าวางกำลังตรวจสอบพื้นที่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งหากพื้นที่ปลอดภัยแล้วชุดแรกที่จะเข้าไปดำเนินการคือชุด EOD ต่อด้วยชุดพิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวนเข้าดำเนินการต่อส่วนประเด็นหรือปมเหตุยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง อาจเป็นได้ทั้งเรื่องของความมั่นคง หรือความขัดแย้งภายใน ซึ่งตรงนี้คงต้องรอการสอบสวนอีกครั้ง
>> "สุริยะ" มั่นใจไม่ผิดกฎหมาย ปม "ทักษิณ" ถือ 2 สัญชาติ ช่วยหาเสียงท้องถิ่น
14.37 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมพรรค วานนี้ (19 พ.ย.) มีการกำชับการทำพื้นที่ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) เพิ่มขึ้นหรือไม่ ว่า ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้
ส่วนที่มีการร้องเรียน กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดร แต่มีการถือสองสัญชาติอาจจะผิดกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่น นายสุริยะกล่าวว่า ตนทราบจากทีมกฎหมายว่าไม่มีประเด็นน่าเป็นห่วง
พร้อมปฏิเสธว่า ไม่ทราบข่าวกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับประเทศไทยช่วงสงกรานต์ตามที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์
>> กระทรวงเกษตรฯ มีมติ เสนอเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท
15.00 น. จากกรณีมติของที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตวานนี้ (19 พ.ย.67) ให้ปรับเปลี่ยนเป็นสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าว อัตราช่วยเหลือไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ วงเงินรวมดอกเบี้ย 3.05% จำนวน 27,550.96 ล้านบาท และเตรียมเสนอ นบข.พิจารณานั้น
ล่าสุด นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตลอด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับข้อเรียกร้องจากเกษตรจำนวนมากให้พิจารณาถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากเกษตรกรรายย่อยของไทยส่วนใหญ่มีที่ดินไม่เกิน 10 ไร่ เงินช่วยเหลืออาจจะไม่เพียงพอ ทำให้นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
และมีข้อสรุปว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ในวันจันทร์ที่ 25 พ.ย.67 นี้ คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต จะเสนอการช่วยเหลือชาวนาในโครงการช่วยสนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวเป็น 1,000 บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ แล้ว เนื่องจากกระทรวงเกษตรฯ เห็นว่า หากช่วยเหลือ 1,000 บาทต่อไร่ ตามเดิม เกษตรกรรายย่อยที่มีที่นาเพียง 5 ไร่ ก็ยังจะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อครัวเรือน แต่หากปรับมาเหลือ 500 บาทต่อไร่ จะได้รับการช่วยเหลือเพียง 2,500 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งคาดว่าจะไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือ
>> หนุ่มแค้น ลวงอดีตแฟนสาว จับมัดมือ-มัดเท้า ลากขึ้นเก๋ง
16.30 น. สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้ง ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้บาดเจ็บ ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าหญิงถูกชาย 2 คน ทำร้ายร่างกายภายในรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ราชบุรี มาจากทางวัดทุ่งครุ ถนนประชาทิศ มุ่งหน้าทางแยกทุ่งครุ จึงประสานสายตรวจ สน.ทุ่งครุสกัดจับรถคันดังกล่าว ได้บริเวณใกล้ปากซอยประชาอุทิศ 93 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม.
จากการตรวจสอบ พบว่ามี นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี เป็นผู้ขับขี่ และมี นายรอ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี นั่งโดยสาร และพบ น.ส.นอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ถูกเชือกมัดแขนและมัดขา ปิดปากด้วยเทปปิดปาก นั่งอยู่บริเวณเบาะโดยสารด้านหลัง จึงทำการช่วยเหลือ พร้อมจับผู้ก่อเหตุมาที่ สน.ทุ่งครุ
จากการสอบสวนทราบว่า นายรอ นั่งโดยสารมากับเพื่อนคือ นายปอ ส่วน น.ส.นอ เป็นแฟนเก่าของ นายรอ หลังจาก น.ส.นอ ได้บอกเลิกคบ ทำให้ นายรอ เกิดความไม่พอใจ เนื่องจากฝ่ายหญิงมีแฟนใหม่ จากนั้นนายรอ ทำทีโทรให้ฝ่ายหญิงลงมารับของ บอกว่าจะเอาของไปให้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ซอยจัดสรรตาเบิ่ม 4 ถนนประชาอุทิศ 90 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เมื่อฝ่ายหญิงลงมา นายรอ ได้ให้ นายปอ ขับรถเก๋งคันดังกล่าวและกระชากฝ่ายหญิงขึ้นรถ มัดมือมัดเท้า ต่อมามีชาวบ้านที่พบเห็นได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นจังหวะที่ พ.ต.ท.สุมิตร นานนท์ สว.จร.สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งเหตุจึงกดสัญญาณไฟแดงเพื่อสกัดและเข้าช่วยเหลือไว้ได้
ด้าน พ.ต.อ.จุมพล สินศิริพงษ์ ผกก.สน.ทุ่งครุ กล่าวว่า สาเหตุคาดว่าเกิดจากความหึงหวงของฝ่ายชายที่ถูกฝ่ายหญิงบอกเลิก เนื่องจากฝ่ายหญิงได้คบหากับชายคนใหม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และร่วมกันข่มขืนใจ" ก่อนควบคุมผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ย่านสาธุประดิษฐ์ เสียหายทั้งหลังและลุกลามหลังข้างเคียงวอด
19.42 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 ตรงข้ามแยก 15 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาว กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ปลูกติดกัน 3 หลัง ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในบ้าน เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด 2 หลัง และลุกลามเสียหายบางส่วน 1 หลัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 70 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย เพศหญิง อายุ 16 ปี มีอาการเป็นลมหมดสติ อาสาสมัครปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ส่วนรายที่ 2 เพศชาย อายุ 26 ปี เป็นชาวต่างชาติ ไม่ทราบสัญชาติ ได้รับบาดเจ็บมีแผลที่คิ้ว อาสาสมัครปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุและนำส่งโรงพยาบาลเลิศสิน และมีผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 11 ราย พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยถนนจันทน์ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา
>> 2 หนุ่มขับชี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟข้างทาง ดับ 1 และสาหัส 1 ราย
19.35 น. มูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทย ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้า และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย ริมถนนบ้านคลองกลาง ตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ป้ายทะเบียน 2606 ปราจีนบุรี ลักษณะชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง ใกล้กันพบว่าพบผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย ผู้บาดเจ็บรายแรก รถกู้ชีพกบินทร์ดำเนินการนำส่ง รพ.กบินทร์บุรี ส่วนรายที่ 2 มีอาการสาหัสและหมดสติ ทางอาสาสมัครทำการ CPR แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 15 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี
>> เพลิงไหม้ร้านสุกี้เก่าแก่ เจ้าดังจังหวัดนครนายก เสียหายวอดหมดทั้งหลัง
20.30 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงตำบลเกาะหวาย ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่เปิดเป็นร้านขายสุกี้แห่งหนึ่ง ในหมู่ 3 ตำบลเกาะหวาย อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก
ที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ ลักษณะเป็นบ้านไม้โบราณ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นปูน ด้านบนเป็นไม้ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อยู่บริเวณชั้นบน ทางเจ้าหน้าที่และรถน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดนครนายก และ ตำบโคกไม้ลาย จังหวัดปราจีนบุรี กว่า 10 คันมาช่วยกันฉีดน้ำ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสามารถดับเพลิงสงบลงได้ โดยตัวบ้านทั้งหลังได้รับความเสียหายทั้งหมด
เบื้องต้น นายเจริญ เจ้าของร้าน เล่าว่า ตนเองและภรรยา ได้นอนอยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน ตอนนั้นนายเจริญได้เปิดทีวีดู จู่ๆ ทีวีเกิดดับก่อนจะระเบิด จากนั้นได้มองไปยังด้านหลังบ้านบริเวณบันได้ขึ้นชั้นสองพบว่ามีไฟลุกจากชั้นสอง ก่อนตนและภรรยาช่วยกันพาออกมายังด้านนอกบ้าน โดยนายเจริญคาดว่าไฟน่าจะมาจากบริเวณกลางบ้าน
ในส่วนของสาเหตุที้แท้จริงนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพลี และกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง
>> รถพ่วงยางระเบิด ไฟโหมลุกไหม้ เจ้าหน้าที่พร้อมรถน้ำช่วยกันดับไฟ คนขับหนีรอดหวุดหวิด
21.00 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เกิดเพลิงลุกไหม้รถพ่วง 22 ล้อ บนถนนเพชรเกษม ใกล้เคียงโรงพยาบาลสินแพทย์ ทางเบี่ยงเข้าเมืองนครปฐม ในพื้นที่ ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม
ที่เกิดเหตุ พบรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน จังหวัดตาก จอดอยู่ริมข้างทางในสภาพเพลิงกำลังลุกไหม้ ที่บริเวณท้ายลูกตัวพ่วงอย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครนครปฐม และรถดับเพลิงระดมฉีดน้ำ โดยใช้เวลาเพียง 10 นาที จึงสามารถควบุคมและเพลิงสงบลง ขณะเกิดเหตุไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
คนขับรถพ่วง เล่าว่า ตนเองและเพื่อนขับรถคันดังกล่าว บรรทุกกาวน้ำมาจาก จ.ระยอง มุ่งหน้าไปส่งที่ จ.กาญจนบุรี มาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุนั้น ตนเองเบรกรถ มีความรู้สึกคล้ายกับยางหนืดติดถนน เนื่องจากยางระเบิด จึงนำรถเข้าจอดข้างทาง ก่อนจะพบว่ามีไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่ท้ายรถ จึงช่วยกันยกถังดับเพลิงฉีดแต่ไม่สามารถดับได้ เนื่องจากไฟเกิดลุกไหม้อย่างหนัก จึงรีบโทรเรียกตำรวจประสานรถดับเพลิง มาช่วยกันดับไฟ ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม
>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา
22.01 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 3.1 ความลึก 4 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 107 กม. ไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ