หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 กันยายน 2567

วันที่ 14 กันยายน 2567 เวลา 05:54 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 กันยายน 2567


>> รถบรรทุกชนกัน มีผู้เสียชีวิตร่างติดค้างในซากรถ

06.20 น. รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.โคกสลุง มีอุบัติเหตุ รถบรรทุก 2 คันชนกัน และมีผู้บาดเจ็บ นถนนหลวงหมายเลข 21 เส้นทางสระบุรี-หล่มสัก ฝั่งขาขึ้นเพชรบูรณ์ ช่วงหลัก กม.44 ในพื้นที่ หมู่ที่9 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน สระบุรี ชนท้ายรถบรรทุก 12 ล้อ ป้ายทะเบียน 5091 นครราชสีมา แล้วรถทั้ง 2 คันพลิกตะแคงลงข้างทาง สภาพรถ 6 ล้อหน้ารถพังเสียหายยับ พบว่ามีผู้บาดเจ็บ 1 ราย โดยคนขับเป็นชายไทย อายุ 24 ปี อาการไม่สาหัสอาสาสมัครสามารถนำออกจากยานพาหนะได้ ก่อนตัวส่งโรงพยาบาลพัฒนานิคม

ส่วนที่เบาะฝั่งข้างคนขับพบว่ามีผู้เสียชีวิต ร่างยังติดค้างภายในตัว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถ เพื่อนำร่างออกมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.เมืองสระบุรี ในส่วนของสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โคกสลุง


>> ผบ.ตร. ร่วมกับสมาคมแม่บ้าน ตร. ลุยน้ำท่วมเชียงราย ตรวจสภาพความเสียหาย

09.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. และคุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ไปตรวจสอบสภาพความเสียหายของบ้านเรือนพี่น้องประชาชน และสถานีตำรวจ

ในการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ผบ.ตร. และนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมคณะฯ ได้เดินทางไปยัง สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบสภาพความเสียหายของบ้านเรือนพี่น้องประชาชน และสถานีตำรวจ โดยมี พ.ต.อ.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ ผกก.สภ.บ้านดู่ ให้การต้อนรับ และนำทางคณะฯในการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเสียหายของอาคารที่ทำการ ที่พักอาศัย และมอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับพี่น้องประชาชน และข้าราชการตำรวจที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังได้กำชับข้าราชการตำรวจทุกนาย ให้สนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติของหน่วยกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมทั้งกำชับให้ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ที่อาจมีผู้ไม่หวังดี ฉวยโอกาสนี้ก่อเหตุซ้ำเติมพี่น้องประชาชน


>> "นายพิชัย รมว.คลัง" ยอมรับ เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ปีนี้ไม่ทัน รอรับเงินปีหน้า

09.55 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงความคืบหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับบุคคลทั่วไป โดยยอมรับว่าการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส2 สำหรับบุคคลทั่วไปที่ลงทะเบียนไปแล้วกว่า 30 ล้านคน จะไม่สามารถจ่ายได้ทันภายในปีนี้ "ไม่น่าจะทัน ก็เราจะดูถึงความต่อเนื่อง ดู 2-3 เรื่องพร้อมกัน อันไหนจะดีที่สุด"

นายพิชัย กล่าวอีกว่า สำหรับปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ในปีนี้ เพราะจะต้องพิจารณาหลายเรื่องทั้งหมด สำหรับงบประมาณที่ไม่ได้นำไปเบิกจ่ายในโครงการนี้ จะนำไปใช้อะไร ใช่โครงการลงทุนต่างๆ หรือไม่ นั้น นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศ แต่การบริหารจัดการเงิน ต้องจัดให้สิ่งที่สำคัญและให้ผลต่อเนื่องและเร็วที่สุด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา นายพิชัย ได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ วาระแถลงนโยบายรัฐบาล ถึงความคืบหน้าดิจิทัลวอลเล็ต โดยระบุว่า เงิน 10,000 บาท จะสามารถกดปุ่มจ่ายก้อนแรกให้กลุ่มเปราะบางประมาณ 14.2 ล้านคนเศษได้ในวันที่ 25 กันยายนนี้ ส่วนเฟส 2 สำหรับคนที่ลงทะเบียน 30 ล้านคน จะพิจารณา​โดยคำนึงถึงความพร้อมเรื่องเงิน เพราะเรามีงบประมาณที่จำกัด และอยากให้ความสำคัญกับการใช้งบกลางให้กับการปรับปรุงโครงสร้างที่เป็นจุดอ่อนแอของประเทศก่อน เพราะต้องการการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจในระยะ​กลางและยาว​ และถ้ามีเงินเหลือเราก็จะแบ่งมาตรงนี้​ และถ้ามองในภาพนี้เราคงต้องมีความยืดหยุ่นของแผนตลอดเวลา เพราะสถานการณ์มันเปลี่ยนแปลงไป


>> "อนุทิน" ยันประกาศให้ จ.เชียงราย เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว

10.19 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผย ว่าขณะนี้ได้ประกาศให้เชียงรายเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว เป็นสิ่งแรกที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องทำ ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้เชื่อมั่นในระบบราชการไม่พลาดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ถ้าไม่ประกาศจะใช้เงินทดรองได้อย่างไร

ส่วนมวลน้ำที่ดูเหมือนว่าจะขยับไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เราจะเร่งระบายให้ลงแม่น้ำโขงโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้กรณีที่จีนปล่อยน้ำลงมาเรื่อย ๆ เราต้องแก้ไขปัญหาในส่วนของเรา ตอนนี้มั่นใจว่าผู้ว่าราชการทุกจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดน้ำหลากคงมีแผนเผชิญเหตุ กระทรวงมหาดไทยได้เตรียมความพร้อมเรื่องการช่วยเหลือ โดยเฉพาะการอพยพ การสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน และความพร้อมเครื่องอุปโภค-บริโภค ศูนย์พักพิงเชื่อว่าเชียงรายจะเป็นโมเดลที่ดี


>> นายกฯ ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม

11.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางถึงที่หน้าด่านพรมแดนแม่สาย แห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยสวมรองเท้าบูทเดินลุยพื้นที่ โดยนายกฯ ได้ขอบคุณ นายกษิดิศ ธีระประทีป แชมป์โลกเจ็ตสกีที่ขับเจ็ตสกีฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ในพื้นที่ พร้อมสอบถามว่าประชาชนที่ติดในพื้นที่ว่ามีเท่าไร และอาหารที่เข้าไปเพียงพอหรือไม่ รวมถึงคนที่พร้อมจะออกจากพื้นที่ จะสามารถนำออกมาได้แค่ไหน

จากนั้น นายกฯ ได้เดินไปยังสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 (แม่สาย) เพื่อดูสภาพความเสียหายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่ม โดยพบว่า แม้น้ำจะลดลงแล้วแต่ยังมีดินโคลนจำนวนมาก ถือเป็นจุดเศรษฐกิจชายแดนซึ่งได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยนายกฯ ได้เข้าไปทักทายพูดคุยและให้กำลังใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้วย


>> ปภ. เผยยังมี "น้ำท่วม" ในพื้นที่ 9 จังหวัด เร่งระดมทรัพยากรเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

12.00 น. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทำให้ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. - 13 ก.ย. 67 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 27 จังหวัด รวม 129 อำเภอ 586 ตำบล 3,119 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 132,534 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่ม รวม 34 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 24 ราย

โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กันยายน 2567) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด รวม 30 อำเภอ 152 ตำบล 741 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 74,751 ครัวเรือน


>> “นายกฯ” ถกด่วนรับมือ หลังอีสานเสี่ยงเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจาก “เชียงราย”

12.27 น. นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกณัฐพงษ์ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพย่กรน้ำแห่งชาติ

โดยนายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และการให้ความช่วยเหลือล่าสุดในจังหวัดเชียงราย พร้อมติดตามเส้นทางการไหลของน้ำ ที่กำลังระบายลงสู่แม่น้ำโขง และ จะผ่านไปยังภาคอีสาน ซึ่งขณะนี้เริ่มมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจากแม่น้ำโขงล้นตลิ่งแล้ว ทั้งจังหวัดเลย และหนองคาย จึงกำชับเรื่องการเตรียมพร้อม ทั้งกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือ พร้อมรับสถานการณ์ อพยพหากจำเป็น โดยต้องการให้มีแผนรับมือเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า แม้ออกจากบ้านแล้ว ก็ยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทรัพย์สินให้ อีกทั้ง ต้องการให้นำข้อมูลข้อเท็จจริงโดยเฉพาะเรื่องระดับน้ำ ไปเป็นข้อมูลให้ประชาชนนำไปตัดสินใจ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเยียวยาว่า ได้มีการจัดเตรียบงบกลาง ซึ่งสามารถนำมาช่วยประชาชนได้ทันที รวมทั้งการเยียวยา ขอไห้ทำทันทีไม่ต้องรอสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อน สำหรับสถานการณ์ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่สูงหรือพื้นที่บนดอย ที่ถูกตัดขาด ก็ขอให้กองทัพส่งกำลังเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน และหากพื้นที่ใด ปริมาณน้ำเริ่มลดลงแล้ว ก็ขอให้ช่วยกันเร่งทำความสะอาด เพื่อคืนภาวะปกติให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยเร็วที่สุด


>> แผ่นดินไหว ที่อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย

13.27 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 2.0 ลึกลงจากผิวดิน 2 กม.จุดศูนย์กลาง ต.ป่าก่อดำ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย.


>> จ.ภูเก็ต เร่งแก้ไขปัญหาวิกฤตของพื้นที่ฝังกลบขยะ

13.30 น. นายทิวัตถ์ สีดอกบวบ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักช่าง อบจ.ภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตของพื้นที่ฝังกลบขยะ โดยมี นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน

ด้วยจังหวัดภูเก็ตได้รับรายงานจากเทศบาลนครภูเก็ตว่า ปัจจุบันมีปริมาณขยะมูลฝอยเข้าสู่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ตสูงมากขึ้น โดยข้อมูลเดือนกรกฎาคมมีปริมาณขยะมูลฝอยเข้าสู่

ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยจังหวัดภูเก็ตเฉลี่ย 1,114 ตันต่อวัน และต้องนำขยะเข้าสู่พื้นที่ฝังกลบเฉลี่ย 10,500 ตันต่อเดือน จึงทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการขยะที่นำเข้าสู่พื้นที่ฝังกลบได้ทันท่วงที ทำให้เกิดขยะตกค้างกองเนินสูงเป็นจำนวนมาก กีดกันเส้นทางการเดินรถในพื้นที่ฝังกลบ จังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดประชุมในครั้งนี้เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตของพื้นที่ฝังกลบขยะของศูนย์กำจัดขยะ


>> สารเคมีรั่วไหล ระดมรถพยาบาลรับผู้ประสบเหตุ 21 รายส่งโรงพยาบาล

16.15 น. สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัสมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่าพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลชัยมงคล อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตเหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน จำนวนประมาณ 21 คน มีอาการอาเจียนและเป็นลม

จึงเร่งประสานงานความช่วยเหลือไปยัง รพ.สมุทรสาคร รพ.เอกชัย รพ.มหาชัย 1 รพ.เจษฎา 2 รพ.บ้านแพ้ว รพ.วิภาราม และมูลนิธิสาธารณกุศล นำรถพยาบาลเข้าพื้นที่เกิดเหตุ เบื้องต้น จำนวน 10 คัน และนำตัวพนักงานที่ได้รับผลกระทบส่งโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

ล่าสุด นายประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ลงพื้นที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักปลัด อบต. ชัยมงคล เจ้าหน้าที่ สนง.สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสนง.อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังเข้าไปที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบเหตุดังกล่าว ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นอาจเกิดจากการสูดดมกลิ่นจากพื้นที่เกิดเหตุหรือใกล้เคียง แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด รายละเอียดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะแจ้งให้ทราบต่อไป


>> รวบเครือข่าย “เจ๊จุ๋ม ท่าแซะ” เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหดชุมพร คิดดอกร้อยละ 4 ต่อวัน

16.38 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจไซเบอร์ ลงพื้นที่ออกสืบสวนหาข่าว จนพบเบาะแสการกระทำผิดบนสื่อโซเชียล ว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 4 บาท ต่อวัน หรือร้อยละ 120 บาทต่อเดือน มีค่าปรับวันละ 200 บาท หากลูกหนี้ไม่จ่ายหรือจ่ายล่าช้า จะทำการโพสต์ภาพประจานลูกหนี้ผ่านโซเชียลและยังมีการโทรศัพท์ข่มขู่และใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อว่าลูกหนี้อีกด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนสามารถพิสูจน์ทราบตัวตนและที่พักอาศัยของเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดหลังสืบสวนจนออกหมายค้นสถานที่เป้าหมายได้สำเร็จ กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้น เข้าตรวจค้นในพื้นที่ ม.10 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พบ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือที่ใช้โพสต์ปล่อยกู้เงินและทวงเงินลูกหนี้ และหนังสัญญากู้เงิน จำนวน 1 เล่ม

เบื้องต้น นายเอ รับว่าตนเองได้ปล่อยเงินกู้จริง โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อวัน ยกตัวอย่างเงื่อนไข การกู้เงินและอัตราดอกเบี้ย เงินต้น 5,000 บาท ต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 150 บาท จนกว่าจะหาเงินต้นมาคืนครบ ถ้าหากวันไหนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยได้ จะถูกปรับวันละ 200 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


>> รถจักรยานยนต์ ชนกับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กชายวัย 13 ขวบ

16.50 น. รับแจ้งจาก อาสากู้ชีพ - กู้ภัยพุนพิน มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ชนกับรถกระบะ และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส บนถนนก่อนถึงจุดตัดรถไฟมะลวน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีเทา ลักษณะชนกับรถกระบะ โตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีเทา และใกล้กันพบว่ามีผู้บาดเจ็บ 2 ราย มีอาการสาหัสทั้งคู่ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือ เป็นเด็กชาย 1 ราย นำส่ง รพ.พุนพิน ส่วนอีก 1 รายนั้น ทางอาสากู้ชีพ - กู้ภัยเร่งช่วยเหลือปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นเด็กชาย อายุ 13 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน


>> รถไฟทับร่างชายนิรนาม เสียชีวิตกลางรางรถไฟ

19.33 น. รับแจ้งว่ามีเหตุ ขบวนรถไฟชนคนเสียชีวิต ระหว่างสถานีห้วยเกิ้ง - โนนสะอาด ในพื้นที่ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุ ขบวนรถสินค้า (หนองคาย - ชุมทางแก่งคอย) จอดอยู่ที่บริเวณใต้ท้องรถไฟ พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 30 - 40 ปี ไม่สวมเสื้อผ้า และไม่พบเอกสารติดตัว

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนสะอาด มอบให้อาสามูลนิธิทางหลวงโนนสะอาด นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลโนนสะอาด


>> ไฟไหม้ในห้องพัก บนอาคารในการเคหะฯ พลเมืองดีดับทัน ก่อนจะลุกลาม

20.38 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ เคหะร่มเกล้า อาคาร 106 ถนนเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 5 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 3 เพลิงลุกไหม้หม้อต้มไฟฟ้า ลุกลามเครื่องซักผ้า พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 1 ตารางเมตร ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการอุ่นอาหารทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้า

 

>> รถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ บาดเจ็บชาย 1 รายและเสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย

21.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนราชพฤกษ์ - นนทบุรี 1 มุ่งหน้าสะพานเจษฎาบดินทร์ฯ ลงมาจากต่างระดับวัดโบสถ์ดอนพรหม เล็กน้อย ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับรถอเนกประสงค์ โตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ใกล้กันพบว่ามีผู้บาดเจ็บชาย 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 31 ปี นำส่ง รพ. ส่วนในจุดเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 30 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

00.48 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.6 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 143 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 


>> รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ หนุ่มคนขับขี่กระเด็นฟาดเสาไฟ เสียชีวิต

03.16 น. รับแจ้งจากอาสากู้ภัย จุด สน.พหลโยธิน มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ เฉี่ยวชนกับรถไม่ทราบคู่กรณี และมีผู้เสียชีวิต ถนนซอยเสนานิคม 1 ช่วงซอย 12 ในพื้นที่ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ทีทีเอ็กซ์ สีขาว ป้ายทะเบียน 331 กทม. ล้มคว่ำอยู่กลางถนน ห่างออกไปพบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย อายุประมาณ 20 - 25 ปี สภาพมีบาดแผลเปิดที่หน้าผาก ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน  
 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ