24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2567
>> รถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต
06.20 น. ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างราชบุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนหมายเลข 3123 ใกล้เคียงร้านสวรรค์บ้านนา ม.9 คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า ซีอาร์วี สีขาว ชนกับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกูปปี้ สีเทา สภาพรถพังเสียหาย และใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต1 ราย เป็นชายไทย อายุ 39 ปี เป็นคนพื้นที่ หมู่ 5 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธาราม ร่วมตรวจสอบ ก่อนมอบให้อาสาสมัครนำร่างส่งศูนย์นิติเวช โรงพยาบาลราชบุรี
>> รถกระบะ เสียหลักฟาดขอบปูนใต้สะพานลอย เสียชีวิต 2 ราย
08.36 น. รับแจ้งจากกู้ภัยสว่างสรรเพชญ มีอุบัติเหตุรถกระบะ เสียหลักชนขอบทาง และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ริมถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ บริเวณใกล้เคียงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนวัดยางเขาย้อย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า สีขาว ลักษณะชนขอบทางใต้สะพานลอยคนข้าม และพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ใกล้เคียง และพบว่าที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย 2 รายภูมิลำเนาชาว อ.เมืองสมุทรสงคราม ในส่วนของสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาย้อย
>> พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 ก.ค.2567
10.27 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในการเสด็จออกมหาสมาคม พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสว่า ข้าพเจ้ามีความปลื้มใจอย่างยิ่ง ที่ได้มาท่ามกลางมหาสมาคม พรั่งพร้อมด้วยทุกท่าน จากทุกสถาบันสำคัญของชาติ ขอขอบพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ และขอบใจนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ในคำอำนวยพร และการเฉลิมฉลองอันงดงามยิ่งใหญ่ ที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจจัดให้ข้าพเจ้า เป็นพิเศษในวาระนี้
ท่านทั้งหลายผู้มีความรักในชาติบ้านเมือง ย่อมปรารถนาให้ชาติบ้านเมืองมีความผาสุกมั่นคง และประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ในการนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกท่าน ผู้อยู่ในตำแหน่งสำคัญของชาติ จะต้องบำเพ็ญกรณียกิจทุกอย่าง โดยมีเป้าหมายสูงสุดเป็นอย่างเดียวกัน คือให้ประเทศชาติมีความรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างยั่งยืน อันจะทำให้ประชาชนทุกคนในชาติ มีความสุขความเจริญและความมั่นคงในชีวิตอย่างแท้จริง หากทุกท่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องตรงกันในข้อนี้ แล้วตั้งใจปฏิบัติภาระหน้าที่ของตน ให้บรรลุผลเป็นประโยชน์สูงสุด และประสานสอดคล้องซึ่งกันและกันเป็นอย่างดีแล้ว งานของชาติก็จะดำเนินไปสู่เป้าหมายได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรง และสำเร็จผลสมบูรณ์ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเคารพบูชา จงคุ้มครองรักษาทุกท่าน ให้ประสบความสุขสวัสดี พร้อมทั้งความเป็นสิริมงคลทุกประการ
>> ปภ. รายงานสถานการณ์กรณีเกิดแผ่นดินไหว บริเวณประเทศเวียดนาม
11.35 น. กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศ แจ้งว่า เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ขนาด 5.3 ความลึก 10 กิโลเมตร
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้ติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว พบว่าพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับความรู้สึกสั่นไหว อาจทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก จึงได้ประสานให้จังหวัดอุบลราชธานีติดตาม
สถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อลดความตื่นตระหนก และประชาสัมพันธ์แนวทางการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานราชการ ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป
>> คนร้ายใช้อาวุธสงคราม ลอบยิงประชาชนเสียชีวิต จ.ปัตตานี
12.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิง นายนาฟี อายุ 47 ปี เสียชีวิตในพื้นที่ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เหตุเกิดขณะที่ นายนาฟีฯ เดินทางด้วยรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ Isuzu Dragon Eyes สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน ปัตตานี โดยได้เดินทางมาพร้อมกับภรรยาเพื่อมาทำธุระในพื้นที่ อำเภอปะนาเระ กระทั่งเดินทางมาถึงบริเวณบนถนนหมายเลข 4017 หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลพ่อมิ่ง หมู่ที่ 3 ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิงเข้าใส่ นายนาฟีฯ ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ในส่วนภรรยาปลอดภัย ได้เปิดประตูรถหลบหนีลงข้างทาง และรถยนต์เกิดเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งคัน
โดยพบปลอกกระสุนปืนขนาด 7.62 มิลลิเมตร ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ รวบรวมวัตถุพยาน หลักฐานต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อขยายผลติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายโดยเร็วที่สุด สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
>> เจ้าของเล้าโอด ฝนถล่มหนักน้ำท่วม ไก่ที่เลี้ยงตายกว่า 3 หมื่นตัว
12.30 น. ที่บ้านหลังหนึ่งในบ้านตางาม ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด ของ นายพิภพ อายุ 77 ปี เกิดเหตุน้ำท่วมเล้าไก่ เป็นไก่เนื้อที่ใกล้จับส่งขายได้แล้ว โดยไก่ถูกน้ำท่วมตายเป็นจำนวนมาก ส่วนไก่ที่ยังไม่ตายก็รอจะขนย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแทน
เบื้องต้นต้องช่วยกันขนซากไก่ออกจากเล้าขึ้นไปไว้ที่สูง ส่วนไก่ที่ยังไม่ตายแจ้งไปทางบริษัทแล้ว ให้มาขนไก่ออกไปให้ด้วย ขณะเดียวกันก็แจ้งไปยังปศุสัตว์อำเภอบ่อไร่ และปศุสัตว์จังหวัดตราดแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังติดภารกิจช่วยฟาร์มหมูถูกน้ำท่วมถึง 2 ฟาร์มด้วยกันที่ ต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด
โดย นายพิภพ เล่าว่า ตนเองเลี้ยงไก่มานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 67 ได้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำป่าไหลท่วมทะลักจากคลองตางาม เข้ามาท่วมเล้าไก่ประมาณ 70 เซนติเมตร จึงทำให้ไก่จำนวน 40,000 ตัว ทยอยตายไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเป็นช่วงกลางคืน แจ้งไปทางบริษัทแล้วแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ จนรุ่งเช้ามาตรวจสอบอีกที พบว่าไก่ในเล้าตายไปเป็นจำนวนมากดังกล่าว ทั้งนี้ตนเองรับจ้างบริษัทเลี้ยงไก่ดังกล่าวมานาน ไม่เคยมีปัญหา แต่ปีนี้ฝนตกหนัก และน้ำป่ามาเร็วมาก ไม่ทันระวังและป้องกัน สุดท้ายน้ำท่วมเล้าไก่จนทำให้ไก่ตายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะต้องให้บริษัทนำรถมาขนไก่ที่เหลือในช่วงบ่ายวันนี้ สำหรับความช่วยเหลือในตอนนี้ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือแต่อย่างไร
>> แม่ทัพภาคที่ 4 รุดเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุบังคับใช้กฎหมาย ในพื้นที่ จ.ปัตตานี
13.30 น. พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ เหตุบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ บ้านคลองช้าง ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต จำนวน 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ประกอบด้วย ร้อยโทธวัชชัย สุวรรณรัตน์ กำลังพลจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี บาดเจ็บบริเวณขาด้านซ้ายเนื่องจากถูกสะเก็ตระเบิด และอาสาสมัครทหารพรานณัฐพงศ์ ไชยวรรณ สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์อย่างใกล้ชิด
โอกาสนี้ พลโทศานติ แม่ทัพภาคที่ 4ฯ ได้นำความห่วงใยจากผู้บัญชาการทหารบกมายังผู้ได้บาดเจ็บและครอบครัว ซึ่งได้พูดคุยสอบถามถึงอาการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนมอบกระเช้าเยี่ยมป่วย โดยมีคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่รายงานอาการเบื้องต้นและดูแลอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งการรักษาเป็นไปตามลำดับ
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า จากเหตุเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายและทำการควบคุมพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักตามแนวทางสันติวิธี และเลือกที่จะใช้อาวุธเป็นมาตรการสุดท้ายในการป้องกันตนเอง เน้นย้ำให้ใช้การเจรจาเป็นหลัก รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน
>> พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทรงตั้งสมณศักดิ์ จีน ญวน และพระสงฆ์
17.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถ ทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร แด่บรรพชิตจีน จำนวน 10 รูป และบรรพชิตญวน จำนวน 9 รูป ที่ได้ทรงตั้งสมณศักดิ์ใหม่ และทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แด่บรรพชิตจีนและญวน ทรงรับการถวายพระพรของบรรพชิตจีนและญวน แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 แด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ จำนวน 5 รูป
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับเสด็จ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
>> การรถไฟฯ ชี้แจงการดำเนินทำความสะอาดฝุ่น ภายในอุโมงค์ผาเสด็จ
20.00 น. ตามที่ได้ปรากฏภาพข่าวในสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับฝุ่นภายในอุโมงค์ผาเสด็จ หลังจากเปิดให้ขบวนรถไฟได้ใช้งานในวันนี้เป็นวันแรกนั้น
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า จากกรณีดังกล่าว นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้การรถไฟฯ เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยการรถไฟฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ลงตรวจสอบพื้นที่โดยทันที ซึ่งพบว่ากรณีดังกล่าวเป็นฝุ่นค้างสะสมอยู่ในอุโมงค์ ซึ่งมีกระแสลมพัดเข้ามาสะสมภายหลังจากการก่อสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งแม้ก่อนเปิดให้บริการ ผู้รับจ้างจะใช้พัดลมเป่าอัดอากาศเพื่อไล่ฝุ่น แต่ก็ยังมีฝุ่นเข้ามาสะสมอยู่ ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และเข้าดำเนินแก้ไขแล้ว โดยประสานให้บริษัทผู้รับจ้างดำเนินการใช้น้ำฉีดล้างทำความสะอาดหนัก และใช้พัดลมเป่าอัดอากาศเพื่อไล่ฝุ่นออกให้หมด ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 14 วัน เพื่อให้สามารถกลับมาเปิดใช้บริการเส้นทางในอุโมงค์ได้อีกครั้ง ในวันที่ 12 สิงหาคม 2567
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการมีการปรับปรุงทำความสะอาด การรถไฟฯ มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินทางรถ ขบวนรถโดยสารเส้นทางสายอุบลราชธานี ไป-กลับ จำนวน 14 ขบวน เป็นการชั่วคราว โดยให้กลับไปใช้เส้นทางเดิมก่อนทั้งหมด คือ เส้นทางสถานีมาบกะเบา - ผาเสด็จ - หินลับ - มวกเหล็ก ระยะทาง 18 กม. ใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 32 นาที และหลังจากดำเนินการปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว การรถไฟฯ จะเข้าไปตรวจสอบ และทดลองเดินรถใหม่อีกครั้ง ก่อนจะเปิดให้บริการตามปกติต่อไป
>> นายกฯ นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
20.15 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
โดยมีประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ พร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคปนายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มเงินพานพุ่มทอง เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคลระชาชน และประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมถวายพระพรโดยพร้อมเพรียงกัน
นายกรัฐมนตรีวางพานพุ่มเงินพานพุ่มทอง เปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมกล่าวถวายพระพรชัยมงคล
จากนั้น ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายกรัฐมนตรีและภริยารับมอบโคมเทียนและร่วมร้องเพลงสดุดีจอมราชา 2 จบ พร้อมร่วมกันเปล่งวาจาทรงพระเจริญสามครั้ง ดังกึกก้องทั่วท้องสนามหลวง
>> หนุ่มขี่รถจยย. ฝ่าฝนไปเฝ้าไข้ลูกที่ รพ. เกิดเสียหลักชนท้ายรถปูน เสียชีวิตกลางถนน
20.30 น. สมาคมสายธารสะพานบุญ จังหวัดนครพนมได้รับแจ้งจากพลเมืองดี มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกปูน และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนหมายเลข 2032 ใกล้เคียงปั้มบางจาก ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน นครพนม ลักษณะชนท้ายรถปูน อาสาออกตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ แผลฉีกขาดทั่วร่างกายและใบหน้า ไม่พบชีพจร ต่อมาแพทย์จึงยืนยันเสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อต่อมา นายสัญญา อายุ 31 ปี
เบื้องต้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์ เดินทางจากบ้านนาพระชัย ด้วยรถคันดังกล่าวเพื่อมาเฝ้าไข้ลูกชายอายุ 4 ปีที่ป่วยด้วยโรคหอบหืด พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลศรีสงครามได้ 7 วัน ในระหว่างเดินทางมามีฝนตก คาดว่ารถจะเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว จึงทำการติดต่อญาติทราบว่ามีญาติเพียงคนเดียวคือป้า ที่รอเปลี่ยนเฝ้าไข้ลูกของที่โรงพยาบาล หลังทราบเรื่องป้าจึงวิ่งจากโรงพยาบาลเพื่อมาดูหน้าหลานครั้งสุดท้าย ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสงคราม
>> เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ย่านบางพลัด เสียหายวอดหมดทั้งหลัง
21.39 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 67 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางพลัด เขตบางพลัดกรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ ชั้นบนภายในห้องพระ เพลิงลุกไหม้ชั้นบนเสียหายทั้งหมด ลุกลามชั้นล่างเสียหายเฉพาะบันไดเพียงเล็กน้อย พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 150 ตารางเมตร
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ที่เกิดเหตุมีประชาชนบ้านใกล้เคียงเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้รับบาดเจ็บอาการสำลักควันเล็กน้อย อาสาสมัครทำการปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางอ้อ
>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถนั่งส่วนบุคคล เสียชีวิต
21.40 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคล ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ถนนปทุมธานีสายใน บริเวณใกล้เคียง ร้านขายอาหารสัตว์ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล ฟอร์ด สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน และใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 35 - 40 ปี ไม่พบเอกสารติดตัว ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี
>> เจ้าหน้าที่เปลี่ยนเป็นปัก "ธงแดง" ยกระดับการแจ้งเตือนภัย หลังระดับน้ำแม่น้ำจันทบุรี ใกล้ถึงขึ้นวิกฤต
23.30 น. ที่บริเวณเสะพานแม่น้ำจันทบุรี วัดจันทนาราม เจ้าหน้าที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี นำ "ธงแดง" มีติดแทน "ธงเหลือง" เป็นการแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสูงสุด ภายหลังระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ใกล้ถึงจุดวิกฤต
พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนชุมชนริมน้ำจันทบูร ยกของขึ้นที่สูง นำรถยนต์ และรถจยย. มาจอดไว้ด้านนอก และขอให้ประชาชนติดตามการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิด
ส่วนระดับน้ำที่บริเวณสะพานดังกล่าว เมื่อเวลาประมาณ 23.40 น. อยู่ที่ 3 เมตร 32 เซนติเมตร หากระดับน้ำสูงกว่า 4 เมตร ขึ้นไปจะเริ่มเข้าท่วมถนนภายในชุมชน
ทางด้าน โครงการชลประทานจังหวัดจันทบุรี และอำเภอเมืองจันทบุรี ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำบริเวณสะพานวัดจันทนาราม ตลอด 24 ชม.และให้รายงานระดับน้ำทุกๆ ชม.เพื่อใช้ในการวางแผนการระบายน้ำ และเป็นข้อมูลสำหรับการแจ้งเตือนภัยประชาชน
>> 2 หนุ่มต่างด้าว ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำกลางถนนพหลโยธิน เสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่
23.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ถนนพหลโยธิน ฝั่งขาออก บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลภูมิพล ในพื้นที่เขตสายไหม กทม.
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีขาว ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะพลิกคว่ำอยู่กลางถนน ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บ 2 รายมีอาการสาหัส และทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเร่งให้การช่วยเหลือแต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบผู้เสียชีวิต เป็นชาย อายุประมาณ 25 - 30 ปี เป็นบุคคลสัญชาติต่างด้าว ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม
>> เพลิงไหม้รถยนต์ อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ
23.57 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ซอยรามคำแหง 39 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดรถบรรทุกขนาดเล็ก ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ หมายเลขทะเบียน (เจ้าของรถยนต์ไม่ประสงค์ให้ข้อมูล) รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่สายไฟบริเวณห้องเครื่อง เพลิงลุกไหม้สายไฟบริเวณหน้าห้องเครื่องเล็กน้อย ไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์และตัวถังรถยนต์ อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมาก
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา
อ่านเพิ่มเติมยอมรับ