หน้าแรก > ภูมิภาค

รวบเพิ่มอีกหนึ่งคน ผู้ต้องสงสัย เหตุลอบวางระเบิดหน้าแฟลตตำรวจบันนังสตา

วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 15:33 น.


วันนี้ (1 กรกฎาคม 2567) หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ เข้าบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบและติดตามบุคคลต้องสงสัย ที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องประกอบในรถยนต์ (คาร์บอมบ์) บริเวณหน้าแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา

หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ พบเป็นรถยนต์ทางราชการขององค์การบริหารส่วนตำบลธารโต และจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับรถยนต์ดังกล่าว ซึ่งสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายมุสตอฟา อายุ 27 ปี เป็นผู้ช่วยช่างโยธาขององค์การบริหารส่วนตำบลธารโต ไปเมื่อวานนี้ (30 มิถุนายน 2567) จากผลการซักถามเบื้องต้นพบว่า เป็นคนใช้รถยนต์คันดังกล่าวเป็นคนสุดท้าย หลังจากนั้น นายมะรอปี อายุ 45 ปี ภูมิลำเนาอยู่ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เป็นคนโทรหา นายมุสตอฟา สอบถามหากุญแจรถยนต์ และทราบข้อมูลจากนาย มุสตอฟาฯ ว่า นายมะรอปี  เป็นคนออกจากองค์การบริหารส่วนตำบลธารโตเป็นคนสุดท้าย ล่าสุดในวันนี้ (1 กรกฎาคม 2567) หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ได้ควบคุมตัว นายมะรอปีฯ เพื่อมาให้ข้อมูลกรณีต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุฯ สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจเพื่อให้รับทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายมะรอปีฯ ไปยังยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เพื่อขยายผลต่อไป

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า

ข่าวยอดนิยม