15 มิถุนายน 2567 บีบีซี รายงานว่า "ม้าป่าเปรวาสกี" (Przewalski) หรือ ม้าป่ามองโกล ซึ่งใกล้สูญพันธุ์กลับคืนสู่ถิ่นกำเนิดในทุ่งหญ้าโกลเด้นสเตปป์ ของคาซัคสถานเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 200 ปี หลังจากหลายฝ่ายใช้ความพยายามมานานหลายสิบปี จนในที่สุดก็สามารถนำม้าเปรวาสกี 7 ตัว จากสวนสัตว์กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ขึ้นเครื่องบินข้ามทวีปจากยุโรปมายังเอเชียกลางเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา และปล่อยกลับสู่ถิ่นกำเนิด หวังจะช่วยเพิ่มประชากรม้าหายากพันธุ์นี้

ม้าป่า Przewalski ถือเป็นม้าป่าสายพันธุ์สุดท้ายบนโลก ตั้งชื่อตามนักสำรวจชาวรัสเซีย Nikolai Przewalski ซึ่งเป็นคนแรกที่ระบุสายพันธ์ของม้าชนิดนี้ให้ชุมชนวิทยาศาสตร์ยุโรปได้รู้จัก  ม้าสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดเมื่อหลายพันปีก่อนจากทุ่งหญ้าสเตปป์ในเอเชียกลาง  ต่อมานักวิจัยนำม้าไปยุโรปและอเมริกาเหนือช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยเลี้ยงดูในสวนสัตว์ บางส่วนไปอยู่ที่สวนสัตว์ในมิวนิกและปราก

นายฟิลิป มาเชค โฆษกสวนสัตว์กรุงปราก กล่าวว่านี่เป็นชัยชนะด้านการอนุรักษ์ที่สานต่อกันมาหลายรุ่น กระทั่งม้าหายากชนิดนี้กลับคืนสู่ดินแดนบรรพบุรุษอีกครั้ง หลังมีผู้พบเห็นเป็นครั้งสุดท้ายในมองโกเลียและสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติราว 60 ปีก่อน แม้ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาม้าปรวาสกีค่อยๆ กลับคืนสู่มองโกเลียและจีน แต่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ม้าเปรวาสกีได้กลับสู่คาซัคสถาน

รายงานระบุอีกว่าสวนสัตว์กรุงปรากทุ่มเทเวลา 15 ปี เพื่อส่งม้าคืนถิ่นในเอเชียกลาง โดยเฉพาะ มองโกเลีย ส่วนแผนการส่งม้าคืนคาซัคสถานเริ่มขึ้นหลังจากลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลท้องถิ่นเมื่อปี 2565  ทางสวนสัตว์คัดเลือกม้าจากโครงการต่างๆ ทั่วยุโรปและพามาดูแลที่เดียวกันที่สวนสัตว์เทียร์พาร์ค ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เป็นเวลาหลายเดือนเพื่อให้ปรับตัวได้ ก่อนขนส่งทางอากาศเมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเครื่องบินกองทัพเช็ก 2 ลำนำม้า 2 ฝูงบินเป็นระยะทาง 6,000 กิโลเมตร รวมทั้งแวะพัก 2 จุดในตุรกีและอาเซอร์ไบจาน

"เมื่อสัปดาห์ที่แล้วม้าฝูงแรกที่กลับคืนถิ่นกำเนิด ประกอบด้วยม้าตัวผู้ 1 ตัวและตัวเมีย 6 ตัว โดยตั้งเป้าว่าจะส่งคืนอีกอย่างน้อย 40 ตัวภายใน 5 ปีข้างหน้าซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เลยทีเดียว โดยเครื่องบินกองทัพอากาศเช็ก 2 ลำขนส่งม้าทั้ง 7 ตัว ไปยังคาซัคสถานตอนกลางในรอบหลายร้อยปี" นายมิโรสลาฟ โบเบก ผู้อำนวยการสวนสัตว์ กล่าว

ที่มา BBC