หน้าแรก > สังคม

ก.มหาดไทย จับมือสถาบันอุดมศึกษา 36 แห่ง พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนบำบัดทุกข์บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน มุ่งลดความเหลื่อมล้ำอย่างไร้รอยต่อ

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 04:26 น.


ก.มหาดไทย จับมือสถาบันอุดมศึกษา 36 แห่ง พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนบำบัดทุกข์บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน มุ่งลดความเหลื่อมล้ำอย่างไร้รอยต่อ

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ห้องประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (NSP) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเชิงพื้นที่” ในที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ครั้งที่ 1/2566 ร่วมกับ ศ.ดร.นพ. พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ และ ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อธิการบดี และผู้บริหารมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ รวม 36 แห่ง ร่วมในพิธี

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเชิงพื้นที่” ร่วมกับศาสตราจารย์ ดร.นพ. พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ศาสตราจารย์ นพ. บรรจง มไหสวริยะ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิวัติ แก้วประดับ รองประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย โดยมีผู้บริหารสถาบันการศึกษาเครือข่าย ทปอ. และหัวหน้าส่วนราชการจำนวนมากร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย มีภารกิจที่สำคัญในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” พี่น้องประชาชนทุกคน ในฐานะผู้นำการบูรณาการงานของทุกกระทรวงในระดับพื้นที่ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนผ่านกลไก Area Base ด้วยพลังการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคี อันได้แก่ ภาครัฐ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทยที่พร้อมร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า ในรูปแบบ Change for Good ที่มีประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุดของการดำเนินงาน ซึ่งในขณะนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายโครงการและกิจกรรม อาทิ โครงการอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแบบบูรณาการอย่างยั่งยืน โครงการหมู่บ้านยั่งยืนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และอีกมากมาย โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร  มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์ได้พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2541 ความว่า “....ถ้าทำโครงการอะไรที่ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ ก็สามารถจะสร้างความเจริญให้กับเขตที่ใหญ่ขึ้นได้. เขตที่ใหญ่ ลงท้ายก็จะแผ่ทั่วประเทศได้ แต่เพื่อการนี้จะต้องมีความร่วมมืออย่างดี ระหว่างทุกฝ่าย ทั้งนักวิชาการ และนักปกครอง.” ซึ่งการลงนามความร่วมมือในวันนี้ เป็นการดำเนินการที่ตรงตามพระราชดำริอย่างแท้จริง อันเป็นแนวทางการทำงานหลักของกระทรวงมหาดไทยที่มุ่งสร้างพลังการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างสร้างสรรค์

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเชิงพื้นที่” ในวันนี้ มีเจตนารมณ์หลักซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญ เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยและสถาบันอุดมศึกษาเครือข่าย ทปอ. ได้ร่วมกันสร้างความร่วมมือในการบริหารจัดการที่ดี สร้างความสัมพันธ์ระหว่างราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในด้านการระดมทรัพยากรมาใช้ร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด อันจะทำให้สถาบันอุดมศึกษาเครือข่ายของ ทปอ. สามารถนำบุคลากรและองค์ความรู้ มาร่วมสร้างสรรค์ผลประโยชน์ในการพัฒนาบนพื้นฐาน และแนวคิดการเชื่อมโยงภารกิจและพื้นที่ นอกจากนี้ ยังหนุนเสริมทำให้กระทรวงมหาดไทยและสถาบันอุดมศึกษาเครือข่าย ทปอ. สามารถกำหนดพื้นที่ร่วมกันในการวางแนวทางพัฒนาให้มีจุดเน้นที่มุ่งลดความเหลื่อมล้ำของการเติบโตในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นการประสานความร่วมมือภาคีเครือข่ายภาควิชาการและกระทรวงมหาดไทยอย่างไร้รอยต่อ เฉกเช่นที่กระทรวงมหาดไทยได้นำร่องแล้วในช่วงที่ผ่านมา โดยได้รับแรงสนับสนุน

อย่างดีจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านอธิการบดีฯ ที่ได้สนับสนุนให้ ศาสตราจารย์ ดร. สุรินทร์ คำฝอย รองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล เข้ามาช่วยเหลือและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานภารกิจของกระทรวงมหาดไทยอย่างแข็งขัน
“การดำเนินงานความร่วมมือต่อจากนี้ กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมที่จะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในเครือข่าย ทปอ. ด้วยการมุ่งเดินหน้าบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนและพร้อมที่จะรับฟังและร่วมกันดำเนินงานในมิติต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมแก้ปัญหาของพวกเขาเองอย่างสร้างสรรค์ ตามหลักการ “ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมแก้ปัญหา และร่วมรับผลประโยชน์” ที่จะเป็นพื้นฐานของการสร้างความยั่งยืนของความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวในช่วงท้าย

ด้าน ศ.ดร.นพ. พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล ประธาน ทปอ. กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยถือเป็นหน่วยงานหลักของประเทศที่มีบทบาทภารกิจในการส่งเสริมความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และความมั่นคงภายใน ตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในเชิงพื้นที่ (Area Base) เป็นสำคัญ และในขณะเดียวกัน ทปอ. ก็เป็นเครือข่ายของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐที่มีบทบาทหน้าที่ในการชี้แนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาล สังคม ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้วยการวิจัยและพัฒนาแล้วนำเสนอการพัฒนาและสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่คนไทยและประเทศไทย

“การลงนามสร้างความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย และ ทปอ. ในวันนี้ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่ภาควิชาการและกระทรวงที่มีกลไกบริหารในระดับพื้นที่ ทั้งท้องที่ และท้องถิ่น หรือเรียกว่า "ฝ่ายปกครอง" จะได้บูรณาการในการพัฒนาเชิงพื้นที่และส่งเสริมการขับเคลื่อนประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล แผนงานของส่วนราชการ บนพื้นฐานแนวคิดของการเชื่อมโยงภารกิจและพื้นที่ (Function-Area-Approach) เข้าด้วยกันอย่างยั่งยืน” ประธาน ทปอ. กล่าวเพิ่มเติม

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม