หน้าแรก > สังคม

ตำรวจไซเบอร์รวบขบวนการปลอมเพจรีสอร์ตเขาค้อทิพย์ หลอกเหยื่อสูญเงินรวมกันกว่า 5 ล้าน

วันที่ 10 มิถุนายน 2024 เวลา 10:55 น.


สืบเนื่องจากคดีนี้ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ ทำการตรวจสอบกรณีมีเจ้าของ รีสอร์ตวิลล่าป่าสน เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพปลอมเพจเฟซบุ๊กของตน โดยได้นำรูปภาพและวิดีโอจากหน้าเพจเฟซบุ๊กรีสอร์ตของตนไปใช้สร้างเพจปลอม โดยใช้ชื่อเพจว่า “วิลล่าป่าสน เขาค้อ #Villa pason Khaokho” เหมือนกับของเจ้าของรีสอร์ต ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมาก ได้หลงเชื่อโอนเงินให้แก่คนร้ายไป ทำให้ผู้สนใจห้องพักเกิดความสับสนว่าเพจใดเป็นเพจจริงหรือเพจปลอม

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ผบช.สอท. ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนกรณีดังกล่าว โดยมอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 เร่งรัดนำทีมลงพื้นที่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เพจดังกล่าวมี

เพจจริงใช้ชื่อเพจว่า “วิลล่าป่าสน เขาค้อ Villa PaSon Khaokho” มีจำนวนผู้ติดตามจำนวน 2.2 แสนคน และผู้กดถูกใจจำนวน 2.2 แสนคน มีการสร้างเพจขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.59 ลิงก์เพจคือ https://www.facebook.com/VillaPasonKhaokho มีบัญชีในการรับโอนเงินจากลูกค้าเป็นบัญชีที่ใช้ชื่อของบริษัทชื่อบัญชี บริษัท วิลล่าป่าสน จำกัด

เมื่อทำการเปรียบเทียบกับเพจที่มีการปลอมแล้วพบว่า เพจปลอมใช้ชื่อเพจว่า “วิลล่าป่าสน เขาค้อ #Villa PaSon Khaokho” ซึ่งใช้ชื่อเดียวกันกับเพจจริงทุกตัวอักษร และใช้รูปภาพโปรไฟล์และภาพพื้นหลังแบบเดียวกันทุกอย่าง แต่มีจำนวนผู้ติดตาม 4.6 หมื่นคนและมีผู้กดถูกใจจำนวน 3.6 หมื่นคน หากกดตรงความโปร่งใสของเพจ พบว่ามีการสร้างเพจขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2561 และเคยมีการใช้ชื่อเพจเป็นภาษาต่างชาติมาก่อน ซึ่งปัจจุบัน ตำรวจไซเบอร์ได้ประสานเฟซบุ๊กปิดกั้นไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนบัญชีที่เพจปลอมใช้ในการรับโอนเงินจากผู้เสียหาย จะถูกเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบความเชื่อมโยงพบว่า เพจ The world ภูทับเบิก ซึ่งเป็นที่พักที่อยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ก็ถูกคนร้ายปลอมขึ้นมาในลักษณะเดียวกันและพบข้อมูลพยานหลักฐานว่ากลุ่มคนร้ายที่แอบอ้างทั้ง 2 เพจ เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากมีเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกัน โดยมีประชาชนถูกหลอกลวงได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า 5,000,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้กระทำผิดในขบวนการได้แล้วหลายราย

กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บ.สอท.3 ได้สืบสวนจนทราบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี 1 ราย จึงได้วางกำลังเข้าจับกุม น.ส.บุษกร อายุ 28 ปี ชาวร้อยเอ็ด โดยสามารถควบคุมตัวได้ที่ ลานจอดรถโรงปูนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เขาวง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยการแสดงเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.4 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวที่ยังหลบหนีมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม