หน้าแรก > ภูมิภาค

แนวเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัวยาวกว่า 70 เมตร หน้าวัดเชิงเลน นนทบุรี

วันที่ 9 มิถุนายน 2024 เวลา 20:59 น.


เมื่อเวลา 18.40 น.วันทีี 9 มิ.ย. 67 นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐ และที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี ได้รับแจ้งจาก พระครูนนทคุณพิพีฒน์ (ประเสิรฐ) เจ้าอาวาสวัดเชิงเน ท่าอิฐ ว่าเกิดเหตุเขื่อนกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา พังถล่มลงไปในแม่น้ำ บริเวณหน้า วัดเชิงเลน ตำบลท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสาน นายณรงค์ แก้วเกตุ อายุ 48 ปี ผู้ช่วยควบคุมงานก่อสร้างเขื่อนริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นเขื่อนริมแม่น้ำ เป็นโครงการก่อสร้างเขื่อนกั้นกันตลิ่งพัง ช่วงที่ 2 ระยะทาง 2 กม. จากหน้าวัดแสงสิริธรรม หมู่ 5 ถึง หน้าวัดเชิงเลน หมู่ 8 เริ่มก่อสร้างปี 2557 กำหนดแล้วเสร็จ ก.พ. 66 จากนั้นต่อสัญญาเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโดวิด 19 เป็นเขื่อนซีเมนต์ กว้าง 3.15 เมตรรวมขอบปูน สูงจากพื้นปูน 1.20 เมตร ความยาวเข็มลึก 21 เมตร เกิดเหตุพังถล่มลงไปในแม่น้ำเมื่อเวลา 17.40 น. ระยะทาง 75 เมตร พบมีปลายเหล็กเส้นโผล่ออกมาทั้ง 2 ด้าน ที่ริมตลิ่งพบกองดินที่น้ำมากองไว้ นอกจากนั้นยังพบรถแบคโฮจอดอยู่  คาดว่าอยู่ระหว่างปรับภูมิทัศน์บริเวณริมเขื่อนด้านใน 

นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายก อบต.ท่าอิฐ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากทางวัด ว่าเกิดเหตุประมาณ 17.30 น. เขื่อนริมแม่น้ำ เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำหรับกันตลิ่งระยะที่สอง ได้พังลงไปในแม่น้ำได้พังลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทางประมาณ 75 เมตร ลักษณะการล้มคือพังทีเดียวทั้งแถบ ทำให้ดินที่อยู่หลังเขื่อน สไลด์ลงไปในแม่น้ำด้วย ซึ่งตอนนี้ ตลิ่งหน้าวัดอยู่ได้ด้วยเขื่อนอันเดิม ที่แข็งแรงกว่า โดยหลังเกิดเหตุได้โทรรายงานให้กับผู้ควบคุมงานทราบแล้ว สำหรัสำหรับเขื่อนที่ก่อสร้างนี้ เป็นเขื่อนที่ป้องกันน้ำท่วมซึ่งชาวบ้านต้องการให้เป็นเขื่อนที่ป้องกันน้ำท่วมได้ด้วย เนื่องจากเมื่อปีห้าสี่ทางวัดเจอน้ำท่วมหนักมาแล้ว ซึ่งเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 57 และจะมีโครงการที่ 3 ต่อไปจนถึงสะพานพระนั่งเกล้า แต่ตอนนี้เขื่อนกับพังลงไปแล้วไม่แข็งแรงพอ ซึ่งเขื่อนนี้ยังอยู่ใน ระหว่างตรวจส่งมอบ ยังเป็นความรับผิดชอบของกรมชลประทาน  

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุ เกิดจากสภาพน้ำ เกิดจากสภาพน้ำขึ้นน้ำลง ทำให้เขื่อนรับน้ำหนักไม่ไหว ประกอบกับมีการถมดินด้านในเขื่อน ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ให้เจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญลงตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง

ข่าวยอดนิยม