หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2567

วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 เวลา 05:48 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 22 พฤษภาคม 2567


>> รถจักรยานยนต์ชนเสาสัญญาณจราจร มีผู้เสียชีวิต

06.00 น. รับแจ้งจาก สภ.ป่าติ้ว มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนขอบทาง และมีผู้เสียชีวิต บนถนนอรุณประเสริฐ มุ่งหน้าตลาดสดป่าติ้ว บริเวณทางกลับใกล้เคียงทางเข้าวัดป่าร่วมใจ พื้นที่ อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำ ป้ายทะเบียน 8250 ยโสธร ล้มคว่ำอยู่เลนขวา บริเวณทางกลับรถ ใกล้กันพบเสาป้ายสัญญาณจราจร มีร่องรอยการชน และติดกันที่โคนต้น พบร่างผู้เสียชีวิต 1 คนเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50 - 60 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าติ้ว


>> พบส่วนศีรษะ หนุ่มไรเดอร์ ถูกรุ่นน้องวัย17 ฆาตกรรมอำพราง ทิ้งศพลงเหวลึก

09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ซ้อน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันเดินสำรวจบริเวณสันเขาตามเส้นทางจุดที่พบร่างของหนุ่มไรเดอร์ (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 23 ปี ที่โดนเพื่อนรุ่นน้องคือ นายออม อายุ 17 ปี ฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะทิ้งศพไว้ในป่า ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา

ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบกะโหลกศีรษะ ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ตาย สภาพเหลือเพียงกะโหลกเท่านั้น คาดว่าเกิดจากการเน่าเปื่อย และโดนสัตว์กัดแทะ เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เชือกโรยตัวลงไปด้านล่างเพื่อนำชิ้นส่วนศีรษะขึ้นมาทำการตรวจสอบ ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาในพื้นที่มีฝนตก อาจจะเกิดลื่นไถลได้ จากนั้นได้นำห่อผ้าขาวเพื่อส่งแพทย์ชันสูตรอีกครั้ง

ขณะที่แม่บุญธรรมและยายของผู้ตายได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุด้วย เมื่อพบชิ้นส่วนของลูกชายถึงกับร่ำไห้แทบขาดใจ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลปฐมพยาบาลอย่างใกล้ชิด


>> ตำรวจ สภ.ถลาง ตามรวบมือแทงเจ้าอาวาสบาดเจ็บ

11.00 น. จากกรณี เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 1 คน ใช้อาวุธมีดแทงเจ้าอาวาสวัดพระทอง ได้รับบาดเจ็บ และหลบหนีไป เหตุเกิดที่บริเวณหน้ากุฏิภายในวัดพระทอง หมู่ 1 ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา

และ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ชาว ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ขอหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น”

ล่าสุด พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ.ถลางนำกำลังชุดสืบสวนร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน 2 พื้นที่ และฝ่ายปกครองอำเภอถลางนำหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตเข้าจับกุม นายเอ (นามสมมุติ) ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ตามหมายจับลงวันที่ 21 พ.ค. 2567 ขณะกำลังเดินอยู่บริเวณตลาดแม่สมปอง ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จากนั้นได้นำตัวไปตรวจค้นเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุที่บ้านพักใน อ.ถลาง ก่อนนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ถลาง


>> ‘สืบภาค 5’ บุกจับผัว-เมียซุกปืนเครื่องกระสุนเต็มบ้าน อ้างเป็นของสะสม

14.51 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมกำลังชุดสืบสวนภาค 5 ร่วมกันจับกุมตัว นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี หลังก่อนหน้านี้ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดฮอด ทำการตรวจค้นร้านขายของชำแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ภายหลังพบอาวุธปืนจำนวนมากมีตั้งแต่ ปืนสั้นชนิดกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม., ปืนสั้นชนิดกึ่งอัตโนมัติขนาด .380, ปืนลูกซองยาว หักลำไทยประดิษฐ์, ปืนลูกซองยาว BAIKAI, ปืนลูกซองยาว REMINGTON, อาวุธปืนพกสั้น CZ 457 ขนาด .22 พร้อมลำกล้อง และ ปืนลูกโม่ ยี่ห้อ สมิทแอนด์เวสสัน พร้อมเครื่องกระสุนอีกหลายรายการ

จากนั้น กำลังตำรวจได้ขยายผลไปจับกุม น.ส.รุ่ง (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ภรรยาของ นายเอกภพ ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม หลังจากพบว่าในบ้านมีอาวุธปืนจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ และยังพบเครื่องกระสุนอีกนับหมื่นนัดด้วย สอบสวนทั้งสองให้การรับสารภาพว่า เป็นคนชอบเก็บสะสมอาวุธปืน ซึ่งบางกระบอกมีทะเบียนครอบครองถูกต้อง สำหรับกระสุนปืนอัดลมก็จะนำไปจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่นนำไปใช้ยิงนก-ตกปลา ส่วนปืนและกระสุนจริง ยืนยันไม่ได้มีไว้ขาย เพราะเป็นของรักของสะสม ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การดังกล่าว จึงแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ไว้ก่อน หากแนวทางการสืบสวนพบว่ากระทำผิดในข้อหาอื่นๆ ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป.


>> ปลัดมหาดไทย เผยความคืบหน้าแก้หนี้นอกระบบ ดำเนินการแล้วเสร็จทั่วประเทศ 1.4 แสนราย

15.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยมีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 ราย กระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้

โดยสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานข้อมูลความคืบหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศ มีลูกหนี้ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 144,998 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,190.970 ล้านบาท โดยยังคงเหลืออีก 8,402 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพบปะพูดคุยกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จครบทั้งกระบวนการต่อไป นอกจากนี้ มีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 456 คดี


>> "กัน จอมพลัง" พา 3 นักแสดงสาวเข้าแจ้งความตำรวจคันนายาว เอาผิดอดีตผู้จัดการดาราฯ คุกคามทางเพศ

15.10 น. หลังจาก 3 นักแสดงสาว “ไข่มุก” นักแสดงประกอบเรื่อง สงครามสมรส, “พราว” มิสแกรนด์โคราช 2022 และ “มาย ฮาเร็ม” จากเรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ ได้ออกมาโพสต์ประกาศเป็นนักแสดงอิสระ ยกเลิกสัญญากับอดีตผู้จัดการส่วนตัว 
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา 3 นักแสดงสาวที่ถูกอดีตผู้จัดการดาราชื่อดัง มีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ มาแจ้งกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหากระทำอนาจารฯ กับอดีตผู้จัดการดาราดังกล่าว

โดย หนึ่งในดาราสาวผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองถูกผู้จัดการคุกคามและลวนลามด้วยการขอจับมือ และขอกอด ตอนที่อยู่ด้วยกัน 2 คน ตนเองเคยถามเขาว่า มาจับและมากอดทำไม ซึ่งเหตุการณ์เกิดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ โดยตอนกอดผู้จัดการก็มีสติ ไม่ได้เมา และมักจะชวนไปที่บ้านอ้างว่าจะไปทำเวิร์คชอปการแสดง แต่ตนเองก็ไม่เคยไปคนเดียว จะไปกับพี่ชายทุกครั้ง แต่จังหวะที่พี่ชายเข้าห้องน้ำ ผู้จัดการก็มักจะอาศัยจังหวะนี้ดึงไปกอด พร้อมชวนมานอนที่บ้าน แต่เธอได้ปฏิเสธและไม่เคยนอนค้าง นอกจากพฤติกรรมคุกคามทางเพศแล้ว ที่ตกใจมากไปกว่านั้น เพราะผู้จัดการคนนี้ยังแสดงอาการหึงหวงเวลาที่เธอเข้าฉากกับนักแสดงชายด้วย แถมยังห้ามไม่ให้เธอไปกินข้าวกับเพื่อนนักแสดงชาย และไม่อนุญาตให้ฟอลไอจีกับนักแสดงชายคนอื่นด้วย ทำให้ตอนนี้ตนเองฉีกสัญญาไปแล้ว

จึงอยากฝากเตือนด้วยว่า หากมีใครมาชักชวนให้เข้าวงการบันเทิง ก็ขอให้เช็คประวัติให้ดี อย่าหลงเชื่อว่าเป็นผู้จัดการดาราดัง แต่ควรจะต้องเช็คข่าวย้อนหลังด้วยว่าพฤติกรรมเขาเป็นอย่างไร พร้อมยืนยันว่า อดีตผู้จัดการคนนี้ ตนเองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


>> รถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ กลางถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ มีผู้เสียชีวิต

16.00 น. รับแจ้งจากกู้ภัยฉะเชิงเทรา จุดบางปะกง ตรวจสอบอุบัติเหตุรถกระบะ ชนกับรถจักรยานยนต์ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ เลยปากทางเข้าหน้าโรงเรียนจันทร์เจริญ 200 เมตร ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

ที่เกิดหตุ พบรถกระบะ ฟอร์ด แรนเจอร์ สีขาว ลักษณะชนกับ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำเงิน ความรุนแรงทำให้รถจักรยานยนต์กระเด็นตกข้างทาง และที่กลางถนนพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นชายไทย อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาชาว จ.กำแพงเพชร สภาพศพแขนขาหัก ศีรษะแตกมีบาดแผลฉกรรจ์

จากการสอบถาม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า รถกระบะขับมาทางตรงมุ่งหน้าไปทางท่าสะอ้าน ส่วนรถจักรยานยนต์ ขี่ในเลนสวนจะเลี้ยวตัดเข้าอุโมงค์ใต้สะพานกลับรถ ระหว่างกำลังขี่ตัดข้ามเลนเพื่อจะลอดใต้อุโมงค์ไม่ทันระวังรถกระบะที่ขับมาทางตรง จึงเกิดอุบัติเหตุดัวกล่าวขึ้น

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบสวนคนขับรถกระบะ รวมถึงพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์อีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย ก่อนมอบให้อาสาสมัคร นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรอีกครั้งที่โรงพยาบาลบางปะกง


>> นายกฯ เล็งแก้ปัญหานโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน สั่งจัดประชุม ครม.เศรษฐกิจทุกวันจันทร์

16.17 น. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากกรณีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลด คาดการณ์เศรษฐกิจไทย GDP ปีนี้เติบโต 2.5% หลังจาก GDP ไตรมาส 1 เติบโตเพียง 1.5% ว่าเป็นไปตามสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายคาดคาดการณ์อยู่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากภัยคุกคาม ตลอดจนปัจจัยภายในประเทศ และปัจจัยภายนอกประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไม่ได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศ เร่งแก้ไขปัญหานโยบายเศรษฐกิจระยะสั้นอย่างเร่งด่วน กำหนดจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจทุกวันจันทร์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ (27 พฤษภาคม 2567) ซึ่งจะเชิญรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน เพื่อรับฟังแนวทางการทำงาน มาระดมความคิดเห็น หามาตรการว่าจะปรับแนวทางการดำเนินงานอย่างไรบ้าง เริ่มตั้งแต่พิจารณานโยบาย การดำเนินนโยบาย การกระตุ้นการเบิกจ่าย และกฎหมายระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ นโยบาย Digital Wallet ก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้นที่จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 เป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญของรัฐบาลเพื่อผลักดันกระตุ้นให้เกิดกำลังหมุนของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ


>> หนุ่มตากใบ ขับรถกระบะ ชนต้นไม้ข้างทาง เสียชีวิตที่ จ.ศรีสะเกษ

19.30 น. รับแจ้งจาก กู้ภัยสว่างจิตต์ขุนหาญ มีอุบัติเหตุ รถกระบะ ชนกับต้นไม้ข้างทาง แลมีผู้บาดเจ็บ ถนนทางหลวงหมายเลข 24 ใกล้เคียงสามแยกภูฝ้าย ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ลักษณะชนกับต้นไม้ข้างทาง สภาพหน้ารถพังเสียหาย และพบร่างของผู้ขับกระเด็นออกมาที่นอกตัวรถ อาสาสมัครตรวจสอบพบว่าได้เสียชีวิตแล้ว เป็นชายไทย อายุประมาณ 27 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนหาญ พร้อมด้วยแพทย์ชันสูตรพลิกศพ พบผู้เสียชีวิต กะโหลกแตก ต้นคอหัก ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวน


>> เร่งตรวจสอบ สารเคมีรั่วไหลในโรงงาน ย่านพระราม 2

20.04 น. ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุพระราม 199 เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหล ในซอยพระราม 2 ซอย 20 ถนนพระรามสอง แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม. จึงประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิง และกู้ภัยดาวคะนอง เข้าตรวจสอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยดาวคะนองถึงที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าภายในโรงงานได้ จากการตรวจสอบด้วยสายตาไม่พบแสงเพลิง โดยต่อมาผู้จัดการของโรงงาน แจ้งว่าเป็นเพียงถังของสารเคมี (ประเภท UN334 ) ได้ร่วงหล่นลงพื้น 1 ถัง และเจ้าหน้าที่ของโรงงานได้ทำการเก็บกู้เป็นที่เรียบร้อย ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมรอบโรงงาน  


>> ญาติโหด ชักปืนกระหน่ำ 2 ผัว-เมียลูกพี่ลูกน้องบาดเจ็บ กลางสวนกล้วย ตร.เร่งสืบสวนตามตัว

21.30 น. สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุมี ชายกับหญิงถูกยิงได้รับบาดเจ็บ มาขอความช่วยเหลือจากญาติ ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 7 บ้านหนองช้างเหยียบ ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น บริเวณหน้าบ้านเป็นสวนกล้วยและสวนปาล์ม ภายในห้องน้ำชั้นล่าง พบหญิงไทย อายุ 43 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.หัวหิน จ.ประจวบ ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ก้นด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บหลบอยู่ในห้องน้ำ ห่างออกไปจากตัวบ้านประมาณ 500 เมตรในสวนกล้วย พบชายไทย อายุ 53 ปี ชาวบ้าน อ.ชะอำ ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ท้อง จนไส้ไหลออกมา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชะอำ กู้ภัยสว่างสรรเพชญฯ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน เข้าให้การช่วยเหลือนำตัวนายชลอ ออกมาจากสวมกล้วยอย่างทุลักทุเล เพราะรถไม่สามารถเข้าไปรับได้ จากนั้นนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ทราบว่าเป็นสามีภรรยากันส่งโรงพยาบาลหัวหิน

ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสยาม อายุ 44 ปี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของ ชายที่บาดเจ็บ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปแล้ว

ด้าน หญิงผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและสามีอยู่ที่เพิงพัก ภายในสวนกล้วย จากนั้นได้เห็นผู้ก่อเหตุเดินเข้ามา ไม่พูดไม่จา ชักอาวุธปืนไม่ทราบชนิดอออกมากระหน่ำยิง ใส่ตนและสามีกว่า 10 นัด ตนกับสามี จึงรีบวิ่งหลบหนี ไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และได้รับการช่วยเหลือ นำส่งรักษาดังกล่าว เบื้องต้น พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ ได้สั่งการจัดทีมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่านำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตราย


>> ไฟคลอกเด็กที่วัดรับอุปการะ เป็นเด็กแฝดและเพื่อนดับรวม 3 ศพ คากุฎิเก่าในวัดสวนแก้ว ตร.เร่งหาสาเหตุที่แท้จริง

00.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ร่วมตรวจสอบ เหตุเกิดภายในวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ เป็นกุฎิพระเก่า ลักษณะโครงสร้างเป็นเหล็กบุด้วยไม้อัด มีร่องรอยถูกไฟไหม้เสียหาย

ภายในพบร่างผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นเด็กชายวัย 9 ปี 1 คน และเด็กชายฝาแฝด อายุ 11 ปี สภาพถูกไฟไหม้ร่างเกรียม ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นเด็กกำพร้าที่ทางวัดได้อุปการะและส่งเรียนหนังสือ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า ที่เสาเหล็กเป็นลักษณะปลั๊กไฟ มีร่องรอยไฟฟ้ารั่ว และยังมีกระแสไฟฟ้าช็อตอยู่ จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตัดกระแสไฟทันที

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของทางวัดทราบว่าปกติแล้ว 2 พี่น้องฝาแฝดจะพักอาศัยอยู่กุฎิเก่าหลังนี้เพียง 2 คน ก่อนเกิดเหตุมีเด็กชายอีก 2 คนลงมาเล่นกับสองพี่น้องฝาแฝด จากนั้นมี 1 คนกลับไปนอนที่ตึกที่อยู่ใกล้กันก่อนที่จะเกิดไฟไหม้ขึ้น

ด้าน นายต๊ะ (นามสมมุติ) คนงานในวัด กล่าวว่า พระอาจารย์เรียกตนบอกว่าไฟไหม้ ตนเป็นคนวิ่งมาดับไฟ ขณะนั้นไฟกำลังลุกรุนแรง ตนจึงเอาถังดับเพลิงรีบไปดับไฟ ตอนแรกที่ดับไฟตนไม่รู้ว่ามีเด็กอยู่ข้างใน พอไฟดับถึงเห็นว่ามีเด็กติดอยู่ 3 คน ส่วนสาเหตุที่ไฟไหม้ตนยังไม่ทราบ อาจจะเด็กเล่นไฟ ซึ่งปกติที่นี่จะมีเด็กนอนอยู่ 2 คน ส่วนอีกคนแอบหนีมาตอน 4 ทุ่มก่อนเกิดเหตุ ทั้งหมดเป็นเด็กในวัด ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ไฟไหม้ว่าเกิดจากอะไร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และพบว่าเด็กทั้ง 3 คนเป็นเด็กกำพร้าที่ทางวัดได้อุปการะดูแลส่งเรียนหนังสือ ส่วนของสาเหตุสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรประกอบกับมีฝนตกลงมาและไฟเกิดช็อตกับตัวโครงสร้างซึ่งเป็นเหล็กทำให้เด็กทั้ง3 คนนั้นถูกไฟดูดจนกระทั่งไฟลุกไหม้ขึ้นเด็กไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ทำให้ถูกไฟคอกเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นจึงได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป


>> รถกระบะขับฝ่าฝน เสียหลักชนตอม่อใต้ทางต่างระดับ กลางถนนศรีนครินทร์ มีผู้เสียชีวิต 2 และเจ็บสาหัส 1 ราย

01.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มีอุบัติเหตุ รถกระบะชนขอบทาง และมีผู้เสียชีวิตในยานพาหนะ ถนนศรีนครินทร์ ฝั่งขาเข้า เยื้องกับห้างซีคอน สแควร์ พื้นที่เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร สภาพรถพังเสียหายทั้งคัน ตรวจสอบภายในพบว่าผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย อาสาสมัครต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างในการงัดรถ เพื่อให้การช่วยเหลือ เมื่อตรวจสอบในเวลาต่อมา พบว่าได้เสียชีวิตแล้วเป็นชาย 2 ราย คือ นาย มนตรี อายุ 45 ปี และ นายณภัทร อายุ 26 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือ นาย สัญญา อายุ 55 ปีนั้นมอบให้รถกู้ชีพเอราวัณ ดำเนินการและนำส่ง รพ.ใกล้เคียง

อาสาสมัครกู้ภัยฯ เพิ่มเติมว่า จากความรุนแรงทำให้ล้อรถของรถกระบะ ได้กระเด็นไปชนกับรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถใกล้เคียงจุดเกิดเหตุทำให้เสียหาย 3 - 4 คัน โดยเบื้องต้น ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นรถกระบะคันดังกล่าวใช้เส้นทางมาด้วยความเร็ว ก่อนรถจะเกิดเสียหลักชนเข้ากับขอบทางและเสาตอม่อใต้สะพานต่างระดับแล้วพลิกคว่ำ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ


>> ชายตกจากสะพานลอย กระแทกรถจักรยานยนต์คว่ำ กระบะตามหลังทับซ้ำ เสียชีวิตกลางถนน หน้าปากซอยจรัญสนิมวงศ์ 3

04.53 น. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แจ้งว่ามีเหตุ รถกระบะชนคน กลางถนนจรัญสนิทวงศ์ ปากซอย 3 และพบว่ามีผู้เสียชีวิตชาย 1 คน ในพื้นที่ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50 - 60 ปี สภาพนอนอยู่ที่เลนขวา มีแผลถูกรถทับที่ศีรษะ ห่างออกไป พบรถกระบะตู้ทึบ โตโยต้า สีเทา ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน กรุงเทพฯ ล้มคว่ำ และมีผู้บาดเจ็บชาย 1 ราย เป็นผู้ขับขี่รถ จยย. อาสาสมัครนำส่ง รพ.บางไผ่

ม.ป่อเต็กตึ๊ง คืบหน้า ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่ากับกู้ภัยว่า ผู้เสียชีวิตตกลงมาจากสะพานลอย ชนเข้ากับรถจยย. แล้วถูกรถกระบะตามหลังทับซ้ำ ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าพระ  
 

ข่าวยอดนิยม


เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ผู้ใช้งานและจะรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานระบบของผู้ใช้ การเรียกดูเว็บไซต์ของเราในหน้าต่างๆ กรุณายอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา

อ่านเพิ่มเติมยอมรับ