หน้าแรก > สังคม

ตื่นปุ๊บ ดื่มกาแฟปั๊บ หรือจะรอหลังอาหารเช้า 'หมอธีระวัฒน์' แนะแบบไหนดีกว่า

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2023 เวลา 10:58 น.


ตัวกาแฟเองเป็นที่พิสูจน์แล้วว่า ช่วยสุขภาพและลดความสุ่มเสี่ยง ต่อการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดจนกระทั่งถึงมะเร็ง (บทความสุขภาพหรรษา ไทยรัฐเรื่องกาแฟ โดยหมอดื้อ) อย่างไรก็ตาม ในขนาดบริโภค 62 มิลลิกรัม ของคาเฟอีนต่อ 100 ซีซี โดยดื่มถ้วยเดียว หรือ ขนาด 100 ถึง 400 มิลิกรัม ดื่มถ้วยเดียว จะมีผลทำให้กระบวนการจัดการน้ำตาลในเลือด หลังที่กินอาหารไปแล้ว เกิดความแปรปรวนขึ้นมา และเป็นที่กริ่งเกรงกันว่าการดื่มกาแฟหลังจากที่ไม่ได้นอนมาระยะหนึ่ง หรือการนอนโดยที่ถูกกระตุกเป็นช่วง ๆ การดื่มกาแฟดังกล่าวแทนที่จะได้ผลดีต่อสุขภาพ อาจจะเกิดผลเสียสะสมขึ้นไปอีก

บทความนี้ตีพิมพ์ในวารสารโภชนาการของอังกฤษ (British journal of nutrition) เมื่อกลางปี 2563 นี้ และทำการศึกษาในบุรุษและสตรีที่สุขภาพดี 29 คน โดยการศึกษาแบ่งออกเป็นสามสภาวะ ในแบบแรกให้มีการนอนปกติและเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้า ก็ให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ในแบบที่สองกำหนดให้มีการนอนกระท่อนกระแท่น โดยมีการปลุกทุกชั่วโมงเป็นเวลา 5 นาที (โดยรวมแล้วเท่ากับ 80 นาที) แล้วตอนเช้าให้ดื่มเครื่องดื่มน้ำตาล และในแบบสุดท้าย ให้มีการนอนแบบมีการทารุณกรรมตามข้างต้น แต่เช้าวันรุ่งขึ้น ให้ดื่มกาแฟดำเข้มข้นและอีก 30 นาที ต่อมาตามด้วยเครื่องดื่มน้ำตาล โดยในแต่ละแบบมีการเจาะเลือด หลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไปแล้ว ซึ่งมีปริมาณแคลอรี่เทียบเคียงกับอาหารเช้าตามปกติ

ผลการศึกษาปรากฏว่า การนอนแบบกระท่อนกระแท่นแบบถูกทารุณกรรมนั้น ไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการจัดการระดับน้ำตาลและอินซูลินในเลือด โดยผลที่ได้นั้นเหมือนกับการนอนอย่างมีความสุข ในทางกลับกัน การดื่มกาแฟดำเข้มข้นก่อนอาหารเช้า กลับพบว่าทำให้ระบบการจัดการน้ำตาลและอินซูลินรวนเร และมีระดับเพิ่มขึ้นประมาณ 50% คณะผู้ศึกษาได้ทำการวิเคราะห์และสรุปให้ความเห็นว่า ผลที่ได้นี้ไม่ได้คัดค้าน ว่ากาแฟไม่มีประโยชน์และผลต่อสุขภาพ ยังคงเป็นไปอย่างที่ได้รับทราบกันทั่วไป เพียงแต่ว่าถ้าจะทำให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ในการดื่มกาแฟตอนเช้า หลังจากที่ในคืนก่อนหน้านั้นมีการนอนอย่างทุลักทุเล ควรจะต้องดื่มหลังจากที่ทานอาหารเช้าไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อป้องกันผลที่จะเกิดขึ้นต่อภาวะดื้ออินซูลิน และทำให้ระดับอินซูลินสูงเกินไป จากที่ควรจะเป็นและระดับน้ำตาลไม่สมดุล

ขอบคุณข้อมูลจาก เพจธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha

ข่าวยอดนิยม