วันที่ 16 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สปป.ลาว มีการขุดพบพระพุทธรูปในแม่น้ำโขง เมืองต้นผึ้ง ตรงข้ามเชียงแสน คนลาว ภิกษุ สามเณร แห่ชม สักการะบูชาพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 3 องค์ และขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่ง

จากกรณีที่มีการพูดคุยกันของชาวบ้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ว่า ทางลาวมีการขุดพบพระพุทธรูปที่น้ำโขง ผู้สื่อข่าวจึงได้ข้ามแม่น้ำโขงตรวจสอบพบว่า วันนี้บริเวณริมแม่น้ำโขงฝั่งลาวกำลังมีขุดบริเวณชายหาดเป็นหลุมกว้าง ในช่วงนี้แม่น้ำโขงแห้งมากทำให้เห็นหาดปรากฎยาว ริมฝั่งแม่น้ำโขง เมื่อถึงหาดเกาะผึ้งคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว บริเวณหน้าอาคารตลาดใหม่ดอนผึ้ง อยู่ตรงข้ามท่าเรือหน้าที่อำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย

โดยได้พบพระพุทธรูปสัมฤทธิ์โบราณขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตัก 25 นิ้ว (ไม่มีเศียร) 1 องค์ ขนาด 32 นิ้ว 1 องค์ และเศียรพระขนาดใหญ่ 1 เศียร พร้อมพระพุทธรูปขนาดเล็กอีก 3 องค์ และพระเครื่องอีกจำนวนหนึ่ง มีใบโพธิ์อีก 1 ใบ ทั้งหมดถูกนำมาวางตั้งอยู่ที่ซุ้มชั่วคราวที่หน่วยงานของลาวสร้างไว้เพื่อจัดวางพระพุทธรูป ซึ่งอยู่ใกล้กับหลุมทรายขนาดใหญ่ที่กำลังมีรถแบคโฮและชาวลาวจำนวนหนึ่งกำลังพยายามยกองค์พระขึ้นจากหลุมทราย

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของ สปป.ลาว กำลังทำการตรวจสอบว่าพระพุทธรูปดังกล่าวสร้างขึ้นในสมัยไหนหรือเป็นศิลปะแบบใด แต่คนลาวที่มารอชมเรียกว่า “พระเจ้าองค์แสน” และคาดว่าจะเป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน อายุประมาณ 400-500 ปี

และในช่วงบ่ายมีท่านคำแยง คำไซสะกิด เจ้าเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว และเจ้าหน้าที่ของลาว ได้เข้ามาดูแลความปลอดภัยและดูแลการดำเนินการขุดค้น โดยบริเวณขุดค้นมีหลุมทรายขนาดใหญ่ลึก 3-4 เมตร ได้มีการใช้รถแบคโฮและเครื่องไดโว่สูบน้ำ และชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังเข้าไปช่วยกันยกพระพุทธรูปองค์ใหญ่ออกจากหลุมหินทราย เมื่อนำพระพุทธรูปขึ้นมาได้ พบว่าเป็นพระพุทธรูปไร้เศียร ขนาดหน้าตัก 40 นิ้ว ได้ยกพระพุทธรูปมาวางไว้ที่ซุ้มใกล้ๆ และลองนำเศียรพระที่พบก่อนมาวางคงเป็นองค์พระปรากฏว่าพอดี ขณะเดียวกันเริ่มมีชาวบ้านเริ่มพากันมาไหว้สักการะบูชาพระพุทธรูป

ชาวบ้านเล่าว่า ก่อนหน้านี้ในวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทรับเหมาขุดหินทรายปรากฎว่าพบเศียรขนาดใหญ่พระพุทธรูปก่อน และพบพระพุทธรูปขนาดเล็กที่ไม่มีเศียรอีก 1 องค์ จากนั้นได้หยุดขุดไป 3 วัน และวันนี้ได้กลับมาขุดเพราะเพื่อหาองค์พระของเศียรที่พบ แต่พอมาขุดปรากฎว่าพบองค์พระอีกหลายองค์ติด ๆ กัน และทางการลาวยังคงขุดค้นหาต่อไป

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ลาวบอกว่าทางศรัทธาจากฝั่งไทยสามารถมาชมและสักการะพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาดช่วงนี้ได้ เนื่องจากการเข้าสู่เดือนเมษายนช่วงสงกรานต์ ทางเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาวจัดเตรียมหาดกว้างไว้สำหรับเล่นน้ำสงกรานต์สองฝั่งโขง อยู่บริเวณใกล้เคียงกับหาดที่พบพระพุทธรูป ดังนั้นคนไทยสามารถมานั่งเรือข้ามมา แม้ไม่ได้ทำบอเดอร์พาสแต่สามารถเที่ยวที่หาดได้ และถ้าทำบอเดอร์พาสก็จะสามารถขึ้นไปเที่ยวบนฝั่ง สปป.ลาวได้

ขอบคุณภาพ : ข่าวจาก World Forum ข่าวสารต่างประเทศ