หน้าแรก > ข่าวจราจร

รถบัสนำเที่ยวพลิกตะแคง นทท.ชาวจีน บาดเจ็บหลายราย บริเวณโค้งบางดุก จังหวัดภูเก็ต

วันที่ 17 มกราคม 2024 เวลา 01:13


รถบัสนำเที่ยวพลิกตะแคง นทท.ชาวจีน บาดเจ็บหลายราย บริเวณโค้งบางดุก จังหวัดภูเก็ต

เมื่อเวลา 07.50 น.  วันที่ 16 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าฉัตรไชย ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบัสนักท่องเที่ยวชาวจีน พลิกคว่ำบริเวณโค้งบางดุก ถนนเทพกระษัตรี ฝั่งขาออกนอกเมืองภูเก็ต มีผู้บาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น

จากนั้น เดินทางไปตรวจสอบ และทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต พร้อมกับอำนวยความความสะดวกด้านการจราจร เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นถนนสายหลักออกจากตัวเมืองภูเก็ต และมีปริมาณรถค่อนข้างมาก ซึ่งการจราจรยังเคลื่อนตัวได้ 
บริเวณที่เกิดเหตุคนพื้นที่รู้จักกันในชื่อโค้งบางดุก มีลักษณะเป็นรูปโค้งตัวเอส และมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พบรถบัสนำเที่ยว สีขาว หมายเลขทะเบียน บุรีรัมย์ ระบุจำนวนที่นั่งผู้โดยสารจำนวน 25 ที่นั่ง สภาพตะแคงพลิกคว่ำขวางช่องการการจราจร 1 ช่อง แต่เหลืออีก 1 ช่องจราจร ทำให้การจราจรยังเคลื่อนตัวได้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกการจราจร

ทั้งนี้ สภาพรถด้านหน้ากระจกแตกเสียหาย ขณะที่บริเวณเกาะกลางถนนพบเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กำลังทำการปฐมพยาบาลนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาลถลาง เพื่อทำการรักษา และจากการตรวจสอบมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 18 ราย และบาดเจ็บปานกลาง (สีเหลือง) จำนวน 2 ราย เป็นชาย โดยมีบาดแผลที่เอว และปวดบริเวณซี่โครง

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า มีคนบนรถทั้งหมด 20 คน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีน 16 คน หัวหน้าทัวร์ 1 คน (ชาวจีน) มัคคุเทศก์ชาวไทย 1 คน คนขับรถและผู้ช่วย รวม 2 คน ก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าวได้ไปรับนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งหมดมาจากโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต เพื่อไปลงเรือยังท่าเรือแห่งหนึ่ง ไปท่องเที่ยวที่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา เมื่อมาถึงจุดเกิดซึ่งมีลักษณะโค้งรูปตัวเอส รถเกิดเสียหลักพลิกคว่ำ จนมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำคนขับ ไกด์ และนักท่องเที่ยว ตลอดจนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนที่จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ที่มา : สวท.ภูเก็ต prd 

 

 

ข่าวยอดนิยม