ภัยพิบัติ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ผู้ประสบภัย เผยหนักสุดในรอบ 50 ปี อบต.เร่งเปิดเส้นทาง บางหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ การช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมภัยพิบัติในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยพื้นที่ ตำบลตลิ่งชัน ที่หมู่ 6 บ้านตลาดนิคม ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา หน่วยงานในพื้นทึ่ อย่าง อบต.ตลิ่งชัน ได้เร่งสำรวจพื้นที่ และใช้รถแมคโคร เข้าเปิดเส้นทางที่มีดินสไลด์ทับถนนหนทางในหมู่บ้านระหว่างบ้านนิคมกือลอง และบ้าน กม.26 ใน เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่สามารถใช้เส้นทางได้ในเบื้องต้น

ขณะที่ความเสียหายในพื้นที่ส่วนใหญ่นั้น ได้เกิดจากน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มทับถนนแบะบ้านเรือนประชาชน

อย่างบ้านเลขที่ 202/2 ม.6 ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นบ้านของ นางผุสดี อายุ 48 ปี  ได้ถูกน้ำป่าพัดพาเสียหายไปทั้งหลัง โชคดีที่ขณะนั้น คนในบ้านได้หนีออกไปได้ทัน หลังจากได้ยินเสียงน้ำในลำห้วย พัดพาก้อนหินมากับน้ำเสียงดังน่ากลัว

นางผุสดี ผู้ประสบภัย เล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุนั้น มีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดตั้งแต่วันที่ 24 - 25 ธันวาคม 2566 จากนั้นประมาณ ตี 1 น้ำในลำห้วยเริ่มเพิ่มมากขึ้น คนในบ้าน ขณะนั้นจำนวน 2 คน ได้ออกมาเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อหนีน้ำ ขณะกำลังเข้าไปเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์คันที่ 2 ที่อยู่ภายในบ้าน น้ำป่าก็ซัดเข้าบ้านอย่างจัง ไม่นาน ทั้งบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน ก็หายไปกับตา โชคดีที่คนในบ้านหนีออกมาได้ทัน

ขณะที่บ้านเลขที่ 204 ซอย 2 หมู่ 6  ต.ตลิ่งชัน บ้านของนายขำ 82 ปี และนางขวัญตา อายุ 54 ปี บุตรสาว ได้ถูกดินถล่มทับบ้านและรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวม 3 คัน รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือช่าง เครื่องมือทำสวน ถูกดินไหลทับ ได้รับความเสียหาย

นายขำ ผู้ประสบเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนเองอาศัยอยู่ในพื้นที่มานาน ก็ยังไม่เคยประสบเหตุภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายให้ขนาดนี้ ด้านนางขวัญตา  ซึ่งอาศัยอยู่ภายในบ้านดังกล่าว เล่าว่า ขณะเกิดเหตุประมาณ ตี 4 หัวรุ่ง ได้ยินเสียงดังจากไม้ที่หักโค่น จากนั้น สุนัขหลายตัวที่อยู่หน้าบ้าน ได้ส่งเสียงเห่ากันระงม ตนเองได้เปิดประตูออกมาดู สุนัขที่อยู่หน้าบ้าน ก็พากันวิ่งเข้าไปในบ้าน ทันที จากนั้น ก็เห็นว่า บริเวณหน้าบ้านมีดินถล่มทับลงมาแล้ว โชคดี ที่ไม่มีใครภายในบ้านได้รับบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต

ขณะที่ นายสราวุฒิ อายุ 36 ปี นางสาวสุพรรษา  อายุ 34 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 6 ซอยขวัญนคร ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งถูกน้ำป่าพัดพาเอารถยนต์กระบะ ที่จอดอยู่ในโรงรถหน้าบ้านหายไปกับน้ำทั้งคัน และน้ำป่ายังได้กัดเซาะดินบริเวณบ้าน จนทำให้บ้านเกือบทรุดตัว

โดยผู้ประสบเหตุทั้ง 2 คนเล่าให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุ ประมาณตี 3 มีน้ำป่าไหลมาจำนวนมาก ทั้งสองอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้หลับได้นอน เนื่องจากเกรงว่า น้ำป่าจะซัดเข้าบ้าน แต่ที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิด ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์ภัยพิบัติหนักขนาดนี้ ซึ่งในช่วงหลังเที่ยงคืน ของวันที่ 24 เข้าสู่วันที่ 25 ธค.66 มีฝนตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย และมีน้ำป่าในห้วย ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ผู้เป็นสามี ได้ลงมาถอยรถยนต์เพื่อหนีน้ำในระดับหนึ่งแล้ว แต่จากนั้น ในช่วงตี 3 กว่า ๆ น้ำป่าจำนวนมาก ก็พัดพาเอารถยนต์กระบะที่จอดิยู่บริเวณโรงจอดรถหน้าบ้าน หายไปกับสายน้ำ โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไปเจอรถอีกครั้ง ก็ช่วงสาย ๆ ของวันที่ 25 ธค.66 ซึ่งจุดที่พบอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ทรัพยสินภายในรถ ก็เสียหายไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ พื้นที่บ้านนิคมกือลอง หมู่ 6 มีเหตุดินถล่มทับเส้นทางหลายจุด โดยเฉพาะ เส้นทางจากซอยสายเมน ไปยังบ้านลูโบ๊ะ หมู่ 6   มีดินสไลด์ทับเส้นทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านติดอยู่ภายในประมาณ 5-7 ครอบครัว ซึ่งต้องใช้การเดินเท้า ออกมาซึ่งหาสิ่งของจำเป็น

นอกจากนี้ยังทราบว่า หลังเกิดเหตุดินถล่มทับเส้นทางขึ้นเขาปกโย๊ะ ม.6 บ้านตลาดนิคม ต.ตลิ่งชัน จนไม่สามารถใช้รถสัญจรได้ เป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ทำให้กองร้อยทหารพรานที่ 4110 ต้องผลัดเปลี่ยนกำลังพลในการเดินเท้าลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงวันละ 400 ลิตร ไปให้กับสถานีทวนสัญญาณโทรทัศน์ เพื่อใช้กับเครื่องปั่นไฟ ซึ่งจะต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 6-7 กิโลเมตร

โดยในเบื้องต้นนั้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน ได้สั่งการให้ สมาชิก อบต.รองนายก อบต.ลงพื้นที้สำรวจ และนำรถแมคโคร เข้าดำเนินการเปิดเส้นทางในบางจุด ที่สามารถดำเนินการได้ เพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้สัญจร เป็นการชั่วคราว และเร่งให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เข้าซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้งาน แต่เนื่องด้วย การดำเนินการบางส่วน ต้องรอให้มีการเปิดเส้นทางที่ถูกดินถล่มทับให้สัญจรได้ก่อน จึงสามารถจะนำรถยนต์ และอุปกรณ์ เข้าดำเนินการแก้ไข ทำให้ในบางพื้นที่ ยังไม่มีไฟฟ้าใช้งานเป็นวันที่ 5 แล้ว

เครดิต YalaToDay ยะลาทูเดย์