หน้าแรก > สังคม

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุแต่งตั้งนายพลใหญ่เป็นไปตามกฎหมาย ยึดอาวุโสคู่ความสามารถ เตรียมเซ็นคำสั่งให้ไปรักษาการได้เลย

วันที่ 16 ตุลาคม 2566 เวลา 13:13 น.


เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 11/2566 โดยมีวาระสำคัญ คือ การพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ซึ่งมีรายงานว่าวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเสนอบัญชีรายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพล ตำแหน่ง รองผบ.ตร.ลงไปถึงผบช. วาระประจำปี 2566 ซึ่งมีตำแหน่งว่าง จำนวน 24 ตำแหน่ง ประกอบด้วย รอง ผบ.ตร.ว่าง 3 ตำแหน่ง ผู้ช่วยผบ.ตร.ว่าง 5 ตำแหน่ง และ ผบช.ว่าง 16 ตำแหน่ง

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การพิจารณาแต่งตั้ง รองผบ.ตร.-ผบช.วาระประจำปี 2566 เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยยึดหลักอาวุโสความรู้ความสามารถควบคู่กัน โดยในที่ประชุม ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิมีการอธิบายถึงคุณสมบัติบางนาย ซึ่งก็ได้มีการชี้แจงและเตรียมนำมาปรับปรุงพิจารณาเพื่อให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น ส่วนบัญชีรายชื่อที่ได้รับการแต่งตั้งยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อยจากบอร์ดกลั่นกรองเมื่อวันที่ 15 ก.ย.66 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครไปตำแหน่งไหน ต้องรอการโปรดเกล้าฯก่อน  

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้( 16 ต.ค.) จะลงนามในคำสั่งให้ผู้ที่มีรายชื่อทั้งหมดไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งเพื่อเตรียมพิจารณารายชื่อแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รองผบช.-ผบก.(นายพลเล็ก) จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร.ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ พร้อมกับยืนยันว่าการแต่งตั้งวาระประจำปี 66 เป็นการแต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ฯ ที่มีการพิจารณาจากระดับล่างขึ้นไป ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ระดับ ตร.จะลงไป 

ส่วนกรณีที่อาจจะมีข้าราชการตำรวจบางนายที่เห็นว่าการแต่งตั้งไม่ได้รับความเป็นธรรมและต้องยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ไม่ได้กังวลเพราะถือเป็นสิทธิ์ของบุคคลนั้นๆที่สามารถยื่นฟ้องได้ แต่ยืนยันว่าการแต่งตั้งคำนึงถึงหลักกฎหมายเป็นตัวตั้งและครั้งนี้เป็นการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุดแล้ว

ทั้งนี้  สำหรับผู้ที่คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้ง  ระดับรอง ผบ.ตร. 3 ตำแหน่ง เป็นการพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ดังนี้ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง พล.ต.ท.สราวุธ การพานิช และพล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. 5 ตำแหน่ง พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส ดังนี้ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ (สบ8) โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจะพันธ์ ผบช.สตม. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบช.สพฐ.ตร.

ระดับ ผบช.ว่าง 16 ตำแหน่ง มีระดับรองผบช.อาวุโส ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 ฉบับใหม่ กำหนดให้ใช้อาวุโส 50 เปอร์เซ็นต์คิดเป็น 8 ตำแหน่ง ดังนี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ขึ้นเป็น ผบช.ภาค 1, พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.2 โยกไป ผบช.สตม., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 โยกไป ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภาค 3 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.3

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. โยกไป ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รอง ผบช.ภ.1 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.6, พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ. โยกไป ผบช.ภ.7, พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 อยู่ที่เดิม, พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.9

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.2 โยกไป ผบช.สตม., พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.อยู่ที่เดิม, พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค โยกมา ผบช. สพฐ., พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต รอง ผบช.ตชด. ขึ้นเป็น ผบช.ตชด., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.สง. ผบ.ตร โยกไป ผบช.ปส., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. อยู่ที่เดิม

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำสง. ผบ.ตร. อยู่ที่เดิม, พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. อยู่ที่เดิม, พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบช.ก. ขึ้นเป็น จเรตำรวจ (สบ8), พล.ต.ต.สยาม บุญสม รอง ผบช.น. ขึ้นเป็น จเรตำรวจ (สบ8), พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5 ขึ้นเป็น ผบช.กมค., พล.ต.ต.กฤกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.ศ. ขึ้นเป็น ผบช.สตส., พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8 ขึ้นเป็น ผบช.ทท., พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.เป็น ผบช.ประสง.ผบ.ตร.(ประสานงานนายก)

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม