ไอคอนสยาม ฉลองครบรอบ 5 ปี เพื่อตอกย้ำการเป็น Global Destination อันดังหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและทั่วโลก เตรียมจัดงานที่เรียกได้ว่า อภิมหาโครงการ ชู Soft Powerไทย กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

วันนี้ (9 ต.ค.66) นายสุพจน์ ชัยวัฒน์สิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไอคอนสยาม จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ไอคอนสยามได้ทำภารกิจสำคัญตามวิสัยทัศน์ผู้ร่วมลงทุนทั้ง 3 บริษัทได้ให้ไว้กับประเทศไทยสำเร็จลุล่วงทั้งสยามพิวรรธน์ , บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหารจำกัด (มหาชน) และบริษัทแม็กโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวปล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดึงดูดให้เป็นหมุดหมายที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจากทุกมุมโลก

ซึ่งพันธกิจอันยิ่งใหญ่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นผู้พลิกเกมครั้งยิ่งใหญ่และเป็นภาคส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งหลังวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมา สร้างศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพฯบนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งธนบุรี ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองกระจายผลประโยชน์ในวงกว้างไปได้มาก

นายสุพจน์ กล่าวว่า ทึ่ผ่านมาไอคอนสยามสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานมากกว่า 300,000 อัตรา เพิ่มมูลค่าของที่ดินบริเวณถนนเจริญนครใกล้เคียงจากตารางวาละ 150,000 บาทในปี 2561 กลายเป็น 640,000 บาทในปี 2566 นอกจากนั้นรัฐบาลได้สร้างระบบขนส่งรถไฟฟ้าสายสีม่วง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีทอง เดินทางได้ทั้งรถรางเรือ ซึ่งไอคอนสยาม มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง5 ปี สนับสนุนธุรกิจ SMEs กระจายรายได้สูงผู้ประกอบการรายย่อยในเมืองสุขสยามและไอคอนคราฟต์ กว่า 12,700 ราย และมีร้านค้าแบรนด์ไทยอีก 840 รายบนพื้นที่ชั้น 4-5

สำหรับในปีหน้า 2567 ตั้งเป้าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งชุมชนที่รายล้อมและบรรดาธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมดจะได้รับประโยชน์มากมายอีกด้วย

นายสุพจน์ กล่าวว่า ไอคอนสยามนำคุณงามความดีในทุกมิติของความเป็นไทยเสนอให้ทั่วโลกเห็น จนประสบความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าทั้งคนไทยที่มีกำลังซื้อสูงและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีการจัด world class event อย่างสม่ำเสมอและเป็นศูนย์รวมงานศิลปะไทยและศิลปะระดับโลก ผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีรายได้โตขึ้น 25%

จึงขอเชิญชวนร่วมเฉลิมครบรอบ 5 ปี ภายในธีม The 5th Anniversary of The ICON Unrivaled แคมเปญครั้งนี้ทุ่มงบประมาณ 500 ล้านบาท นำsoft power ของไทยมาเป็นแรงดึงดูดให้ทุกคนเข้าร่วม เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 - กุมภาพันธ์ 2567 ระบะเวลา 5 เดือน และในปลายปี ร่วมกันกับ ททท. และ กทม.จัดกิจกรรมเช่นแสดงแสงสี วิจิตรเจ้าพระยา งาน Amazing Thailand Countdown 2024 ทำให้มั่นใจว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมีผู้มาใช้บริการเพื่มขึ้นกว่า 70%

ด้านน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวว่า รัฐบาลตั้งเป้าเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการอำนวยความสะดวก เช่น ปรับปรุงขั้นตอนการขอวีซ่า การจัดทำ fast track visa ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าในกลุ่มประเทศ

ทั้งนี้การท่องเที่ยวไทยเป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญสร้างรายได้ให้ประเทศ ปัจจุบันประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วก็ 20 ล้านคนของไทยเหลืออีกประมาณ 2 เดือนกว่า ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วง high season ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รัฐบาลตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 มีจำนวน 28-30 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.4 ล้านล้านบาท

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวต่อว่า กลุ่มสยามพิวัฒน์เองได้มีการตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาช้อปปิ้งที่ศูนย์การค้าในเครือโดยเฉพาะไตรมาสที่ 4 จะมีหลายกิจกรรมที่จัดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไอคอนสยามจุดหมายของนักท่องเที่ยว และจะเป็นก้าวสำคัญของการเฉลิมฉลองปีใหม่ระดับโลก เพราะติด 1ใน10 สถานที่เคาท์ดาวน์ระดับโลกจาก CNN ดังนั้นพิสูจน์แล้วว่า ไอคอนสยามเป็นแลนมาร์คระดับโลก