24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2566

>> ฝนถล่ม น้ำแม่น้ำลี้ ลำพูน เอ่อท่วม 2อำเภอ พ่อเฒ่า71ครวญหนักสุดในรอบ21ปี

08.30 น. ฝนถล่มข้ามคืน มวลน้ำแม่น้ำลี้ ลำพูน เอ่อท่วม 2 อำเภอ ชาวบ้านเร่งย้ายของขึ้นที่สูง น้ำจากแม่น้ำลี้ ไหลผ่าน อ.ทุ่งหัวช้าง , อ.ลี้ และ อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน สวนมะม่วง และคอกสัตว์ของชาวบ้านเสียหายรวม 13 หมู่บ้านในต.บ้านโฮ่ง อ.บ้านโฮ่ง และ อ.เหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง ระดับน้ำยังคงสูงขึ้นไม่หยุด ไหลจาก อ.ทุ่งหัวช้าง และ อ.ลี้ อย่างไม่ขาดสาย ทั้งนี้ล่าสุดระดับท่วมสูงสุดอยู่ที่กว่า 60 เซนติเมตร

>> "บิ๊กต่อ" ถือฤกษ์ 09.09 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง

09.09 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นประธานพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะรัชกาลที่ 4 เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 14 โดย ผบ.ตร. พร้อมด้วย คุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้ร่วมพิธีบูชาศาลพระภูมิ พิธีบูชาพระนิรันตราย พิธีบูชาหลวงพ่อโสธร พิธีบูชาพระนารายณ์ พิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพิธีสักการะ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงกัน

>> ชื่นชมตำรวจไซเบอร์ เข้าระงับเหตุคนคลั่ง เดินควงมีดกลางเมืองทองธานี

11.00 น. เกิดเหตุระทึก มีชายคุ้มคลั่งถืออาวุธมีดพยายามทำร้ายประชาชน บริเวณเมืองทองธานี โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 30 ก.ย.66 เวลาประมาณ 13.00 น. ได้มีชายลักษณะอาการคุ้มคลั่งตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ถืออาวุธมีดพยายามข่มขู่เพื่อขอข้าวกินจากชาวบ้านและร้านค้าบริเวณคอนโด C8 เมืองทองธานี จากนั้นได้เดินอาละวาดไปทั่ว ต่อมา จ.ส.ต.ชาตินักรบ สุคนธวัฒน์ ผบ.หมู่กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.2 สังกัด บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ซึ่งกำลังขับรถพาภรรยาและลูกไปทานข้าว พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวพอดี จึงเพื่อจะระงับเหตุพร้อมทั้งให้ภรรยาโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669 และ สายด่วน 191

โดย จ.ส.ต.ชาตินักรบ วางแผนร่วมกับพลเมืองดีและสายตรวจ สภ.ปากเกร็ด เมื่อสบโอกาส จึงเข้ารวบตัวชายดังกล่าวอย่างชุลมุนเนื่องจากชายคุ้มคลั่งได้ขัดขืนและต่อสู้ตลอดเวลา จนสุดท้ายสามารถควบคุมตัวไว้ได้ และให้เจ้าหน้าที่สายตรวจนำส่ง สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> เกิดเหตุคนร้ายยิงและขว้างระเบิดป่วน 5 อำเภอในพื้นที่นราธิวาส

13.00 น.กรณีมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนและระเบิดขว้างในการก่อเหตุให้เกิดความปั่นป่วนในพื้นที่ 5 จุด รวม 5 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย รือเสาะ ระแงะ จะแนะ ศรีสาคร และแว้ง ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 1 นายในพื้นที่ อ.รือเสาะ

โดยจุดที่ 1 เหตุคนร้ายลอบใช้อาวุธปืนยิงใส่ชุดปฏิบัติการด่านตรวจเจ้าพระยา ตั้งอยู่บ้านบือแนยาโมง ม.2 ต.รือเสาะออก ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 1 นาย

จุดที่ 2 เป็นฐานปฏิบัติการศรีสาคร ตั้งอยู่บ้านไอร์แยง ม.3 ต.ศรีสาคร คนร้ายใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 ยิงใส่ฐาน และใช้ระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอบม์ จำนวน 1 ลูก ขว้างใส่ซ้ำ คนร้ายสามารถอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้

จุดที่ 3 เป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการ ชคต.กาลิซา ตั้งอยู่บ้านกาเด็ง ม.6 ต.กาลิซา โดยคนร้าย ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 ยิงใส่ด้านหลังที่ตั้งของฐาน จำนวนกว่า 10 นัดซ้อน กระสุนปืนทะลุเข้าไปยังเรือนนอน 1 นัด โดยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

จุดที่ 4 ซึ่งเป็นแฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จะแนะ ขนาด 5 ชั้น ตั้งอยู่บ้านมะนังกาแยง ม.3 ต.จะแนะ คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 ยิงใส่แฟลตที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุคนร้ายได้อาศัยความมืดหลบหนีไป

จุดสุดท้ายซึ่งเป็นจุดที่ 5 ฐานปฏิบัติการ กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ตั้งอยู่บ้านนูโร๊ะ ม.1 ต.โละจูด ซึ่งคนร้ายใช้อาวุธปืน เอ็ม.16 ยิงใส่ที่ตั้งฐานฯ ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยความมือและความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 5 จุด 5 อำเภอของ จ.นราธิวาส น่าจะมีความเกี่ยวโยงกับการก่อเหตุของคนร้ายในพื้นที่ จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี ในเวลาไล่เลี่ยกัน

>> หนุ่มใหญ่ง้อแฟนสาวไม่สำเร็จ ขับรถไล่ชน ก่อนใช้มีดปาดคอตัวเองเจ็บสาหัส

15.30 น. สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้บาดเจ็บสาหัสเพราะใช้อาวุธมีดปาดคอตัวเองภายในรถที่เสียหลักลงข้างทางท้ายซอยสัตหีบสุขุมวิท 17 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถอีซูซุ มิวเซเว่น ภายในรถพบร่างชายอายุ 57 ปี นอนจมกองเลือดบนเบาะนั่งคนขับหลังใช้อาวุธมีดทำครัวปาดคอตัวเองเป็นแผลฉกรรจ์ กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำร่างออกจากรถก่อนจะปั๊มหัวใจยื้อชีวิต และเร่งนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ

ห่างออกไป 10 เมตร บนถนนพบรถกระบะอีซูซุดีแม็กซ์ สภาพถูกชนท้ายได้รับความเสียหาย โดยมี นายอดิศร อายุ 33 ปี เป็นคนขับ และน.ส.ผกาวรรณ อายุ 29 ปี เพื่อนสาวนั่งมากันในรถทั้งสองยังอยู่ในอาการตกใจ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

จากการสอบถามนายอดิศร คนขับรถกระบะ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพาน.ส.ผกาวรรณ ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาหาผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นแฟนเก่าที่บ้าน หลังฝ่ายหญิงขอให้มาช่วยขนรถจักรยานยนต์คืนจากบ้านแฟนเก่า แต่เมื่อมาถึงทั้งคู่ได้เกิดมีปากเสียงเข้าฉุดกระชากกัน ตนจึงรีบพาน.ส.ผกาวรรณ ขึ้นรถขับหลบหนีออกมา แต่ผู้บาดเจ็บได้ขับรถตามมาและไล่ชนท้ายก่อนที่รถของผู้บาดเจ็บจะเสียหลักพุ่งตกลงข้างทาง และผู้บาดเจ็บที่นั่งอยู่ในรถได้ใช้มีดทำครัวปาดคอตัวเองจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

>> มูลนิธิเด็ก โพสต์ขอบคุณ ‘นายกฯ’ ส่งต่อเงินเดือน ต่อยอดสร้างรอยยิ้ม-ความสุขให้เด็ก

17.00 น. ภายหลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศส่งต่อเงินเดือนและเบี้ยประชุมที่ได้จากตำแหน่งทุกเดือนให้มูลนิธิต่างๆ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ล่าสุด เพจมูลนิธิเด็ก (FOUNDATION FOR CHILDREN) โพสต์ข้อความ ระบุว่า น้องๆ และพนักงานของมูลนิธิ ขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ได้มอบเงินบริจาคจำนวน 45,000 บาท เพื่อใช้สำหรับจัดหาสิ่งของที่เป็นประโยชน์กับเด็กๆ ในมูลนิธิ จำนวน 90 คน สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับเด็กๆ และคณาจารย์อย่างมากมายขอบคุณโครงการดีๆ ของนายกฯเศรษฐา ที่เข้ามาสนับสนุนมูลนิธิเด็กในครั้งนี้ และยังรับฟังปัญหาเพื่อนำไปหาทางออกให้พวกเรา

สำหรับอาหารเพื่อชีวิตใหม่ บ้านทานตะวัน วันอาทิตย์ที่ 1 ตุลาคม 2566 รายนามผู้ใหญ่ใจดีเป็นเจ้าภาพมื้ออาหารเย็น นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เมนูยำวุ้นเส้นและไก่ทอด

มูลนิธิเด็กอนุบาลหมู่บ้านเด็กสานรักขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน 1 ตุลาคม 2566 มื้อเย็น-แกงส้มผักรวมกุ้งสดและปีกไก่ทอด

พร้อมกันนี้ยังโพสต์รูปภาพกลุ่มเด็กๆ ขณะนั่งรับประทานอาหารและของว่าง โดยมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

>> นาทีชีวิต หนุ่มชักเกร็งหมดสติในรถ กู้ภัยทุบกระจกช่วยเหลือนำส่งรพ.

17.50 น. ศูนย์วิทยุ 191 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ชายนอนไม่ได้สติอยู่ภายในรถเก๋ง เคาะกระจกปลุกนานนับชั่วโมง ก็ยังไม่รู้สึกตัว บริเวณริมฟุตปาท หน้าร้านสะดวกซื้อ ถนนอำเภอ เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงประสานตำรวจสายตรวจจักรยานยนต์ สภ.เมืองอุดรธานี จำนวน 3 คัน และอาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ

พบรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน อุดรธานี จอดติดเครื่องยนต์อยู่ชิดขอบถนน ที่ปัดน้ำฝนปัดไปมา มีผู้ชายทราบชื่อภายหลังว่า นายปัญญา อายุ 42 ปี ไม่รู้สึกตัว อาสากู้ภัยจึงตัดสินใจทุบกระจกประตูหลังคนขับ และเอื้อมมือไปปลดล๊อคประตูด้านคนขับ พบว่านายปัญญายังมีลมหายใจ มีชีพจร แต่ใบหน้าซีดเหลือง ตาลอย น้ำลายไหล และมีอาการตัวเกร็ง ไม่มีกลิ่นสุรา คาดว่าโรคประจำตัวกำเริบ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์

>> นายกฯ ‘เศรษฐา’ ประชุมรับมือน้ำท่วม ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจริยะ กรมชลประทาน สามเสน กทม.

18.30 น. ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจริยะ กรมชลประทาน สามเสน กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินทางติดตามสถานการณ์น้ำโดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด

นายกฯ กล่าวว่า เบื้องต้นจากการรับฟังรายงาน ตนเป็นห่วงสถานการณ์ที่ จ.แพร่ ลำปาง และอุบลราชธานี ที่แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงไปแล้วบ้างแต่ต้องเผ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่ต้องดูแลฟื้นฟูความเสียหายบ้านเรื่อนประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จ.สุโขทัย น่าเป็นห่วงที่สุดเพราะต้องรองรับมวลน้ำจาก จ.แพร่ สู่พื้นที่เกษตรกรรมและตัวเมืองบางส่วน เรื่องสำคัญวันนี้ต้องวางแผนรับมือมวลน้ำที่เข้ามาอีกระลอก และขอว่าอย่ามองระยะสั้นอย่างเดียว วันนี้เรื่องสำคัญที่ต้องหารือคือการวางแผนรับมือกับมวลน้ำที่จะเข้ามาอีกระลอก ซึ่งจะซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปกว่าเดิม การประชุมวันนี้ขอให้ทุกท่านให้ความเห็นอย่างเต็มที่ ติดขัดอะไรขอให้พูดกันตรง ๆ เพื่อแก้ปัญหาได้ตรงจุดและทันสถานการณ์ 
ทั้งนี้ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมเพียงสั้น ๆ ว่า เป็นห่วงจ. สุโขทัย โดยวันที่ 2 ต.ค.นี้ เวลา 08.00 น. จะมีน้ำไหลเข้าจ.สุโขทัย ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว

>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 2 ตุลาคม 2566 เวลา 05.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 696,012,229 ราย รักษาอาการดีขึ้น 668,015,799 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,921,358 ราย

1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 108,729,288 ราย เสียชีวิต 1,176,845 คน (เพิ่มขึ้น 67 คน) 
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,998,782 ราย เสียชีวิต 531,930 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด) 
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 40,138,560 ราย เสียชีวิต 167,642 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด) 
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,493,206 ราย เสียชีวิต 176,071 คน (เพิ่มขึ้น 13 คน) 
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,796,956 ราย เสียชีวิต 705,775 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)