วันที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 11:22 น.
วันที่ 27 กันยายน 2566 จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งยังคงได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน เข้าสู่วันที่ 2
ทำให้แหล่งน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุดยังคงเกินระดับกักเก็บ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการปรับแผน เพิ่มการระบายน้ำจากเดิมวันละ 13 ล้าน ลบ.ม.เป็นวันละ 17 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรักษาสมดุล พร้อมทั้งเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ด้านล่าง เพื่อที่จะได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด
นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว หรือ เขื่อนลำปาว พร้อมเจ้าหน้าที่ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำปาวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการระบายน้ำที่บริเวณอาคารระบายน้ำ และตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของสันเขื่อน
นายสำรวย กล่าวว่า ปัจจุบันยังมี น้ำไหลเข้า อ่างเก็บน้ำลำปาวเฉลี่ยวันละ 20 – 25 ล้าน ลบ.ม. และล่าสุดวันนี้มีน้ำไหลเข้าเพิ่มอีกกว่า 30 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 2,034 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 102.73 ของความจุที่ระดับเก็บกัก 1,980 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีปริมาณน้ำเกินระดับเก็บกัก 54 ล้าน ลบ.ม.
รวมทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ และออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่อาจมีฝนตกหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ซึ่งจะมีฝนตกใน จ.กาฬสินธุ์ และ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อนด้วย จึงอาจทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ และจากค่าเฉลี่ยในเดือนตุลาคม จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำอีกประมาณ 240 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ เพื่อให้กระทบพื้นที่ด้านล่างน้อยสุด จึงขอประกาศให้ประชาชนด้านท้ายเขื่อน บริเวณสองฝั่งลำน้ำปาว ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขนย้ายสิ่งของที่อยู่บริเวณที่ต่ำขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหาย ซึ่งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จะประกาศสถานการณ์น้ำให้ได้ทราบเป็นระยะต่อไป
อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวสันเขื่อน และอาคารระบายน้ำ มีการตรวจสอบ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง ยืนยันว่ายังคงมีความมั่นคงแข็งแรงเหมือนเดิม
13 ธันวาคม 2568
13 ธันวาคม 2568
13 ธันวาคม 2568
13 ธันวาคม 2568