หน้าแรก > สังคม

ดีอีเอสเตรียมร้องศาลปิด Facebook ในไทย หลังเมินปล่อยมิจฉาชีพยิงโฆษณาหลอกประชาชน

วันที่ 21 สิงหาคม 2566 เวลา 16:52 น.


วันนี้ (21 สิงหาคม 2566) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)เผย ดีอีเอส อยู่ระหว่างการเรียบเรียงหลักฐานจากผู้กระทำความผิดบนแพลตฟอร์มเฟสบุ๊คเพื่อส่งศาลให้มีการปิดเฟสบุ๊คภายในสิ้นเดือนนี้และขอให้ศาลสั่งปิดเฟสบุ๊คภาคใน 7 วัน โดยการกระทำผิดของเฟสบุ๊ค เนื่องจากเฟสบุ๊ค ได้รับการโฆษณาจากผู้กระทำความผิดมิจฉาชีพในการลงโฆษณา และหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อในการลงทุนและซื้อสินค้าผ่านเฟสบุ๊ค เมื่อลูกค้าหลงเชื่อและชำระค่าสินค้าแล้วได้สินค้าไม่ตรงปก ที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 200,000 รายหรือประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์จาก 300,000 ราย มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมระบุ "ถ้าเฟสบุ๊คไม่ช่วยเหลือประเทศไทย ถ้าเขาอยากทำธุรกิจในประเทศไทย เขาต้องแสดงความรับผิดชอบกับสังคมไทย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงได้คุยกับเฟสบุ๊คตลอดเวลา แต่กลับไม่สกรีนผู้มาลงโฆษณาทำให้ประชาชนชาวไทยได้รับความเสียหายมากกว่า 100,000 ล้านบาท”

"โดยจากสถิติการหลอกลวงลงทุนผ่านโซเซียลมีเดียพบมากกว่า 70% เป็นการหลอกลวงผ่าน เฟซบุ๊ก และจำนวน 90% เป็นการหลอกขายของออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก ที่ผ่านมาเฟซบุ๊กมีการรับเงินจากเพจเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นรายได้เข้าบริษัท แต่กลับไม่มีการตรวจสอบ และสกรีน ว่าเป็นเพจที่หลอกลวงหรือไม่ แต่กลับปล่อยให้เพจเหล่านี้มาหลอกลวงคนไทยจำนวนมาก แม้ที่ผ่านมา ดีอีเอส จะรวบรวมเสนอศาลขอคำสั่งปิดแต่เพจเหล่านี้ก็จะไปเปิดใหม่ เหมือนแมวไล่จับหนู ไม่จบสิ้น ทั้งนี้จะมีการแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มด้วย ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาด้วย ขณะที่ทางดีอีเอสจะประสานกับทางตำรวจทำการรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องต่อศาลเพื่อปิดกั้นแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กไม่ให้บริการในไทย เนื่องจากผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการสมคบกับผู้กระทำผิด โดยการรับเงินโฆษณาจากมิจฉาชีพเหล่านี้ ซึ่งจะขออำนาจศาลปิดภายใน 1 เดือน"

สำหรับ สถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ก่อน พ.ร.ก.ปราบอาชญากรรมไซเบอร์ ( 1 ม.ค.- 16 มี.ค. 66) เฉลี่ย 790 เรื่องต่อวัน ส่วนหลังมี พ.ร.ก. (17 มี.ค.- 31 ก.ค.66) เกิดรวม 80,405 คดี เฉลี่ย 591 คดีต่อวัน สถิติการเกิดคดีลดลงเฉลี่ย 199 คดี/วัน ขณะที่สถิติการอายัดบัญชี ก่อนมี พ.ร.ก. ( 1 ม.ค.- 16 มี.ค.) มีการขออายัด1,346 ล้านบาท อายัดทัน  87 ล้านบาท คิดเป็น 6.5 % ส่วนหลังมี พ.ร.ก. (17 มี.ค.- 31 ก.ค.66)  มีการขออายัด 2,792 ล้านบาท อายัดทัน 297 ล้านบาท คิดเป็น 10.6 %

ด้านการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าและซิมม้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าและซิมม้า รวม 364 ราย ดังนี้ บัญชีม้า รวม 254 ราย, ซิมม้า รวม 43 ราย , ซื้อขายบัญชีม้า รวม 14 ราย ,ซื้อขายเลขหมายโทรศัพท์ รวม 53 ราย

ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่แนะนำการลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่แอปพลิเคชัน SEC Check First และเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th หัวข้อ SEC Check First หรือหากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสงสัย หรือได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปกติ ผ่านเอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์  สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และโทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม