หน้าแรก > ต่างประเทศ

'หม้อไฟหม่าล่า' ครองกระแสนิยมในอาเซียน

วันที่ 5 สิงหาคม 2566 เวลา 16:28 น.


สำนักข่าวซินหัวรายงาน เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ช่วงไม่กี่ปีมานี้ อาหารจีนอย่าง "หม้อไฟหม่าล่า" รสชาติจัดจ้านกลายเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ "เมียนมา" ที่มีร้านหม้อไฟหม่าล่าอยู่ไม่น้อยในปัจจุบัน

เยี่ยนเสียงซวี่ วัย 37 ปี ชาวเมียนมาเชื้อสายจีนเจ้าของร้านหม้อไฟหม่าล่าในนครย่างกุ้ง เล่าว่าอาหารจีนรสชาติหม่าล่าเริ่มปรากฏในเมียนมาเมื่อสิบปีก่อน และค่อยๆ แพร่หลายจนตอนนี้หารับประทานหม้อไฟหม่าล่าตามร้านอาหารหลายแห่งได้ ซึ่งกลายเป็นเมนูสำหรับฉลองเทศกาลตรุษจีนในเมียนมาอีกด้วย หม้อไฟหม่าล่าของเยี่ยนนั้นรู้จัก "เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม" โดยเยี่ยนเผยว่าเมียนมามีอากาศร้อนอบอ้าว ชุดเครื่องปรุงหม้อไฟหม่าล่าของเขาจะไม่มันเกินไปเพราะชาวเมียนมามักรับประทานน้ำซุปทีหลังด้วย และใช้น้ำมันหอมใสเพราะชาวเมียนมาไม่ค่อยรับประทานเนื้อวัว

เยี่ยนรักษารสชาติต้นตำรับของหม้อไฟหม่าล่าด้วยการยังคง "ความเป็นจีน" ผ่านส่วนผสมที่สั่งซื้อจากเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งมอบรสชาติเผ็ดร้อนจัดจ้านอันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำในเมียนมาไม่ได้ โดยส่วนผสมนำเข้าจะถูกปรับให้มีรสชาติถูกปากคนท้องถิ่น นอกจากนั้นเยี่ยนยังทำธุรกิจร่วมกับซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น เพื่อวางจำหน่ายชุดเครื่องปรุงหม้อไฟหม่าล่าสำหรับรับประทานที่บ้าน ซึ่งติดฉลากทั้งภาษาเมียนมาและภาษาจีนเพื่อชาวจีนโพ้นทะเลสามารถหยิบซื้อได้ด้วย โดยยอดจำหน่ายชุดเครื่องปรุงหม้อไฟหม่าล่านี้พุ่งสูงถึง 2-3 หมื่นห่อต่อเดือน

หลี่จิ้ง นักศึกษามหาวิทยาลัยชาวจีนที่เคยไปแลกเปลี่ยนที่นครย่างกุ้ง บอกว่าย่างกุ้งมีร้านหม้อไฟหม่าล่าเยอะมาก และเมนูนี้เป็นหนึ่งในหัวข้อที่เขาได้พูดคุยกับเพื่อนชาวเมียนมาบ่อยครั้ง โดยหลี่มองว่า "ความเผ็ดชาเข้มข้น" สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ จึงทำให้คนไม่น้อยชื่นชอบหม้อไฟหม่าล่า

เวลาเดียวกัน "ไทย" เป็นอีกหนึ่งประเทศที่นิยมรับประทานหม้อไฟหม่าล่า โดยข้อมูลจากแพลตฟอร์มเหม่ยถวนและเตี่ยนผิงระบุว่า ยอดค้นหาคำว่า "หม่าล่า" และ "หม้อไฟ" ในไทยพุ่งทะยานร้อยละ 700 เมื่อเทียบปีต่อปี ทั้งมีร้านปิ้งย่าง หม้อไฟหม่าล่าผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด อนึ่ง แรงผลักดันจากการดำเนินแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) การสร้างระเบียงการค้าทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศใหม่ และการบังคับใช้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ช่วยขยายความร่วมมือทางการค้าและโลจิสติกส์ระหว่างจีนและอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ปีนี้จีนจัดงานมหกรรมการค้าหลายรายการและเชื้อเชิญผู้คนจากกลุ่มประเทศอาเซียนเข้าร่วม ดังเช่นการประชุมทางธุรกิจล้านช้าง-แม่โขง ครั้งที่ 5 ซึ่งมีตัวแทนอุตสาหกรรมต่างๆ จาก 6 ประเทศที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือโอกาสความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรและการแปรรูปอาหาร สุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการบริหารสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ซึ่งเข้าร่วมการประชุมข้างต้น ระบุว่าการเร่งเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศล้านช้าง-แม่โขง ได้เกื้อหนุนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่ส่งผลดีต่อการขยายตลาดและการค้าของอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร

 

ที่มา : xinhuatha

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม