4 สิงหาคม 2566 อธิบดีกรมปศุสัตว์ไทยหารือผู้บริหารสำนักงานอาหาร (SFA) และหน่วยงานดูแลด้านสุขภาพสัตว์ (AVS) สิงคโปร์เพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ โดยนำเสนอถึงความก้าวหน้าในการควบคุมโรคในสุกรและมาตรฐานอุตสาหกรรมการผลิตสุกร หวังเจรจาเปิดตลาดเนื้อสุกรแช่เย็นส่งออกไปสิงคโปร์ สำหรับ 9 เดือนของปี 2566 ไทยส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังสิงค์โปรราว 54,000 ตัน เป็นมูลค่า 4,500 ล้านบาทแล้ว 

นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์พร้อมคณะเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยได้เข้าพบและประชุมหารือร่วมกับคณะผู้บริหารสำนักงานอาหารสิงคโปร์ (Singapore Food Agency: SFA) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางอาหารของสิงคโปร์ รวมถึงคณะผู้บริหารจากหน่วยงาน Animal and Veterinary Services (AVS) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านสุขภาพสัตว์ ภายใต้ National Park Boards (NParks) เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และส่งเสริมด้านการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ 

กรมปศุสัตว์ได้นำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าในการกำกับดูแลระบบการควบคุมด้านสุขภาพสัตว์และระบบอุตสาหกรรมการผลิตสุกรตั้งแต่ฟาร์มถึงผู้บริโภคประกอบด้วย การดำเนินงานในการควบคุมและเฝ้าระวังโรคในสุกร รวมถึงการดำเนินงานในการรับรองฟาร์มปลอดโรคสุกรในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 3 โรค ได้แก่ โรคปากและเท้าเปื่อย (Foot and Mouth Disease: FMD) โรคอหิวาต์สุกร (Classical Swine Fever: CSF) และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever: ASF) รวมถึงมาตรการการปฏิบัติที่ดีในโรงฆ่าและโรงงานแปรรูปของสินค้าปศุสัตว์ไทย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์และมาตรฐานสากล เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้สิงคโปร์มีความเชื่อมั่นในระบบการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่การผลิตของสินค้าปศุสัตว์ไทย โดยกรมปศุสัตว์ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกรกำลังผลักดันการเปิดตลาดส่งออกเนื้อสุกรแช่เย็นไปยังสิงคโปร์

อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้เรียนเชิญเจ้าหน้าที่จาก SFA และ NParks มาเยือนประเทศไทย เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเนื้อสุกร ตั้งแต่ฟาร์ม โรงฆ่าสัตว์ ตลอดจนโรงตัดแต่ง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สิงคโปร์ว่า ผลิตภัณฑ์ที่จะส่งออกมายังสิงคโปร์มีความปลอดภัยและมีคุณภาพ 

ปัจจุบัน ( มค.-ส.ค. 2566) ประเทศไทยสามารถส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังประเทศสิงค์โปรได้ราว 54,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 4500 ล้านบาท โดยสินค้าปศุสัตว์ที่สามารถส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกแปรรูปปรุงสุก เนื้อสัตว์ปีกสดแช่แข็ง เนื้อสุกรแปรรูปปรุงสุก  ไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ไข่แปรรูป นมและผลิตภัณฑ์นม ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องประเภทน้ำซุป   น้ำผึ้ง รังนก เป็นต้น 

อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้กล่าวขอบคุณ SFA และ Nparks ที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการค้าระหว่างกันเป็นอย่างดี ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนความรู้ ข้อคิดเห็นด้านการกำกับดูแลสุขอนามัยสัตว์ของฝ่ายไทยและสิงคโปร์ รวมถึงเปิดโอกาสให้กรมปศุสัตว์ได้นำเสนอความก้าวหน้าในการกำกับดูแลระบบการควบคุมด้านสุขภาพสัตว์และระบบอุตสาหกรรมการผลิตสุกรตั้งแต่ฟาร์มถึงผู้บริโภคดังกล่าว เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือด้านการเจรจาเปิดตลาดส่งออกเนื้อสุกรไปยังประเทศสิงคโปร์ในอนาคตต่อไป