วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 เวลา 13:55 น.
วันนี้ (8 ก.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดอยธิเบศร์ ดัชนี ทายาทเพียงคนเดียวของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตามหาแท็กซี่ หลังได้ฟังเรื่องราวสุดช้ำ โดยตั้งใจช่วยส่งลูกเรียนจนจบ ระบุว่า ประกาศตามหา Taxi สีชมพู คนขับอายุประมาณ 50 ปี บ้านอยู่สมุทรสาคร มีลูกสาว 1 คน ลูกชาย 1 คน รับคนจากบางกร่าง ไปเอมควอเทียร์ ประมาณเมื่อวานบ่ายสามโมง ถ้าคุณเป็น FC ตามที่คุณพูดถึงผมจริง กรุณาติดต่อผมกลับด้วยครับ!!!!”
ดอยธิเบศร์ ยังได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดในคอมเมนท์ว่า เมื่อวาน ราวบ่ายสาม พี่เอก (ศิลปิน) นั่งรถTaxi จากบางกร่าง มุ่งหน้าไปงานที่เอมควอเทียร์ ในขณะที่นั่งไปนั้น คนขับทักว่า พี่เป็นศิลปินเหรอครับ? พี่เอกตอบว่า ใช่ครับผมทำงานศิลปะ แล้วคนขับก็บอกว่า ผมศรัทธาอาจารย์ถวัลย์ครับ แต่เสียดายท่านอายุไม่มาก น่าจะอยู่ได้นานกว่านี้ และผมศรัทธาลูกของท่านด้วยครับ
ผมเป็น FC เขา คุณดอยธิเบศร์ เป็นเศรษฐีตัวอย่าง ผมนับถือใจเขา ผมเห็นเขาทำงานหนักมาก ทำบุญทำกิจกรรมช่วยโรงพยาบาล ช่วยคนตลอด ถ้าผมเป็นเขาผมคงแบบทำไม่ได้แบบนี้
แต่อย่างว่านะครับ คนเราชีวิตมันบางทีมันก็เลือกเกิดไม่ได้ ผมมาจากเพชรบูรณ์ครับ บวชนานเกินไปเลยโง่ พอพ่อแก่ตัวผมต้องสึกออกมาดูแลพ่อ พอพ่อตาย ผมตามคนไม่ทันจนถูกเขาโกง เลยต้องหนีมาเริ่มต้นใหม่กับครอบครัวที่สมุทรสาคร เมียผมก็ตาย
ผมต้องขับรถ Taxi เลี้ยงลูกสองคน ลูกสาวผมเรียนอยู่ ม.3 ผมมีปัญญาส่งแค่นี้ เลยขอลูกว่าขอให้เรียนแค่ ม.3 พอ ส่วนลูกชายก็กำลังเรียนอยู่ตั้งใจว่าจบ ม.3 ก็จะขอให้ออกมาทำงาน ลูกทั้งสองเขาก็โกรธผมที่ส่งได้แค่นี้
พี่เอกฟังอย่างตั้งใจและไม่พูดอะไร คนขับพูดไปเสียงสะอื้นผ่านหน้ากาก น้ำตาไหล ถ้าลูกผมเรียนถึง ม.3 จะให้เขาทำงาน ส่วนผมก็จะกลับไปบวชต่อ เมื่อถึงปลายทาง พี่เอกเปิดรูปให้คนขับดูว่า ทุกคนที่คุณพูดถึง ผมรู้จักทุกคน
คนขับเห็นรูปแล้วสะอื้นให้ น้ำตานองหน้า พี่เอกยัดเงินให้ในมือ 1,000 บาท คนขับไม่ยอมรับ แต่พี่เอกบอกว่าเก็บเอาไว้พาลูกๆ พี่ไปกินอะไรอร่อยๆ บ้าง คนขับบอกว่า ถ้าผมมีบุญสักวันคงได้เจอพี่และคุณดอย
วันนี้ผมไปประชุมงาน แล้วเจอพี่เอก แกเลยเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง ผมถามว่า พี่จำรายละเอียดต่างๆ ได้มั้ย? ชื่อคนขับ ป้ายทะเบียน “ผมอยากช่วยลูกๆ ของพี่เขาทั้งสองคนให้ได้เรียนหนังสือจนจบ”
ผมจึงมาประกาศตามหา ถ้าพี่ Taxi เห็นข้อความนี้ รบกวนติดต่อผมทีนะครับ”