วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลา 03:05 น.
จับรถขนต่างด้าวเถื่อน 16 คน ทั้งหมดเพิ่งถูกจับกุมและผลักดันกลับไปแล้ว แต่ก็ยังกลับเข้ามาอีก
กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โดย พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.3 กก.7 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา
1.นายโซ (สัญชาติเมียนมา) อายุ 32 ปี (คนขับรถ)
2.บุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 16 คน
โดยแจ้งข้อหา ผู้ถูกจับที่ 1 กระทำความผิดฐาน “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวเหล่านั้น เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64” และ ผู้ถูกจับที่ 2-17 กระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 81” จับกุมได้ที่ ทล.41 (เอเชีย) กม. ที่ 19 - 20 (ขาออก) ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร
พร้อมของกลาง
1.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ยี่ห้อ TOYATA รุ่น VIGO จำนวน 1 คัน และกุญแจรถ จำนวน 1 ดอก
2.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ VIVO รุ่น V29 สี ชมพู จำนวน 1 เครื่อง
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสงขลา ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันอาชญากรรมและดูแลความเรียบร้อยบนถนนทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงกิโลเมตรที่ 1222–1223 ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ขณะออกตรวจ เจ้าหน้าที่พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ขับแซงรถเจ้าหน้าที่ไปอย่างมีพิรุธ สังเกตเห็นรถดูหนักผิดปกติ อีกทั้งหมายเลขทะเบียนตรงกับข้อมูลรถต้องสงสัยที่เคยถูกบันทึกในฐานข้อมูลการข่าวของตำรวจทางหลวงสงขลา ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบ
เมื่อตรวจภายในพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมานั่งเบียดกันอยู่เต็มคันรถจำนวน 16 คน ส่วนผู้ขับขี่เป็นชายชาวเมียนมา ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู)จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงรัตภูมิเคยจับกุมเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นถูกดำเนินคดีในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และถูกส่งตัวให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองดำเนินการผลักดันกลับประเทศพม่า ทางด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา
หลังถูกผลักดันกลับประเทศเพียง 3 วัน แรงงานกลุ่มเดิมทั้งหมดได้ลักลอบกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางธรรมชาติบริเวณชายแดนพม่า–ไทย จุดด่านเจดีย์สามองค์จังหวัดกาญจนบุรีพร้อมว่าจ้างนายหน้าในฝั่งพม่าและไทยให้ช่วยประสานขนส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซียจากการสอบปากคำผู้ขับรถ ให้การยอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายหน้าชาวพม่าผ่านคนไทยรายหนึ่ง ซึ่งเพิ่งถูกจับกุมในคดีนำพาแรงงานต่างด้าวเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้รับค่าจ้าง 1,000 บาทต่อหัว รวมเป็นเงินประมาณ 16,000 บาท เพื่อขับรถกระบะไปรับแรงงานกลุ่มนี้จากบริเวณป่าละเมาะใกล้ด่านสิงขร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แล้วขับมาส่งยังพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
ผู้ต้องหารับสารภาพเพิ่มเติมว่า ตนประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปอยู่ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทำหน้าที่ล่ามภาษาเมียนมาให้กับคนงานก่อสร้าง ก่อนหน้านี้ไม่เคยรับงานลักลอบขนแรงงานมาก่อน แต่เมื่อเห็นว่าค่าจ้างสูงจึงยอมรับงาน โดยรถที่ใช้กระทำความผิดเป็นรถที่เช่ามาจากเพื่อนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครด้านแรงงานต่างด้าวทั้งหมดให้การผ่านล่ามว่า หลังถูกผลักดันกลับประเทศได้ไม่นาน พวกตนได้ติดต่อกับนายหน้าชาวพม่าอีกครั้ง เพื่อหาช่องทางกลับเข้ามาในประเทศไทย เนื่องจากไม่มีที่อยู่อาศัยในประเทศเมียนมา และตั้งใจจะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหางานทำ โดยยอมจ่ายค่าจ้างให้กับขบวนการนำพากว่าคนละ 20,000 บาท





9 ธันวาคม 2568
9 ธันวาคม 2568