วันที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลา 17:32 น.
11 ตุลาคม 2568 นายจำลอง อนันตสุข สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การท่องเที่ยวและการกีฬาวุฒิสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9-20 ธ.ค.นี้ ว่า ขณะนี้เหลือเวลาในการจัดทุกอย่างให้เสร็จไม่ถึง 2 เดือน เรื่องของสนามต้องเสร็จสิ้นหมดแล้ว เพราะนักกีฬาบางชาติต้องเดินทางเข้ามาล่วงหน้าเพื่อซ้อมให้คุ้นชินกับสนาม แต่ในขณะนี้ เรายังไม่มีความพร้อม ยังปรับนั่นปรับนี้อยู่
ในส่วนของการถ่ายทอดสด เมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) ตนได้พูดคุยกับทางกรมประชาสัมพันธ์ ได้ทราบว่ามีการพูดคุยเท่านั้น แต่งบประมาณยังไม่มีการถ่ายโอนมา การจัดซื้อจัดจ้าง หน่วยงานไหนเป็นผู้รับผิดชอบยังไม่มีการสรุปมา แม้กระทั่งถนนในกรุงเทพฯเอง ก็ยังไม่มีการปรับภูมิทัศน์ที่แสดงออกว่าเราเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์เลย ต่างจากจ.ชลบุรี และ จ.สงขลา ที่มีความกระตือรือร้นในการจัดการ
นายจำลอง กล่าวต่อว่า เรื่อง "โลโก้" ก็ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หรือประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปทราบว่าจะใช้แบบไหน เพราะที่ผ่านมามีการถกเถียงกันว่าจะออกแบบใหม่ หรือใช้โลโก้เดิม "ผมเข้าใจว่าก่อนหน้านี้มีปัญหาเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้ออกแบบ ไม่อนุญาตให้นำโลโก้ดังกล่าวไปใช้เป็นภาพเคลื่อนไหว และไม่อนุญาตให้นำไปติดบนตัวของที่ระลึก โดยอนุญาตให้ใช้เป็นภาพนิ่งเท่านั้น ซึ่งภายหลังผู้ออกแบบได้อนุญาตให้ใช้โลโก้แล้ว ต้องขอขอบคุณผู้ออกแบบที่ยอมถอยเพื่อให้ผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ แต่คำถามคือประชาชนทั่วไปทราบหรือไม่ว่าเรากำลังจะเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ และโลโก้หน้าตาเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องทำการบ้านให้หนักว่าเราจะประชาสัมพันธ์อย่างไรให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน" นายจำลอง กล่าว
นายจำลอง กล่าวว่า ส่วนมาสคอต ‘เดอะสาน’ ที่เดิมมี 7 ตัว 7 สี เพื่อสะท้อนความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมของประเทศไทยและอาเซียน ถูกเปลี่ยนเป็น 2 ตัวสีธงชาตินั้น ส่วนตัวมองว่าการใช้สีธงชาติเป็นมาสคอตนั้นไม่เหมาะสม และไม่มีชาติไหนนำสีธงชาติมาทำมาสคอต เต็มที่ก็คือ "มาสคอต" ถือธงชาติเท่านั้น สิ่งทึ่สำคัญทั้ง โลโก้ และ มาสคอต ควรจะทำเสร็จตั้งแต่เราไปรับเป็นเจ้าภาพแล้วเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า เราเปลี่ยนรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬามาไม่รู้กี่คนแล้ว แต่ปัญหานี้ยังไม่จบจนเหลือเวลาเพียง 2 เดือน
นายจำลอง กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลชุดนี้เห็นถึงความความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งตนหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยิ่งใหญ่เพื่อให้ชาวต่างชาติรู้สึกประทับใจและวนกลับมาเที่ยวในไทยซ้ำเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในระยะยาว